• Welcome to ฟุตบอลเว็บบอร์ด ข่าวกีฬา สรุปผลบอล - Thailand Sports Online.
 
Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Liverpool

#1
วันนี้เจอกองหลังที่แข็งแกร่งและอุดประตูอย่างเหนียวแน่นของโปรตุเกส
ทำเอาบราซิล ในยามที่ขาดกาก้า โรบินโญ่ ถึงกับบุกเจาะเข้าไปหน้าประตูไม่ได้
ตลอด 90 นาที แทบไม่มีโอกาสได้ส่องจะจะซักครั้ง ลูกโยนเข้าไปก็ไม่ได้ผล
น่าจะเป็นการบ้านที่สำคัญที่ โค๊ชขแงบราซิลจะนำเกมนี้ไปศึกษา จัดตัวผู้เล่นใหม่
หาวิธีเจาะประตูคู่แข่งขันให้ได้ ยังดีที่กองหลังบราซิลทีมนี้มีลูกหนัก สกัดการบุกได้ดี
ไม่อย่างนั้น ยิงคู่ต่อสู้ไม่ได้ ซ้ำร้าย ยังเจอลูกบุกสวนกลับ สวนเข้าทำให้เสียประตู
อนาคตของบราซิลที่ขาดกาก้า รูบินโญ่ จะลุยแข่งต่อไปไม่ถึงแชมป์โลกครั้งนี้ 

[onion-a01]
#2
ย้อนรำลึก 5 แมทช์มหากาพย์ เยอรมันประชันแข้งอังกฤษ อุ่นเครื่องบิ๊กแมทช์รอบ 16 ทีมเวิร์ลด์คัพ 2010

การแข่งขันฟุตบอลโลก ค.ศ.2010 ได้ 16 ทีมเข้าไปเล่นในรอบสองเรียบร้อยและพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงคือบิ๊กแมทช์ ระหว่างคู่ปรับตลอดกาล เยอรมัน กับ อังกฤษ

ที่ว่ากันว่าพบกันเร็วเกินไปและเกินความคาดหมายเนื่องจากอังกฤษไม่สามารถ ครองแชมป์ของสายได้

เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสของการติดตามการแข่งขันดังกล่าวขอนำเสนอ 5 แมทช์แห่งความทรงจำในการเผชิญหน้ากันของ ทั้งสองเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนทั้งสองทีมจะเผชิญหน้ากับในวันที่ 27 มิถุนายน

อังกฤษ 4 เยอรมันตะวันตก 2 (ฟุตบอลโลก 1966 อังกฤษ รอบชิงฯ)
แฟนบอลอังกฤษที่อัดแน่นในเวมบลีย์หนาวสะท้าย เมื่อ เฮลมุท ฮัลเลอร์ ซัดให้เยอรมันตะวันตกนำไปอย่างรวดเร็ว แต่เจ๊ฟฟ์ เฮิร์สท์ ยิงตีเสมอเป็น 1-1 อย่างรวดเร็วและหนีไปเป็น 2-1 จากมาร์ติน ปีเตอร์ส ทำท่าจะคว้าแชมป์โลก แต่นาทีสุดท้ายแฟนสิงโตคำรามต้องช็อคจากการตีเสมอของโวล์ฟกัง เวเบอร์

ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษหาผู้ชนะ เฮิร์สท์ยิง ให้อังกฤษนำเป็น 3-2 ท่ามกลางข้อกังขาของแฟนบอลเยอรมันและทั่วโลกว่าผ่านเส้นประตูไปหรือยัง ก่อนเฮิร์ทส์จะตอกย้ำชัยด้วยการทำแฮ็ตทริคให้อังกฤษชนะ 4-2 คว้าแชมป์โลกไปครองครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงปัจจุบัน

อังกฤษ 2 เยอรมันตะวันตก 3 (ฟุตบอลโลก 1970 เม็กซิโก รอบ 8 ทีม)
อังกฤษออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมนำ 2-0 จากอลัน มัลเลรี่และมาร์ติน ปีเตอร์ส ปิดฉาก 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 2-0 เยอรมันคืนชีพฟรานซ์ เบคเคนบาวร์ จุดประกายยิงผ่านปีเตอร์ โบเน็ตติ ที่ลงเฝ้าเสาประตูแทนกอร์กอน แบงก์ เข้าประตูไปไล่มาเป็น 1-2

