ฟุตบอลถ้วยยุโรปใบใหญ่สุดของยุโรป หรือยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเดินทางมาถึงรอบน็อกเอาต์ (รอบ 16 ทีมสุดท้าย) แล้ว และคอบอลหลายท่านก็คงได้ทราบโฉมหน้าของทีมต่างๆที่ผ่านมาเข้ามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ ซึ่งสิ่งนึงที่ต้องพูดถึงกันตามมาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการที่สองทีมดังจากอังกฤษต้องจับพลัดจับผลูไปเจอกับสองทีมที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกเวลานี้ ทีมนึงเป็นทีมจากเยอรมัน “บารเยิร์น มิวนิค” อีกทีมเป็นทีมจากสเปน “บาร์เซโลน่า” โดยสองทีมจากอังกฤษที่ต้องมาเจอสองทีมนี้ก็คือ อาร์เซน่อล และแมนฯซิตี้ ตามลำดับ
แต่ทว่านอกจากไฮไลท์ดังกล่าวนี้ ที่หลายคนพูดถึงกันแล้ว ก็ยังมีไฮไลท์อื่นที่น่าสนใจอีก โดยเฉพาะการที่บรรดาทีมจากอังกฤษ และเยอรมันสามารถพากันทะลุผ่านเข้ารอบนี้มาได้แบบครบถ้วนทั้ง 4 ทีมนั่นเอง ทีมจากอังกฤษประกอบไปด้วยแมนฯซิตี้ อาร์เซน่อล เชลซี และ แมนฯยูไนเต็ด ทีมจากเยอรมันประกอบด้วย ดอร์ทมุนด์ บาเยิร์น มิวนิค ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และชาลเก้ 04 คือรวมกันสองชาติก็ปาไป 8 ทีมแล้ว เหลือโควตาอีก 8 ทีมให้ชาติอื่นๆกัน สำหรับในส่วนของทีมจากสเปน ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งชาติที่มีฟุตบอลลีกที่ดีที่สุด ทะลุเข้ามาได้ในรอบนี้ทั้งหมด 3 ทีม (บาร์เซโลน่า รีล มาดริด และแอตฯมาดริด) ก็แน่นอนว่าถือเป็นจำนวนที่เยอะเหมือนกัน แม้ว่าจะน้อยกว่าสองชาติอย่างอังกฤษ และเยอรมัน แต่ดูแล้วโอกาสที่จะทะลุเข้ารอบต่อไปก็มีไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย
เผลอๆจะดีกว่าทีมจากอังกฤษซะด้วยซ้ำครับ เพราะอย่างที่กล่าวตั้งแต่อังกฤษต้องเจอกับสองทีมหนักๆ ซึ่งเป็นทีมจากสเปนด้วยทีมนึง อย่างไรก็ตามครับไม่ว่าที่สุดแล้วผลการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร แต่กับการที่ทีมจากอังกฤษ และเยอรมันสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ทีมชาติละ 4 ทีม หรือจากสเปนด้วยก็เช่นกันที่ทะลุมา 3 ทีมนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามาตรฐานฟุตบอลลีกของสามชาตินี้ยังคงนำชาติอื่นๆในยุโรปอยู่มากโขทีเดียว
