Topics

826

ข่าวฟุตบอล / "หงส์แดง" สุดมันส์ตั้งแต่นัดแรก

« on: August 19, 2013, 09:40:46 PM »

       เป็นคู่เปิดศึกพรีเมียร์ลีก 2013-2014 ที่สุดมันส์จริงๆ สำหรับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล และ ช่างปั้นหมอ สโต๊ค ซิตี้ ที่เริ่มคิกออฟก่อนคู่อื่นตั้งแต่ช่วงค่ำๆตามเวลาบ้านเรา โดยเกมนี้เจ้าบ้านหงส์แดง มาเล่นตามฟอร์มที่ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ คือเล่นครองบอล จ่ายบอลกับพื้น แต่ปัญหาเดิมๆจากฤดูกาลที่แล้วของทีมก็ยังไม่หมดไป บุกได้เยอะ มีโอกาสยิงเยอะ แต่จบสกอร์ไม่ลง สกอร์เดียวที่ได้มาของหงส์แดงในเกมนี้มาจากดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งด้วยความที่ได้มาเพียงสกอร์เดียวนี้จึงทำให้ช่วงท้ายเกมทีมช่างปั้นหมอ สโต๊คบุกกดดันลิเวอร์พูลอย่างหนักหน่วงเพื่อหวังทวงประตูคืน

       แล้วมันก็เกือบสำเร็จด้วย เมื่อหงส์แดงต้องมาเสียจุดโทษ แต่ทว่าซิมง มิโญเล่ นายทวารมือกาวที่ย้ายมาใหม่โชว์ซุปเปอร์เซฟจุดโทษและลูกยิงซ้ำของผู้เล่นทีมช่างปั้นหมอ ทำให้เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะแบบหวิดหวิวของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลอย่างสุดมันส์ ประเดิมสามคะแนนแรกของฤดูกาลได้อย่างชนิดที่ต่างไปจากหลายฤดูกาลก่อนๆ เพราะที่ผ่านมาในหลายๆฤดูกาลลิเวอร์พูลมักจะประเดิมนัดแรกได้ไม่สวย หนักไปทางเสมอกับแพ้ หาชัยชนะไม่ค่อยเจอ ส่วนในเกมฤดูกาลปัจจุบันที่ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะได้นั้น แม้ว่าจะน่ายินดีสำหรับทีมเจ้าบ้าน กระนั้นหากมองไปที่ทีมเยือนสโต๊คก็นับว่าน่าเห็นใจมากเลยทีเดียว ด้วยการมีความหวังจากจุดโทษ และการได้ครองเกมบุกในช่วงท้ายเกมนั้นมันเกือบจะส่งให้พวกเขารอดพ้นจากความพ่ายแพ้ในแมทนี้ได้แล้ว

       แต่แล้วเมื่อไม่ได้อย่างที่หวัง สิ้นเสียงนกหวัดจบเกมการแข่งขันพวกเขาต้องกลับออกจากสนามไปแบบมือเปล่า คิดแล้วมันก็ทั้งเสียดาย ทั้งเสียใจแทนทีมของพวกเขาจริงๆครับ อย่างไรก็ตามครับการแพ้เพียงสกอร์เดียวนั้น มองในแง่ดีก็ยังเป็นผลดีต่อพวกเขาในด้านของผลต่างประตูได้เสีย คืออย่างน้อยก็ -1 ประตูเท่านั้น ทั้งๆที่จริงในเกมนี้หงส์แดงน่าจะจบสกอร์ได้มากกว่า 2-3 ลูกเลยด้วยซ้ำ

827

ข่าวฟุตบอล / "บาร์ซ่า" ไม่เสริมกองหลังแล้วหรือ

« on: August 19, 2013, 09:39:49 PM »

       มีข่าว่ากำลังวิ่งวุ่นหากองหลังมาเสริมทัพสำหรับทีมอราซูกราน่า บาร์เซโลน่า แต่ไม่รู้นึกยังไงตอนนี้ มาร์ติโน่ กุนซือทีมบาร์เซโลน่าออกมาประกาศว่าไม่ต้องการเสริมทัพด้วยผู้เล่นกองหลังแล้ว เพราะตอนนี้รู้สึกพอใจกับขุมกำลังในเกมรับของทีมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งส่วนนึงก็คงต้องบอกว่าเป็นเพราะการหายเจ็บกลับมาของ คาเลส ปูโยล กองหลังวัยเก๋าด้วย โดยก่อนหน้าที่ปูโยลบาดเจ็บทำให้กองหลังตัวหลักที่เล่นตรงกลาง หรือเซ็นเตอร์นั้นมีเพียงตัวเดียวคือในรายของ ปีเก้

       หลายๆนัดก็เลยจับเอามาสเคราโน่มาเล่นในตำแหน่งนี้คู่กับปีเก้ แต่พอปูโยลหายเจ็บกลับมาก็แน่นอนว่าเขาพร้อมกับมาประจำการในแดนหลังคู่กับปีเก้ได้ทันที แต่ถึงกระนั้นผมเองก็ยังมองว่ามันแปลกๆอยู่ดี เพราะปูโยลเองก็อายุมากแล้ว แล้วทำไมบาร์ซ่าไม่คิดจะเสริมทัพด้วยผู้เล่นกองหลังเสียตั้งแต่ตอนนี้? หรือว่าเหตุผลนั้นจะเป็นเพราะไม่สามารถเจรจาซื้อตัวกองหลังเป้าหมายได้สำเร็จ คือเล็งใครไว้ ต้นสังกัดเขาก็ไม่ยอมขาย ก็เลยจำต้องออกมาประกาศว่าทีมตนเองมีกองหลังที่ดีพอแล้วไม่ต้องการเสริมทัพแล้ว เพื่อที่อย่างน้อยหากจะยื่นซื้อใครจริงๆก็จะได้ไม่โดนโก่งราคาค่าตัว หรือถึงจะไม่ได้ยื่นซื้อใคร ทีมคู่แข่งอื่นๆก็จะได้ทราบไว้ว่าทีมบาร์ซ่านั้นไม่ได้มีปัญหาในแดนรับอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ

       เรียกว่าเป็นการใช้จิตวิทยาในการสู้กับคู่แข่งไว้ก่อน ทั้งนี้ผู้เล่นกองหลังเป้าหมายที่บาร์เซโลน่าเล็งไว้ แต่ต้องพลาดตัวไปทั้งหมด ประกอบด้วย ติอาโก้ของ เปแอสเช ดาวิด ลุยส์ของเชลซี และ แอ็กเกอร์ของลิเวอร์พูล แต่ละรายก็ล้วนแต่เป็นกองหลังคนสำคัญของต้นสังกัดเขาทั้งนั้น ซึ่งในฟุตบอลยุคใหม่แบบนี้ก็ยากล่ะครับที่ทีมเขาจะยอมขายให้ง่ายๆ ดังนั้นหากว่าบาร์เซโลน่าจะเสริมทัพด้วยผู้เล่นกองหลังใหม่ๆ ก็อาจต้องเล็งไปที่ผู้เล่นกองหลังที่ไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม ไม่ก็ประเภทใกล้หมดสัญญากับทีมแล้ว หรืออยู่ในลีกอื่นๆที่ไม่ใช่ลีกยอดนิยมอย่างพรีเมียร์ลีก และลีกเอิงครับ

828

ข่าวฟุตบอล / มาติเนซ แทนรูนี่ย์ (ไหวไหม?)