ก่อนที่อูเซ่ ซีเลอร์ จะยิงตีเสมอเป็น 2-2 ต้องต่อเวลาพิเศษและแกร์ด มุลเลอร์ ก็เป็นฮีโร่ซัดประตูชัยนาทีที่ 108 ให้เยอรมันล้างแค้นอังกฤษได้อย่างสะใจ

หลังจากจบการแข่งขันเซอร์ อัลฟ แรมซีย์ กุนซืออังกฤษตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างหนักถึงการเปลี่ยนตัวบ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ออกและทำให้เยอรมันพลิกเกมได้สำเร็จ

ชาร์ลตัน กล่าวว่า ไม่ได้สนใจที่มีการพูดถึงกรณีที่ตัวถูกเปลี่ยนตัวออก แต่สงสัยว่าทำไมกอร์ดอน แบงก์ ไม่ได้ลงสนาม

อังกฤษ 1 เยอรมันตะวันตก 1 (ฟุตบอลโลก 1990 อิตาลี รอบรองฯ)
อันเดรียส เบรห์เม่ ซัดฟรีคิกโดนพอล ปาร์คเกอร์ บอลเปลี่ยนทางลอยข้ามปีเตอร์ ชิลตัน ผู้รักษาประตูอังกฤษเข้าประตูให้เยอรมันนำไปก่อน แต่แก รี่ ลิเนเกอร์ ยิงตีเสมอเป็น 1-1

ก่อนหมดเวลา 10 นาทีทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษ หมด 120 นาทียังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 1-1 ต้องยิงจุดโทษตัดสินเยอรมันยิงแม่นกว่าเข้า 4 อังกฤษเข้า 3 ทำให้เยอรมันผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปคว้าแชมป์

อังกฤษ 1 เยอรมันตะวันตก 1 (ยูโร 1996 อังกฤษ รอบรองฯ)
อลัน เชียเรอร์ ซัดระยะเผาขนให้อังกฤษนำไปก่อน แต่สเตฟาน คุนท์ซ ตีเสมอให้เยอรมันเป็น 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษและก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ต้องยิงจุดโทษตัดสินอีกครั้งและก็ เป็นเยอรมันเหมือนเดิมที่ชนะในการยิงจุดโทษ 6-5 เข้าไปคว้าแชมป์เหมือนฟุตบอลโลก ค.ศ.1990 โดยสจวร์ต เพียร์ซและแกเร็ธ เซาธ์เกต ยิงพลาด


เยอรมัน 1 อังกฤษ 5 (ฟุตบอลโลก 2002 ที่เยอรมัม รอบคัดเลือก)
11 เดือนก่อนหน้าบุกมาเอาชนะอังกฤษ 1-0 ดับฝันอังกฤษที่จะคว้าชัยชนะของนัดสุดท้ายในการเล่นที่สนามเวมบลีย์ แต่อังกฤษบุกไปล้างแค้นได้อย่างสะใจ คาร์เทน ยานเคอร์ พังประตูให้เยอรมันนำไปก่อน 1-0

แต่หลังจากนั้นโลกตะลึงอังกฤษยำใหญ่ยิง 5 ลูกรวด ไมเคิล โอเว่น ทำแฮ็ตทริค สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดและเอมิล เฮสกี้ คนละประตู

สเวน โกรัน อีริคส์สัน กล่าวว่า ไม่อยากเชื่อจะ เอาชนะเยอรมันได้ 5-1 ในนัดเยือนมันเหมือนฝัน

[cheesy]
#3
ใครที่พอนึกออกและจำได้ว่า นักพากย์คนไหน ชอบพูดประโยคอะไร ในการพากย์บอลโลก ครั้งนี้ ก็ลองมาแชร์ๆ กันดูครับ ส่วนผมที่ได้ยินแทบทุกนัด ก็ประโยคพวกนี้แหละครับ จำได้จนขึ้นใจแล้ว ......

เรียบร้อยครับ !!! แหม่ลูกนี้หลุดกรอบไปนิดเดียว

ขอขอบคุณ การสื่อสารเเห่งประเทศไทย

พิมพ์1เชียร์.....พิมพ์2เชียร์....... ลุ้นทองคำมูลค่า.......

"ยังมีเวลานะครับ!!..............สำหรับคนที่ต้องการ ร่วมสนุก......"

"การยิงประตูที่ดีต้องก้มหน้ายิงประตูนะครับ"

พี่หมอว่าไงครับ 

[laugh]
#4
ชายชราสามคน นั่งพูดคุยกันถึงเรื่องความยากลำบากของวัยชราอยู่บนบันไดของสถานพักฟื้นคนชราแห่งหนึ่ง

ชายอายุหกสิบ : "อายุหกสิบนั้นโหดที่สุด คุณจะรู้สึกปวดฉี่อยู่ตลอดเวลา พอคุณจะฉี่ ก็ดันฉี่ไม่ออก!"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "เฮ้ยยย!.ไม่เห็นมีอะไรเลย ลองเจ็ดสิบอย่างฉันสิ คุณจะอึ๊ไม่ออก คุณกินยาถ่ายเข้าไปก็แล้ว, กินกล้วยก็แล้ว คุณนั่งอยู่บนโถส้วมทั้งวัน ยังไงๆก็อึ๊ไม่ออก"

ชายอายุแปดสิบ :"ถ้าจะให้พูดกันจริงๆละก็ แปดสิบนี่แหละโหดที่สุด"

ชายอายุหกสิบ :"คุณฉี่ไม่ออกเหมือนกันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ :"ก็ไม่นะ ฉันฉี่ตรงเวลาตอนหกโมงเช้าทุกวัน ฉี่พุ่งออกมาหยั่งกะม้าแข่งแน่ะ ไม่มีปัญหาอะไร"

ชายอายุเจ็ดสิบ : "คุณอึ๊ไม่ออกเหมือนฉันเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ :"เปล่านะ ก็อึ๊ออกมาสบายๆ ตรงเวลาทุกเช้า หกโมงครึ่งเป๊ะ"

ชายอายุหกสิบฟังแล้วชักมึน จึงกล่าว : "เดี๋ยวๆๆๆ..อะไรนะ..คุณฉี่ทุกเช้าตอนหกโมง และก็ถ่ายทุกเช้าตอนหกโมงครึ่ง แล้วไอ้อายุแปดสิบเนี่ย มันยากลำบากตรงไหนเรอะ?"

ชายอายุแปดสิบ :"ฉันจะหลับไม่รู้เรื่อง จนกว่าจะถึงสิบโมงของทุกวัน"

(ง่ะๆๆๆ)