« on: August 19, 2013, 09:39:14 PM »

       หลังจากตามตื้อตัวเวนย์ รูนี่ย์ อยู่นาน เชลซีก็ถึงคราวถอดใจพร้อมเบนเป้าหมายไปหากองหน้ารายอื่นซะแล้ว โดยมีกระแสออกมาว่าเป็นทางด้าน แจ็คสัน มาติเนซ หัวหอกของเอฟซี ปอร์โต้ อดีตทีมที่โจเซ่ มูริญโญ่เคยคุมทีมก่อนย้ายมาคุมเชลซีในคำรบแรกเหมือนหลายปีก่อน โดยเวลานี้แหล่งข่าวระบุว่าเชลซีเตรียมยื่นข้อเสนอเป็นจำนวนราว 25 ล้านปอนด์ให้ทางด้านของเอฟซี ปอร์โต้ ทีมดังแห่งโปรตุเกสพิจารณา ซึ่งในส่วนของชื่อชั้นนักเตะ ฝีเท้า ทักษะ อะไรอย่างนี้ ส่วนตัวผมก็ไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกัน
 
       เพราะลีกโปรตุเกสก็เป็นลีกฟุตบอลที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก หากเทียบกับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ลาลีกาของสเปน รวมไปถึงกัลโช่ของอิตาลี และ บุนเดสลีก้าของเยอรมันด้วย แต่คิดว่าการที่เขาได้รับความสนใจจากเชลซีถึงขนาดว่าเตรียมยื่นเงินซื้อทดแทนเป้าหมายเดิมอย่างเวนย์ รูนี่ย์ นั้นก็น่าจะบ่งบอกถึงความไม่ธรรมดาของเจ้าตัวระดับนึง คือแทนรูนี่ย์ไหวไหม ผมก็ไม่ทราบ และหลายๆคนที่ติดตามฟุตบอลก็คงไม่ทราบเช่นกัน ด้วยเรื่องแบบนี้ มันไม่มีใครที่จะสามารถคาดเดาได้อยู่แล้ว บางทีเข้ามาแล้วอาจดีกว่ารูนี่ย์ หรือเข้ามาแล้วฟอร์มดับ เล่นไม่ออก พิสูจน์ตัวเองไม่ได้ มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ในอีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือว่า เชลซีตั้งใจซื้อเขามาแทนเป้าหมายเดิม (รูนี่ย์) จริงหรือเปล่า คือบางทีอาจเป็นว่า ในรายของรูนี่ย์ก็ยังจะซื้อเหมือนเดิม

       ส่วนในรายของมาติเนซนี่ซื้อเข้ามาใช้งานแก้ขัดในช่วงต้นฤดูกาลก่อน เผื่อว่าไม่สามารถนำรูนี่ย์เข้ามาได้ในตลาดซื้อขายรอบนี้ ก็จะยังมีขุมกำลังในแดนหน้าที่ทำให้ทีมตัวเลือกที่หลากหลายอยู่ ซึ่งกรณีแบบนี้ตามความคิดผมก็คิดว่ามีความเป็นไปได้มาก เพราะมูริญโญ่เป็นกุนซือที่ทำงานรอบคอบมาก แล้วลักษณะการซื้อตัวผู้เล่นแบบที่กล่าวนี้ก็สอดคล้องกับลักษณะการทำงานของกุนซือรายนี้

829

ข่าวฟุตบอล / "อาร์เซน่อล" กับวิกฤตการณ์ด้านตัวผู้เล่น

« on: August 19, 2013, 03:42:33 AM »

       ต้องถือเป็นวกฤตการณ์ด้านตัวผู้เล่นของอาร์เซน่อลซะแล้วครับ เมื่อทีมปัจจุบันที่เตรียมต้อนรับฤดูกาล 2013-2014 ของอาแซน เวนเกอร์ ยังไม่สามารถดึงใครมาเสริมทัพเพิ่มได้ นอกจากดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสนามว่า ซาโนโก้ ทั้งยังปล่อยผู้เล่นเดิมของทีมออกจากทีมเป็นว่าเล่น เช่น ในรายของแดนิลซันที่ย้ายไปเซาเปาโล เชอรู ที่ย้ายไปฮัมบวร์ก ชามัคที่ย้ายไปคริสตัน พาเลซ มาโนเน่ที่ย้ายไปซันเดอร์แลนด์ แชร์วินโญ่ที่ย้ายไปโรม่า เป็นต้น โดยบรรดานักเตะที่ย้ายออกจากทีมอาร์เซน่อล หลายคนย้ายกันแบบฟรีๆไม่มีค่าตัว บางรายไม่ฟรีแต่ก็ราคาถูกแสนถูก อย่าง มาโนเน่ ราคาแค่ 2 ล้านปอนด์เท่านั้น

       จะมีที่ได้ราคาดีๆหน่อยก็คือแชร์วินโญ่ซึ่งขายให้โรม่าไป 8 ล้านปอนด์ กระนั้นถ้าเทียบกับเป้าหมายที่อาร์เซน่อลจะซื้อเข้ามาก็ยังเทียบกันไม่ติดอยู่ดี ตัวอย่าง หลุยส์ ซัวเรซของลิเวอร์พูลตอนนี้ค่าตัวตามคาดการณ์ก็ราว 50 ล้านปอนด์นู้นเลยครับ ก็ไม่รู้ว่าอาร์เซน่อลทำทีมตามนโยบายประหยัดเงิน ใช้เงินอย่างเหมาะสมแบบไหนของเขาครับ ที่น่าสนใจมากๆและชวนให้เป็นวิกฤติด้านตัวผู้เล่นของอาร์เซน่อลเวลานี้ก็คือ ตัวผู้เล่นในทีมอาร์เซน่อลปัจจุบันที่พร้อมใช้งานจริงๆ มีเหลือไม่กี่รายครับ บางรายไม่ได้จะย้ายไปไหนแต่ก็ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บซะอย่างนั้น อย่างกองหลังเท่าที่เห็นตอนนี้ที่พร้อมใช้งานมีเพียง 4 ราย ซึ่งพอดีกับที่จะใช้ลงสนามเป็นตัวจริงในแต่ละแมทเลย ดังนั้นปัญหาคือจะเอาตัวสำรองมาจากไหน?