[laugh]
#5
สุภาพสตรีสามคนประสบอุบัติเหตุตายพร้อมกัน วิญญาณของพวกเธอก็ขึ้นไปสู่สวรรค์ ที่นั่น พวกหล่อนก็ได้พบกับเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งได้บอกกับพวกเธอว่า "ที่นี่เรามีข้อห้ามอยู่เพียงข้อเดียว นั่นก็คือ ห้ามเหยียบเป็ดเป็นอันขาด"
สุภาพสตรีทั้งสาม ก็ผ่านประตูสวรรค์เข้าไป ที่นั่น พวกเธอก็เจอกับฝูงเป็ดยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ที่จะไม่เหยียบพวกมัน แม้ว่าทั้งสามพยายามอย่างที่สุดแล้ว ในการหลบหลีกพวกมัน อนงค์นางหนึ่งก็เผลอไปเหยียบเอาเป็ดตัวหนึ่งเข้าจนได้ เซนต์ปีเตอร์ก็ปรากฎกายขึ้นพร้อมกับชายหน้าตาน่าเกลียดที่สุดคนหนึ่ง พร้อมกล่าว "โทษฐานเหยียบเป็ด เราจะใช้โซ่ล่ามเจ้าผูกติดกับชายคนนี้ตลอดไป"
วันถัดมา แม่นางคนที่สองก็เจอข้อหาเดียวกัน นักบุญปีเตอร์ก็มาพร้อมกับเอ็ดดี้ ผีน่ารัก แล้วจัดการใช้โซ่ล่ามทั้งสองคนผูกติดกัน
แม่นางคนที่สามเห็นเหตุการณ์โดยตลอด ไม่อยากจะโดนลงโทษแบบนั้น จึงระมัดระวังอย่างที่สุด ทุกย่างก้าวมั่นใจใช้บาจา ปรากฏว่าเธอทำสำเร็จ เวลาผ่านไปหลายเดือนเธอรอดไปได้ และแล้ววันหนึ่ง นักบุญปีเตอร์ก็ปรากฎกายพร้อมกับชายหนุ่มรูปงาม, ล่ำบึ้ก, สูงยาว เข่าดี อย่างที่เธอไม่เคยพานพบมาก่อน แล้วใช้โซ่ล่ามทั้งสองคนผูกติดกันโดยไม่พูดอะไรสักคำ
สุภาพสตรีคนที่สามเอ่ยถามชายหนุ่ม "อยากรู้จัง ฉันทำอะไรนะ ถึงโชคดีแบบนี้ ?"
ชายหนุ่ม : "เอ่อ...ผมไม่รู้ว่าคุณทำอะไร สำหรับผมก็คือว่า ผมดันไปเหยียบเอาเป็ดตัวหนึ่งเข้านะสิ"
[laugh]
#6
Cafe / ศิลปะในการแปล
June 26, 2010, 11:37:56 PM
เจ้าพ่อมาเฟียแห่งเมืองลองบีช กำลังมองหาสมุนคนใหม่ เพื่อทำหน้าที่เก็บเงินค่าคุ้มครอง จากเจ้าของธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเหล่าร้ายก็เลยเลือกเอาคนหูหนวกและเป็นใบ้ (น่าจะหมายถึง deaf-and-dumb) มาทำหน้าที่ดังกล่าว ด้วยคิดว่าถ้ามันโดนจับ ก็คงคุยกับตำรวจไม่รู้เรื่อง จะได้ไม่เดือดร้อนมาถึงทุก ๆ คน
สัปดาห์แรกผ่านไป เจ้าใบ้เก็บรวบรวมเงินได้ถึง 50,000 เหรียญ ก็เกิดความโลภ อยากจะงาบเอาไว้เสียเอง จึงนำเงินทั้งหมดไปซ่อนไว้ เมื่อเจ้าพ่อรู้ว่าเจ้าใบ้ไม่ยอมนำเงินมาส่ง จึงส่งสมุนสองคนออกตามล่า ตามจนกระทั่งเจอตัวจึงถามเรื่องเงิน ปรากฏว่าคุยกันไม่รู้เรื่อง พวกมันจึงลากตัวเจ้าใบ้ไปพบล่ามภาษามือ

สมุนเจ้าพ่อ : "ถามมันซิว่าเงินอยู่ที่ไหน"
ล่ามภาษามือทำมือหงิก ๆ งอ ๆ ยุกยิก ๆ ถามเจ้าใบ้
เจ้าใบ้ส่งภาษามือกลับมา : "ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร"
ล่ามก็แปลให้สมุนเจ้าพ่อฟัง
สมุนเจ้าพ่อชักปืนออกมาแหย่เข้าไปในรูหูของเจ้าใบ้ : "ลองถามมันใหม่ซิว่าเงินอยู่ที่ไหน"
ล่ามก็ส่งภาษามือกลับไปใหม่
เจ้าใบ้รีบส่งสัญญาณมือตอบว่า "เงิน 50,000 เหรียญ อยู่ที่เซ็นทรัลพาร์ค ฉันซุกมันไว้ในตอไม้ตอที่สาม ข้างประตูด้านซ้ายมือของถนนเวสท์ 78"
ล่ามหันมาบอกสมุนเจ้าพ่อ : "มันบอกว่า ไม่รู้ว่าพวกคุณพูดเรื่องอะไร และมันยังบอกอีกว่า มันไม่คิดว่าพวกหน้าตัวเมียอย่างพวกคุณจะกล้ายิงมัน"