       โดย 4 รายที่ว่าของอาร์เซน่อลประกอบไปด้วย แมร์เตอร์ซัคเกอร์ เจลกินสัน กอสเซลนี่ กิ๊บส์ ส่วน แฟร์มาเลน กับซานย่า ซึ่งไม่ได้จะย้ายไปไหนนั้นบาดเจ็บอยู่ แถมในแผงกองกลาง ตัวสำคัญอย่างอาร์เตต้าก็เจ็บอีกเช่นกัน จะอุ่นใจได้ในหน่อยก็คือแดนหน้าซึ่งยังมีทั้ง วัลคอตต์ ชิรูด์ โพลโดอสกี้ เบนเนอร์ แต่กระนั้นประเมินขุมกำลังทั้งทีมรวมกันตอนนี้มันก็ยังไม่เพียงที่จะลุ้นอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีกอยู่ งานนี้จึงน่าสนใจมากกว่าอาแซน เวนเกอร์ จะทำอย่างไรเพื่อพาอาร์เซน่อลฝ่าวิกฤตตัวผู้เล่นหนนี้ไปให้ได้

830

ข่าวฟุตบอล / "ร็อดเจอร์ส" ยันคู่หูกองหลัง "แอ็กเกอร์" "สเคอเทล" อยู่กับทีมต่อไป

« on: August 17, 2013, 10:57:02 PM »

       ก็น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับเดอะค็อปทั่วโลกเมื่อแบรนแดน ร็อดเจอร์สพูดถึงกรณีของ ดาเนียล แอ็กเกอร์ กับ มาร์ติน สเคอเทล สองคู่หูกองหลังที่อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์มานานแล้วแต่มีข่าวย้ายทีมอย่างหนาหูในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาประมาณว่า ลิเวอร์พูลจะไม่ขายเขาสองคนออกไป เขาทั้งสองจะยังอยูกับทีมต่อไป ทั้งนี้ที่สเคอเทลหายจากทีมไปในช่วงไม่กี่นัดหลัง (ปรีซีซั่น)เป็นเพราะอาการบาดเจ็บ และเวลานี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการเรียกความฟิต อย่างไรก็ตามครับ ก่อนหน้าที่ร็อดเจอร์สจะพูดถึงกองหลังสองรายนี้

       ก็มีข่าวออกมาทำนองว่าสเคอเทลพูดเกี่ยวกับเรื่องการย้ายทีมว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ดังนั้นหมายความว่าส่วนนึงเขาก็อาจอยากที่จะย้ายออกจากทีมเหมือน โดยเหตุผลก็คงไม่ใช่อะไร นอกจากเรื่องของโอกาสในการลงสนาม คือในช่วงฤดูกาลที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ที่แบรนแดน ร็อดเจอร์สเข้ามารับงานคุมทีมลิเวอร์พูลแทนที่เคนนี่ ดัลกลิช นั้น สเคอเทลกลายเป็นตัวเลือกสำรองของร็อดเจอร์ อย่างในฤดูกาลที่แล้วร็อดเจอร์สก็เลือกใช้คาราเกอร์เป็นตัวหลักคู่กับแอ็กเกอร์ ส่วนในฤดูกาลปัจจุบันก็มีทางด้านตูเร่ที่เข้ามาแทนคาราเกอร์ และก็คงเข้ามาเป็นตัวหลักจับคู่กับแอ็กเกอร์ ฉะนั้นสถานะของมาร์ติน สเคอเทล ในฤดูกาลนี้ก็คงไม่ต่างไปจากฤดูกาลที่แล้ว คือน่าจะต้องเป็นสำรองให้กับสองคนนั้น

       ถ้าจะให้สรุปอนาคตการย้ายทีมของสเคอเทลจึงน่าจะอยู่ที่ว่าจะมีสโมสรไหนยื่นข้อเสนอเข้ามาขอซื้อตัวสเคอเทลแบบจริงจังหรือไม่? และสโมสรนั้นจะให้ราคาที่น่าพอใจหรือเปล่า อีกเรื่องคือจะสามารถการันตีโอกาสในการลงสนามให้สเคอเทลได้หรือเปล่า เพราะถ้าย้ายไปแล้วก็ไม่ได้ตัวหลักเหมือนเดิม ก็สู้อยู่ลิเวอร์พูลต่อไปดีกว่า แต่ก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของร็อดเจอร์สด้วยว่าในใจของร็อดเจอร์สจริงๆแล้วยังอยากเก็บสเคอเทลไว้ใช้งานหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามที่ร็อดเจอร์สพูดอย่างที่กล่าวตอนต้น ต่อให้มีทีมไหนเข้ามาขอซื้อลิเวอร์พูลก็คงไม่ขายอยู่ดี

831

ข่าวฟุตบอล / การมาสู่ถิ่น "แอนฟิลด์" ของ "ซิสโซโก้"

« on: August 17, 2013, 09:34:53 PM »

       มีข่าวแว่วๆอยู่นานในที่สุด อาลี ซิสโซโก้แบ็กซ้ายเลือดน้ำหอมก็ได้ย้ายจากมาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์ของทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ หงส์แดง ลิเวอร์พูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล อย่างไรก็ตามการมาของซิสโซโก้ไม่น่าจะกระทบกับตำแหน่งตัวจริงในทีมของโฆเซ่ เอ็นริเก้ สักเท่าไหร่ เพราะคาดว่าแบรนแดน ร็อดเจอร์สน่าจะเลือกซิสโซโก้เข้ามาเพื่อเป็นตัวซัพพอร์ตตำแหน่งแบ็กซ้านเวลาที่เอ็นริเก้ไม่พร้อมลงสนามมากกว่า ว่าง่ายๆก็คือนำซิสโซโก้เข้ามาแทนแจ็ค โรบินสัน ที่ถูกปล่อยให้ไปเก็บประสบการณ์กับแบล็คพูลชั่วคราวนั่นเอง

       แต่ทั้งนั้นทั้งนี้การมาของซิสโซโก้ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจทำให้ตำแหน่งตัวจริงของเอ็นริเก้สั่นคลอนได้ ด้วยอายุที่ยังน้อย ยังสามารถพัฒนาฝีเท้าได้อีกเยอะ หากว่าได้โอกาสลงสนามแล้วกล้าเล่น กล้าโชว์แล้วผลงานออกมาประทับใจร็อดเจอร์ส อะไรก็เกิดขึ้นได้ จู่ๆอาจเป็นซิสโซโก้ที่สอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวหลักแทนเอ็นริเก้จนกลายเป็นนักเตะขวัญใจเดอะค็อปไปเลยก็เป็นได้ ดังนั้นการมาของซิสโซโก้อย่างน้อยก็คงทำให้เอ็นริเก้ต้องพยามยามทำงานอย่างหนักเต็มที่ทั้งในสนามฝึกซ้อม และสนามแข่งขันจริง ทั้งนี้สัญญายืมตัวของซิสโซโก้ที่ทำร่วมกับลิเวอร์พูลและสโมสรบาเลนเซียยังมีเงื่อนไขซื้อขาดพ่วงด้วย ซึ่งเป็นตัวชี้ว่าถ้าเขาสามารถทำผลงานได้ดีเป็นที่น่าประทับใจเขาก็มีโอกาสค้าแข้งที่สดใสในถิ่นแอนฟิลด์แน่ๆ