[laugh]
#7
Cafe / คุณลุงแรมโบ้
June 26, 2010, 11:37:25 PM
คุณครูชั้นประถมแห่งหนึ่ง มอบหมายงานให้กับนักเรียนโดยกำหนดว่าให้นักเรียนแต่ละคนคิดเรื่องคนละหนึ่งเรื่องพร้อมคติธรรมคำสอนแล้วนำมาเล่าสู่กันฟังในชั้นเรียนในวันรุ่งขึ้น ในวันรุ่งขึ้นคุณครูก็ถามว่า
ใครจะเล่าก่อน หนูน้อยลิซ่าก็ยกมือขึ้น" คุณพ่อของหนูเป็นเจ้าของฟาร์มแห่งหนึ่ง และทุก ๆ วันอาทิตย์ เราจะขับรถบรรทุกไข่ไปขายที่ตลาดในเมือง วันหนึ่ง รถของเราซิ่งไปเหยียบเอาถนนที่ปูดขึ้นมา ไข่ของเราทั้งหมดก็ลอยออกจากตะกร้าลงไปแตกเละเทะอยู่บนถนน" คุณครูก็ถามถึงคติธรรมคำสอนของ
เรื่อง ลิซ่าก็ตอบว่า "เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเก็บไข่ของคุณทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว"
หนูน้อยแคธี่ คือคนต่อไปที่ขอเล่าเรื่องของตน "คุณพ่อของหนูก็เป็นเจ้าของฟาร์มเหมือนกัน และทุก ๆ
วันสุดสัปดาห์เราจะนำไข่ไปเข้าเครื่องฟัก สัปดาห์ก่อนนี้มีไข่แค่ 8 ฟองจาก 12 ฟองที่ฟักเป็นตัว"
คุณครูก็ถามถึงคติธรรมคำสอนของเรื่อง แคธี่ก็ตอบว่า "เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่านับไข่ของคุณก่อนที่มันจะฟักเป็นตัว"
และแล้วก็มาถึงตาของเจ้าหนูโทนี่ "คุณลุงพีท ของผมเข้าร่วมรบในสงครามเวียตนาม และเครื่องบินของ
เขาถูกยิงตกในดินแดนข้าศึก เขาโดดร่มลงมามีเพียงแค่ปืนกล 1 กระบอก มีดอีดาบ 1 เล่ม และเบียร์ลังหนึ่ง ขณะที่ร่มลอยลงมาเขาก็ดื่มเบียร์จนหมดทั้งลัง โชคไม่ดี เขาตกลงไปกลางกลุ่มทหารเวียตนาม 100 คน
เขากราดปืนกลยิงพวกมันตายไป 70 กระสุนก็หมด เขาจึงคว้าอีดาบไล่ฟันพวกมันตายไปอีก 20 จนดาบหักคามือ แล้วเขาก็โดดเข้าจัดการพวกมันที่เหลือด้วยมือเปล่าจนตายเรียบ ไม่เหลือรอดสักคนเดียว"
คุณครูนั่งฟังจนขนหัวลุก แล้วจึงถามว่ามันพอจะมีคติธรรมคำสอนอะไรบ้างมั้ย
หนูน้อยโทนี่ : "เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ามายุ่งกับลุง อีตอนที่แกเมา ๆ
[laugh]
#8
ยอดนักสืบเชอร์ล็อคโฮล์มและหมอวัตสัน ไปแคมป์ปิ้งด้วยกัน หลังอาหารค่ำ ทั้งคู่ก็มุดเข้าเต๊นท์นอน สองสหายนอนกรนครอกฟี้ ๆ ไปหลายชั่วโมง โฮล์มก็ตื่นขึ้นและสะกิดสหายคู่ใจ
"วัตสัน มองดูท้องฟ้านั่นสิ แล้วลองบอกผมซิว่าคุณเห็นอะไร ?"
วัตสัน : "ผมเห็นดวงดาวเป็นล้าน ๆ ดวง"
โฮล์ม : "มันบอกอะไรคุณได้บ้าง ?"
หมอวัตสันเพ่งพินิจชั่วขณะแล้วกล่าว "ในแง่ดาราศาสตร์ มันบอกเราได้ว่า มีดวงดาวมากมายจนสุดจะคณานับ ถ้าในแง่โหราศาสตร์ละก็ ผมเห็นดาวเสาร์โคจรเข้าสถิตย์ในกลุ่มดาวสิงโต ในแง่การคำนวณเวลา ผมบอกได้เลยว่ามันประมาณตีสามสิบห้านาที ในทางเทววิทยาวิทยาละก็ ผมก็เห็นว่าพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน ส่วนพวกเราเป็นอะไรที่จิ๊บจ๊อยมาก ถ้ามองในแง่อุตุนิยม ผมว่าพรุ่งนี้อากาศจะดีมาก แล้วคุณละ โฮล์ม คุณเห็นอะไรบ้าง ?"
โฮล์มเงียบไปชั่วขณะ แล้วกล่าว "ไอ้ซื่อบื้อ ไม่เห็นรึไง ไม่รู้ใครแ_ง แอบมาขโมยเต๊นท์เราไปแล้ว"