       ส่วนประวัติคร่าวๆของซิสโซโก้ คือ เกิดเมื่อวันที่ 15 กันยายน ปี 1987 สัญชาติฝรั่งเศส ส่วนสูง 181 เซนติเมตร น้ำหนัก 75 กิโลกรัม ก่อนมาค้าแข้งให้บาเลนเซีย ค้าแข้งอยู่กับทีมโอลิมปิก ลียง ทีมดังแห่งลีกเอิงประเทศฝรั่งเศส จุดเด่นของซิสโซโก้เวลาอยู่ในสนามคือเรื่องความเร็ว และความแข็งแกร่ง คือความเร็วของเขาสามารถใช้ประโยชน์ในการเติมเกมรุกให้ทีมได้ดี และยังช่วยในการวิ่งไล่ผู้เล่นแรวรุกฝ่ายต้องข้ามไม่ให้ทำเกมบุกได้ถนัดอีกด้วย ทั้งเมื่อบวกกับความแข็งแกร่งของร่างกายแล้วยิ่งทำให้การเล่นเกมรับโดยเฉพาะจังหวะวิ่งเบียดแย่งสกัดบอลของเขาดูดีมากๆด้วย

832

ข่าวฟุตบอล / "ปืนใหญ่" เบนเป้า (อีกแล้ว)

« on: August 17, 2013, 09:33:05 PM »

       ยิ่งตามข่าวยิ่งงงกับการเสริมทัพของทีมปืนใหญ่ อาร์เซน่อลที่เบนเป้าไปมาเรื่อยๆ ทั้งยังพลาดเป้าหมายมาแล้วหลายต่อหลายราย โดยตามข่าวล่าสุดทีมปืนใหญ่อาร์เซน่อลกำลังเบนเป้าการเสริมคมแดนหน้าจากหลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกชาวอุรุกวัยของทีมลิเวอร์พูลไปเป็น เวนย์ รูนี่ย์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ของทีมแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งการเบนเป้าแบบนี้ก็ส่อแววที่ปืนใหญ่อาร์เซน่อลอาจจะแห้วอีกตามเคย เพราะ แมนฯยูไนเต็ดต้นสังกัดปัจจุบันของรูนี่ย์ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าไม่ขายรูนี่ย์ออกจากทีมแน่ๆ แถมยังมีทีมอย่างเชลซีที่ก็อยากได้ตัวรูนี่ย์เหมือนกันเป็นคู่แข่งอยู่อีกด้วย

       ไม่รู้ว่าอาร์เซน่อลคิดถูกหรือผิดที่เบนเป้ามาเลือกรูนี่ย์ ถ้าหากเทียบภาษี หรือเปอร์เซ็นต์ที่ทั้งสองทีมจะได้ตัวรูนี่ย์กรณีที่แมนฯยูไนเต็ดยอมใจอ่อนปล่อยตัวรูนี่ย์ออกจากทีมก็ต้องเชลซีอยู่แล้วที่มีภาษีดีกว่า เนื่องจากเป็นทีมที่ทิศทางการทำงาน โอกาสประสบความสำเร็จที่ดีกว่า ทั้งโจเซ่ มูริญโญ่ กุนซือของเชลซีก็มีจุดยืนที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าต้องการเสริมทัพด้วยรูนี่ย์ ดังนั้นถ้าเราให้รูนี่ย์เลือกว่าจะไปเชลซี หรืออาร์เซน่อล รูนี่ย์ก็คงจะเลือกไปเชลซีมากกว่า แต่ถ้ากล่าวเผื่อๆไว้หน่อยก็ต้องบอกว่ายังไม่แน่เหมือนกัน ด้วยสภาพทีมเชลซีที่มีนักเตะสตาร์ดังๆเยอะ การย้ายไปร่วมทีมของรูนี่ย์ก็อาจทำให้รูนี่ย์หวั่นๆเรื่องของโอกาสในการลงสนามก็เป็นได้

       แต่กับการเลือกย้ายไปอาร์เซน่อลอย่างน้อยน่าจะการันตีตัวจริงให้รูนี่ย์ได้แน่ๆ เพราะขุมกำลังของอาร์เซน่อลเวลานี้ยังไม่มีตัวหลัก หรือสตาร์ดังอะไรมากมาย ถ้ารูนี่ย์ย้ายไปเขาก็ต้องไปเป็นหนึ่งในนั้น เรียกว่าย้ายไปก็ได้เข้าไปรับบทบาทสำคัญในทีมอย่างที่เขาต้องการแน่ๆ ที่เหลือก็แค่พาทีมให้ประสบความสำเร็จตามความใฝ่ฝันของเขา และความใฝ่ฝันของทีมอาร์เซน่อลเท่านั้นครับ
     

833

ข่าวฟุตบอล / "รูนี่ย์" ทุ่มเทให้ทีมชาติแต่สโมสรไม่?

« on: August 17, 2013, 09:32:16 PM »

       ไม่รู้จะยังไงจริงๆสำหรับอนาคตของกองหน้าหมูพลิ้ว “เวนย์ รูนี่ย์” เพราะถึงแม้จะมีข่าวลุ่มๆดอนๆเกี่ยวกับการย้ายออกจากถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด แต่ทว่าล่าสุดนัดเปิดศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดจะลงดวลแข้งกับทางด้านหงส์ขาว สวอนซี เจ้าตัวก็ยังคงมีชื่ออยู่ในทีม แต่คาดว่าน่าจะได้เป็นเพียงตัวสำรอง ส่วนก่อนหน้านี้ที่เจ้าตัวบอกว่าร่างกายไม่ฟิตจึงขอลงไปซ้อมเรียกความฟิตกับทีมสำรองของแมนฯยูไนเต็ด ก็เป็นอะไรที่แปลกๆเหมือนกัน ในเมื่อเกมทีมชาติที่อังกฤษลงอุ่นเครื่องเจ้าตัวก็สามารถลงเล่นได้

       แฟนบอลหลายคนจึงเคลือบแคลงใจว่าแท้จริงแล้วรูนี่ย์ตั้งใจทุ่มเทให้กับทีมชาติ แต่หมดใจเล่นให้สโมสรแมนฯยูไนเต็ดไปแล้วหรือเปล่า? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็คงเรียกว่าไม่ใช่วิถีของนักฟุตบอลอาชีพแล้ว คือไม่มีความเป็นมืออาชีพเท่าที่ควรเลย ทั้งนี้ไม่อย่างไรก็ตาม หากยังเป็นส่วนนึงที่ของทีม ยังมีสัญญาอยู่กับทีม ตามวิถีของนักบอลอาชีพก็ควรที่จะทุ่มเทให้กับทีม ไม่ว่าจะได้เป็นส่วนนึงของแกนหลักในทีมหรือไม่ เพราะไม่อย่างนั้นความไม่เป็นมืออาชีพจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวนักเตะเอง อย่างแรกแน่ๆเลยที่รูนี่ย์อาจต้องโดนก็คือการเลิกสนับสนุนจากแฟนบอล กล่าวคือว่าแฟนบอลบางกลุ่มของแมนฯยูไนเต็ด ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากลุ่มน้อยใหญ่แค่ไหน แต่ต้องมีแน่ๆที่เปลี่ยนใจเลิกเชียร์รูนี่ย์ เลิกสนับสนุน และหันไปเทใจเชียร์กองหน้ารายอื่นๆในทีม

       แล้วแรงเชียร์เหล่านี้ก็จะเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนให้ผู้จัดการทีมเดวิด มอยส์ ต้องรับฟังไปเองโดยอัตโนมัติ เช่น อาจเชียร์ให้ทางด้านเวลเบค หรือ ชิชาริโต้ก้าวขึ้นมาเป็นคนสำคัญในแดนหน้าแทนรูนี่ย์ แล้วการที่นักเตะดังสองคนตัวอย่างได้รับแรงเชียร์จากแฟนบอลมากๆ สวนทางกับรูนี่ย์ที่ถูกแฟนบอลเลิกสนับสนุนนั้น ทีนี้เวลาที่เดวิด มอยส์จะเลือกใช้กองหน้าคนไหนก็อาจชั่งใจถึงแรงเชียร์จากแฟนๆ คราวนี้ก็จะกลายเป็นว่าการที่รูนี่ย์ไม่ทุ่มเทให้สโมสรก็ทำให้ตัวเขาเองไม่มีที่ยืนในโอลแทรฟฟอร์ด แถมโอกาสในการจะย้ายไปทีมอื่นก็ไม่มีอีก เรียว่าจะย้ายก็ไม่ได้ย้าย จะเล่นก็ไม่ได้ลงเล่น โดนทีมจับดองไปยาวๆครับ

834

ข่าวฟุตบอล / แผนสำรองในการเสริมคมของ "อาร์เซน่อล"

« on: August 15, 2013, 07:23:32 PM »

       ยังไม่สิ้นสุดลงแน่นอน สำหรับแผนการเสริมคมแดนหน้าของทีมปืนใหญ่อาร์เซน่อล เพราะถึงเวลานี้เป้าหมายอย่างหลุยส์ ซัวเรซ ก็ยังไม่ได้มีวี่แววว่าจะลงเอยย้ายทีมมาร่วมถิ่นเอมิเรตสเตเดี้ยมแต่อย่างใด ทั้งท่าทีของลิเวอร์พูลก็ค่อนข้างแข็งกร้าวกับการกรณีนี้มาก ว่ากันตามสถานการณ์นี้ตรงๆก็คือมีความเป็นไปได้ยากที่อาร์เซน่อลจะได้ตัวซัวเรซไปร่วมทีม ฉะนั้นเวลานี้เราก็คงต้องมามองกันถึงแผนสำรองที่อาร์เซน่อลเตรียมไว้บ้างว่าเป็นอย่างไร แผนสำรองแรก เวนย์ รูนี่ย์ ของแมนฯยูไนเต็ด กองหน้ารายนี้ก็มีใจอยากจะย้ายออกจากทีมอยู่แล้ว

        เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าแมนฯยูไนเต็ดเองก็ยืนกรานที่จะไม่ขายเขาออกจากทีมเหมือนกรณีเดียวกับหลุยส์ ซัวเรซ ของลิเวอร์พูล ทั้งยังมีคู่แข่งสำคัญอย่างสิงห์บูล เชลซี อยู่ด้วย ดังนั้นถ้าอาร์เซน่อลจะเบนเข็มมารุกไล่ล่าคว้าลายเซ็น เวนย์ รูนี่ย์ก็เป็นการยากอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวผมคิดว่าเชลซีน่าจะมีกำลังในการจ่ายค่าตัวของรูนี่ย์ได้มากกว่าอาร์เซน่อล และแน่นอนสิ่งนี้ทำให้เชลซีมีภาษีที่ดีกว่าในการคว้าตัวรูนี่ย์ไป ส่วนแผนสำรองที่สองของอาร์เซน่อล คือมิชูกองหน้าชาวสเปนของสวอนซี ซิตี้ ในรายนี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วโชว์ฟอร์มการยิงประตูได้ดีมากๆ เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำให้ประตูได้มากเป็นอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งในรายนี้ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้มากที่อาร์เซน่อลจะได้ตัวหากยื่นซื้อแบบจริงจัง

       เพราะสวอนซีก็ไม่ใช่ทีมใหญ่อะไร ถ้าหากว่ามีข้อเสนอจากทีมใหญ่ๆอย่างอาร์เซน่อลเข้ามาตัวนักเตะก็คงยากจะปฏิเสธ ปัญหาอยู่แค่ว่าเขาดีพอสำหรับสิ่งที่อาร์เซน่อลต้องการหรือเปล่า? ทั้งนี้มิชูก็เป็นหนึ่งในนักเตะที่เคยมีข่าวกับลิเวอร์พูลเช่นกัน โดยว่ากันว่าลิเวอร์พูลอาจทาบทามขอซื้อตัวหากพวกเขาต้องเสียซัวเรซไปจริงๆ แต่ไม่นานนักข่าวดังกล่าวก็เงียบไปครับ

835

ข่าวฟุตบอล / "วิลเลี่ยน" จะมาแทน "ดาวนิ่ง"?

« on: August 15, 2013, 07:20:17 PM »

       ช่วงต้นของตลาดซื้อขายนักเตะเปิด หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษภายใต้การนำของแบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือติกิตะกะได้ทำการเสริมทัพเป็นการใหญ่ โดยมีผู้เล่นเพิ่มเข้ามาในทีมรวดเดียวถึง 4 รายด้วยกัน แต่หลังจากนั้นก็เป็นการถ่ายนักเตะเก่าออกไปซึ่งถึงตอนนี้น่าจะเกิน 4 รายแล้ว ดังนั้นจากนี้ก็เป็นเรื่องของการวนกลับซื้อเพิ่มอีกแล้วโดยล่าสุดเป้าหมายที่สื่อประโคมข่าวเป็นในรายของวิลเลี่ยน กองกลางบราซิเลี่ยนของทีม อันจิ มาคัชคาล่า ทีมมหาเศรษฐีเงินถัง ซึ่งในช่วงหลังทุ่มเงินซื้อนักเตะดีๆมากหน้าหลายตาเข้ามาในทีม รวมทั้งในรายของวิลเลี่ยนนี้ด้วย

       แต่ทว่าอยากที่ทราบกันดีการใช้เงินถลุงซื้อนักเตะนั้นไม่ได้ทำให้อันจิขยับเข้าใกล้ความสำเร็จสักเท่าไหร่เลย เรื่องจึงลงเอยด้วยการทยอยขายนักเตะรายเก่าๆออกไปจากทีม และก็ว่ากันว่าวิลเลี่ยนก็อยู่ในขายที่กำลังถูกสั่งให้ขายออกจากทีมเช่นกัน ฉะนั้นจึงประจวบเหมาะกับความต้องการของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่กำลังต้องการนักเตะเสริมแกร่งตามแบบฉบับที่ร็อดเจอร์สต้องการโดยเน้นการใช้ผู้เล่นสเปน กับบราซิล ผสมผสานกันอย่างที่เราเห็นร็อดเจอร์เสริมผู้เล่นแนวรุก ยาโก้ อัสปาส หลุยส์ อัลแบร์โต้เข้ามาก็ล้วนเป็นนักเตะสเปนทั้งคู่ ขณะที่ ฟิลิปเป้ คูติญโญ่ก็เป็นนักเตะบราซิล เช่นเดียวกับตัวหลักรุ่นพี่ที่อยู่ในทีมก่อนแล้วอย่างลูคัส เลว่า เป็นนักเตะบราซิล

       โดยอาจเป็นไปได้ด้วยว่าร็อดเจอร์สต้องการนำวิลเลี่ยนเข้ามาทดแทนดาวนิ่งที่ขายไปให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ครั้นจะเลือกใช้สเตอร์ลิ่งเป็นตัวหลัก หรือ จอร์แดน อีเบ ก็น่าจะยังไม่ใช่ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าดีลนี้ของหงส์แดงจะสำเร็จหรือไม่ คือถ้าสำเร็จวิลเลี่ยนคงจะเข้ามาเป็นยืนเป็นตัวหลักแน่นอน อยู่ที่ว่าร็อดเจอร์สจะจัดตำแหน่งการยืนอย่างไร อาจให้วิลเลี่ยนเล่นเป็นปีก แล้วคูติญโญ่เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก หรือให้คูติญโญ่เล่นเป็นปีกซ้ายแล้วใช้วิลเลี่ยนเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวทำเกมก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

836

ข่าวฟุตบอล / เริ่มเปิดศึกบอลถ้วยเดอะแคปปิตอล วัน คัพ

« on: August 14, 2013, 04:13:10 AM »

       ได้ฤกษ์ประกบเป็นคู่ศึกฟุตบอล เดอะแคปปิตอล วัน คัพ ในรอบสอง ซึ่งเป็นรอบที่ทีมในพรีเมียร์ลีกจะเริ่มลงฟาดแข้งแล้วครับ และหนึ่งในทีมพรีเมียร์ลีกนั้นก็มีทีมดังอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล รวมอยู่ด้วย โดยลิเวอร์พูลจะเปิดศึกพบกับทีมจากลีกวัน น็อต เค้าน์ตี้ สำหรับวันแข่งขันศึกเดอะแคปปิตอล วัน คัพ รอบสองนั้น จะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคม นี้ ส่วนเรื่องที่ว่าแล้วทำไมบางทีมในพรีเมียร์ลีกถึงไม่ได้เข้าแข่งขันในรอบสองนี้เหมือนกับลิเวอร์พูล และอีกหลายๆทีมในพรีเมียร์ลีก อันนี้ก็เป็นไปตามโควตาของมาตรฐานทีมครับ

       คือทีมที่ได้เข้าร่วมลงชิงชัยในฟุตบอลถ้วยยุโรป ทั้งถ้วยยูโรป้า ลีก และถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก จะถูกจัดว่าเป็นทีมวาง หรือทีมที่มีมาตรฐานการเล่นที่ดีซึ่งก็จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบสามทันทีโดยอัตโนมัติ หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องเล่นรอบสองก็เหมือนกับว่าได้เล่นรอบสองแล้วผ่านเข้าไปในรอบสามได้ ซึ่งก็อาทิเช่น ทีมเชลซี แมนฯยูไนเต็ด อาร์เซน่อล เป็นต้น สำหรับทีมดังอื่นๆนอกจากลิเวอร์พูลที่ต้องลงเล่นในรอบสองพบกับ น็อต เค้าน์ตี้แล้วก็ยังมี นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พบกับมอร์แคม ทีมจากลีกทู เอฟเวอร์ตัน พบกับ สตีฟเนจ ทีมจากลีกวันเช่นเดียวกับลิเวอร์พูล โดยทั้งสามทีมนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคิดว่าคงผ่านรอบนี้เข้าไปเล่นในรอบสามได้สบายๆ

       เพราะมาตรฐานทีมในพรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล เอฟเวอร์ตัน นิวคาสเซิ่ล ค่อนข้างห่างจากทีมในลีกวัน ลีกทูอยู่พอสมควร แต่ก็ไม่ถือว่าประมาทได้นะครับ ที่ผ่านมาลิเวอร์พูลเองก็เคยตกรอบฟุตบอลถ้วย รายการเอฟเอคัพ หรือเดอะแคปปิตอล วัน คัพ ผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่เป็นการพลาดท่าพ่ายให้กับทีมจากระดับลีกที่ต่ำกว่าแบบนี้แหละครับ ฉะนั้นกุนซือแบรนแดน ร็อดเจอร์สก็อาจจะต้องแมทนี้เป็นพิเศษหน่อย จะมาแบบว่าส่งตัวสำรองลงสนามยกทีมก็คงจะไม่ได้ครับ

837

ข่าวฟุตบอล / "บาร์เซโลน่า" ทัวร์เอเชีย กับความวุ่นวายที่มาเลเซีย

« on: August 14, 2013, 04:08:26 AM »

       ถือเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนสำหรับการเดินทางมาทัวร์เอเชียของสุดยอดทีมจากแดนกระทิงดุ บาร์เซโลน่า เพราะในเอเชียของเราโดยเฉพาะในประเทศแถบตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีแฟนบอลที่คลั่งไคล้ฟุตบอลยุโรปจำนวนมาก แต่ไม่ใช่โอกาสง่ายเลยที่แฟนบอลแถบนี้ หรือแฟนบอลอย่างเราๆนี้จะได้ดูการแข่งขันแบบสดๆของทีมจากยุโรป ยิ่งด้วยบาร์เซโลน่าเป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกมันยิ่งเป็นเรื่องที่ดีใหญ่ที่พวกเขาได้เดินทางมาโชว์เพลงแข้งให้เราได้ดูกันถึงที่ แต่ทว่าท่ามกลางเรื่องที่ดีสำหรับคอบอลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลับมีเรื่องราวที่วุ่นวายเกิดขึ้นมาด้วยครับ

       โชคดีนิดนึงก็ตรงที่มันไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศของเรา หากแต่ไปเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นสถานีเป้าหมายของบาร์เซโลน่าที่ถัดไปจากประเทศไทยเราหนึ่งสถานี โดยความวุ่นวายแรกเป็นเรื่องของสภาพสนามที่ย่ำแย่จนถึงขนาดยอดทีมจากแดนกระทิงดุประกาศกร้าวว่าจะไม่ลงทำการแข่งขันหากว่ามาเลเซียไม่ยอมเปลี่ยนสนามแข่งขันให้ ทั้งนี้เดิมทีสนามที่ถูกกำหนดไว้ใช้ในการแข่งขันแมทนี้นั้นเป็นสนามที่มีความจุผู้ชมมากถึงราวหนึ่งแสนคน แต่มาเลเซียก็ต้องจำยอมเปลี่ยนไปใช้สนามที่มีความจุดน้อยกว่าคือราว 6-7 หมื่นคน ซึ่งทำให้มีปัญหาความวุ่นวายเกี่ยวกับผู้ชมที่จะเข้าไปชมการแข่งขันตามมาอีก ไม่เพียงเท่านั้นพอถึงเวลาคิกออฟของแมทนี้จริงก็ได้เกิดความวุ่นวายภายในสนามตามมาอีก

       เมื่อเชส ฟาเบรกาส ยอดมิดฟิลด์ของทีมบาร์เซโลน่าไปโดนผู้เล่นของทีมรวมดารามาเลเซียทำฟาล์วแบบรุนแรงเข้าใส่ ทำให้เกิดความไม่พอใจและเกิดการกระทบกระทั่งกันอย่างรุนแรงจนหวิดจะวางมวยกันกลางสนาม เดือนร้อนถึงนักเตะรายอื่นๆของทั้งสองฝั่งต้องเข้ามาช่วยห้ามกันอย่างชุลมุน จนท้ายที่สุดแมทนี้ลงเอยด้วยผลชนะของทีมดังจากสเปนไปในสกอร์ 3-1 อย่างไรก็ตามจบแมทนี้แล้วแม้ว่าความวุ่นวายต่างๆจะจบลงตามไปด้วย กระนั้นสิ่งที่มีผลตามแน่ๆก็คือการตัดสินใจมาทัวร์ปรีซีซั่นในปีหน้าของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป ว่ากันตรงๆคือบางทีเหตุความวุ่นวายดังกล่าวอาจทำให้หลายทีมใหญ่ตัดสินใจไม่มาทัวร์ที่มาเลเซียก็เป็นได้

838

ข่าวฟุตบอล / "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ก็น่าเป็นห่วง

« on: August 12, 2013, 08:01:35 PM »

       ไปๆมาๆไม่ใช่เพียงแค่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแล้วครับที่น่าเป็นห่วง อีกหนึ่งทีมร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ก็น่าเป็นห่วงใช่น้อยเลย เพราะล่าสุดพ่ายแพ้ให้แก่ทีมร่วมลีกอย่าง ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อลไปขาดลอย 3-1 ทั้งๆที่ตัวผู้เล่นที่จัดลงสนามแมทนี้ก็ล้วนเป็นตัวผู้เล่นหลักๆของซิตี้ทั้งนั้น คือเรียกได้ว่ามากันแบบฟูลทีม และแม้ว่าฝั่งปืนใหญ่ อาร์เซน่อลก็มาแบบฟูลทีมเช่นกัน แต่ทว่าเมื่อเปรียบเทียบชื่อชั้นของผู้เล่นแล้วก็ต้องบอกว่าอาร์เซน่อลยังเป็นรองซิตี้อยู่พอสมควร ก็อย่างที่ตามคาดการณ์กันไว้ว่าทีมที่ลุ้นแย่งแชมป์กันน่าจะเป็นเชลซี กับ แมนฯซิตี้ ขณะที่ทีมที่มีขุมกำลังระดับอาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล สเปอร์น่าจะได้ลุ้นแค่พื้นที่แชมเปี้ยนส์ลีก

       ฤดูกาลใหม่นี้จึงชักไม่แน่ะแล้วว่า ชื่อชั้นของตัวผู้เล่นนั้นจะมีผลต่อฟอร์มการเล่นขนาดไหน บางทีผมคิดว่าทีมอย่างอาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล หรือกระทั่งสเปอร์เองก็อาจเบียดขึ้นมาแย่งแชมป์ได้แบบเซอร์ไฟรส์เหมือนกัน การพ่ายแพ้ของแมนฯซิตี้หนนี้จึงเปรียบเสมือนสัญญาณบ่งบอกกลายๆว่า การลุ้นแชมป์ของทีมต่างๆในพรีเมียร์ลีกอาจไม่เหมือนดังเช่น 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมาอีกแล้ว ส่วนรายละเอียดเกมการแข่งขันแมทอุ่นเครื่องที่แมนฯซิตี้พ่ายให้กับทีมอาร์เซน่อลไป 3-1 นั้น ก็ตามนี้ครับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของแมนฯซิตี้ประกอบไปด้วย โจ ฮาร์ท ซาบาเลต้า ก็องปานี เลสค็อต กลิชี่ ตูเร่ ซิลบา มิลเนอร์ แฟร์นานดิญโญ่ เนรเกโด้ เชโก้ 11 ผู้เล่นตัวจริงของอาร์เซน่อลประกอบไปด้วย เชสนี่ เมเตอร์ซัคเกอร์ กอสเซลนี่ ซานย่า กิ๊บ แรมซี่ย์ วิลเชียร์ อาร์เตต้า โพลดอสกี้ แชมเบอร์เลน วัลคอตต์

       สำหรับแต่ละประตูที่เกิดขึ้นนั้นเริ่มจากนาทีที่เก้า วัลคอตต์ยิงขึ้นนำให้อาร์เซน่อล 1-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นั้น ครึ่งหลังในนาทีที่ 59 อาร์เซน่อลได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากการยิงของแรมซี่ย์ จากนั้นนาทีที่ 62 ก็มาทิ้งห่างเป็น 3-0 โดยการยิงของชิรูด์ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาใหม่ ส่วนทางฝั่งแมนฯซิตี้มาตีคืนได้เพียงลูกเดียวในนาทีที่ 79 จากการยิงของอัลบาโร่ เนเกรโด้

839

ข่าวฟุตบอล / "แดเนียล แอ็กเกอร์" ว่าที่กัปตันทีมหงส์แดงรายต่อไป

« on: August 12, 2013, 07:59:47 PM »

       ถึงแม้ว่าจะเป็นการประกาศแต่งตั้ง แดเนียล แอ็กเกอร์ ให้ขึ้นแท่นรองกัปตันทีมของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล คนใหม่แทนที่เจมี่ คาราเกอร์ กองหลังผู้ภักดีต่อทีมหงส์แดงซึ่งได้แขวนสตั๊ดไปหลังจบฤดูกาล 2012-2013 แต่ผมกลับรู้สึกว่าการแต่งตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การแต่งตั้งรองกัปตันทีม หากแต่เป็นการแต่งตั้งกัปตันทีมคนต่อไปด้วย หรือจะบอกกันตรงๆว่าถ้าเจอร์ราร์ดแขวนสตั๊ดก็จะเป็น แดเนียล แอ็กเกอร์ นี่แหละที่คือกัปตันทีมคนใหม่ และเดอะค็อปจำนวนมากก็คงเห็นเป็นเช่นนี้ จะว่าไปจริงๆด้วยอายุอานามของแอ็กเกอร์ บวกกับฝีเท้ารวมทั้งผลงานที่ทำให้ลิเวอร์พูล กับใจที่รักสโมสรมากๆ ผมว่าเขาก็สมควรจะได้รับตำแหน่งนี้เสียตั้งนานแล้วล่ะครับ ถ้าหากไม่ติดว่ามีเจมี่ คาราเกอร์อยู่ในทีมด้วย

       ฉะนั้นการตัดสินใจของร็อดเจอร์สครั้งนี้นับว่าเป็นอะไรที่เหมาะสมอย่างมาก แล้วยิ่งเมื่อคิดรวมกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ร็อดเจอร์สทำให้ลิเวอร์พูลจนถึงวันนี้ก็ยิ่งจะดูเหมือนว่าร็อดเจอร์สกำลังพาลิเวอร์พูลไปในทิศทางที่เหมาะสมขึ้นทุกที อย่างที่ลิเวอร์พูลควรจะเป็นมาตั้งนานแล้วล่ะ ซึ่งบางคนอาจไม่เข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร คือผมกำลังหมายถึงการพาลิเวอร์พูลไปสู่ความสำเร็จ ความแข็งแกร่งที่ยั่งยืน ไล่มาตั้งแต่การวางระบบการเล่นให้ทีม เป็นระบบที่มีแนวทางชัดเจน ไม่มั่วซั่ว มาถึงการซื้อตัวที่ชาญฉลาด ซื้อในราคาที่เหมาะสมแต่เข้ามาแล้วช่วยทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นได้ ผิดแปลกไปจากผู้จัดการทีมคนก่อนๆของลิเวอร์พูล จนมาถึงการพิสูจน์ผลงานการแข่งขันในช่วงปรีซีซั่นที่พวกเขาชนะรวด ยันมาถึงการแต่งตั้งรองกัปตันทีมได้แบบถูกคน

       แต่งตั้งแล้วโดนใจเดอะค็อป รวมทั้งนักเตะทีมลิเวอร์พูลทุกคน (ผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น) ที่สำคัญการแต่งตั้งรองกัปตันทีมครั้งนี้น่าจะช่วยกลบข่าวการย้ายทีมของกองหลังรายนี้ได้อีกด้วย ทีเหลือในอนาคตอันใกล้จากนี้ก็เป็นเรื่องผลงานในฟุตบอลลีกฤดูกาล 2013-2014 แล้วล่ะว่าจะเป็นอย่างไร หากร็อดเจอร์สนำทีมลิเวอร์พูลคว้าโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นอย่างน้อย มั่นใจได้เลยว่าหลังจากนั้นไปเราได้เห็นหงส์แดงผงาดสร้างความสำเร็จแบบยั่งยืนกันไปยาวๆแน่นอนครับ

840

ข่าวฟุตบอล / "โจเซ่ มูริญโญ่" แน่วแน่กับเป้าหมาย (รูนี่ย์)

« on: August 11, 2013, 05:26:01 PM »

       แม้ว่าจะโดนบอกปัดข้อเสนอไปถึงสองครั้ง สองครา แต่ทว่า โจเซ่ มูริญโญ่ กุนซือเดอะสเปเชียลวันของทีมสิงห์บูล เชลซี ก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจในการไล่ล่าคว้าตัว เวนย์ รูนี่ย์ มาเสริมทัพต่อไป โดยการให้สัมภาษณ์กับสื่อล่าสุดเรื่องนี้ มูริญโญ่ก็ยังคงยืนยันว่ารูนี่ย์เป็นเป้าหมายที่เขาอยากจะให้มาอยู่ร่วมกับทีมเชลซี และมันก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีการจำกัดเวลาอะไร ว่าง่ายๆคือพวกเขายังมีเวลาเหลือเฟื่อในการซื้อตัวรูนี่ย์เข้ามาร่วมทีม ซึ่งอาจไม่ได้หมายถึงเวลาเพียงตลาดซื้อขายรอบนี้ที่จะปิดลงในต้นฤดูกาล คือบางทีอาจหมายรวมถึงเวลาในตลาดซื้อขายรอบอื่นด้วย

       ไม่ได้รอบนี้ ก็รอซื้อรอบหน้า อะไรอย่างนั้น เพราะเวนย์ รูนี่ย์ก็อยากจะย้ายออกจากทีมแมนฯยูไนเต็ดแบบแน่นอนแล้ว ขณะที่สัญญาระหว่างเขากับทีมแมนฯยูไนเต็ดก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ยังไงวันนึงแมนฯยูไนเต็ดก็ต้องยอมปล่อยเขาออกจากทีมอยู่ดี หากว่าดื้อดึงไม่ยอมขายวันนึงสัญญาระหว่างรูนี่ย์ กับแมนฯยูไนเต็ดสิ้นสุดลงพวกเขาก็ต้องยอมปล่อยตัวรูนี่ย์แบบฟรีๆเลย กรณีนี้ผมคิดว่าคล้ายกันกับกรณีของหลุยส์ ซัวเรซ คือสโมสรสมควรรีบปล่อยออกจากทีมในช่วงที่ได้ราคาดีๆจะดีกว่า ดีกว่าทนยื้อให้อยู่กับทีมต่อไปจนอาจจะไม่ได้เงินแม้แต่นิดเดียวจากการที่นักเตะย้ายทีม

       ส่วนรายละเอียดการยื่นซื้อตัวรูนี่ย์จากเชลซีนั้น โจเซ่ มูริญโญ่ก็ระบุชัดเจนว่าพวกเขายื่นซื้ออย่างเป็นทางการตรงไปตรงมากับสโมสรแมนฯยูไนเต็ด ไม่ได้มีการแอบพูดคุยติดต่อกับทางด้านเวนย์ รูนี่ย์โดยตรง ทั้งนี้โจเซ่ยังบอกว่าจะพยายามทำสิ่งนี้ต่อไป ก็คือการยื่นซื้อรูนี่ย์กับสโมสรแมนฯยูไนเต็ดตามระเบียบ อย่างไรก็ตามการตามตื้อซื้อตัวเวนย์ รูนี่ย์ แบบนี้ถามว่าดีไหมสำหรับส่วนตัวผมคิดว่าไม่ดีเท่าไหร่นัก จริงๆเชลซีน่าจะมีการเผื่อเป้าหมายไว้บ้างอาจเป็นกองหน้ารายอื่นๆที่คุณภาพใกล้เคียงกัน เพราะถ้าที่สุดแล้วแมนฯยูไนเต็ดไม่ยอมขายรูนี่ย์ในช่วงตลาดซื้อขายรอบนี้จริงๆ เขลซีอาจต้องเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการมีขุมกำลังที่ไม่ดีพอในการแย่งชิงแชมป์กับทีมอื่นๆ แต่ทั้งนั้นทั้งนี้บางทีจริงๆในใจมูริญโญ่ หรือในแผนการเสริมทัพของทีมเชลซีก็อาจจะมีนักเตะรายอื่นที่อยู่ในเป้าหมายอยู่แล้วก็ได้ เพียงแต่ไม่มีข่าวให้ได้พูดถึงเท่านั้น