[laugh]
#9
หญิงชราร่างเล็ก เดินเข้าไปในร้านโกรเซอรี่แห่งหนึ่งเพื่อซื้ออาหารแมว เธอหยิบมา 3กระป๋อง แล้วเดินไปที่ช่องจ่ายเงิน
แคชเชียร์ "ขออภัยค่ะเราไม่สามารถขายให้คุณได้ ถ้าคุณไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าคุณมีแมวจริงๆ ผู้สูงอายุหลายคนซื้อไปรับประทานเอง รัฐบาลได้กำหนดเป็นข้อบังคับว่าต้องมีหลักฐานมายืนยันว่าคุณซื้อมันไปให้แมวของคุณจริงๆ"
หญิงชราต้องกลับไปบ้าน อุ้มแมวเหมียวของตนกลับมายืนยันที่ร้าน แคชเชียร์จึงยอมขายให้
วันถัดมา เธอต้องการซื้ออาหารสุนัข 3 กระป๋อง ก็อีกนั่นแหละ แคชเชียร์ขอให้นำหลักฐานมาแสดงว่ามีสุนัขจริง ๆ เพราะว่าผู้สูงอายุบางคนซื้อไปหม่ำซะเอง
เธอต้องกลับไปบ้าน นำสุนัขมายืนยัน แคชเชียร์จึงยอมขายให้
วันถัดมา เธอนำกล่องเจาะรูใบหนึ่งเข้าไปในร้านเดิม แล้วขอให้แคชเชียร์แหย่นิ้วเข้าไปในรูดังกล่าว แคชเชียร์ก็ปฏิเสธโดยกล่าวว่า "ไม่ละจ้ะ อาจจะมีงูอยู่ในนั้น" หญิงชรารีบกล่าวรับประกันว่าไม่มีอะไรที่มีอันตรายอยู่ในกล่อง แคชเชียร์ก็เลยลองเอานิ้วแหย่ดู เธอดึงนิ้วออกมาแล้วโวยวาย " ยั้ก.! มันเหม็นอย่างกะขี้แน่ะ."
หญิงชรา : "ก็ขี้นะซิจ๊ะ เอาล่ะ..คราวนี้ ฉันขอซื้อกระดาษชำระ 3 ม้วนได้มั้ยจ๊ะ ? " ( เธอมาพร้อมกับหลักฐานยืนยันว่ามีขี้จริง ๆ ไม่ได้ซื้อกระดาษไปกินนะจ๊ะ..ง่ะ ๆ ๆ ๆ )
[laugh]
#10
คาวบอยสองคนไปเจออินเดียนแดงคนหนึ่ง กำลังนอนเอาหูแนบพื้น คาวบอยคนหนึ่งก็กล่าวกับเพื่อน: "นายเห็นอินเดียนแดงคนนั้นมั้ย ?"
คาวบอยอีกคน : "เห็นสิ... มีอะไรเหรอ ?"
ชายคนแรก : "ดูสิ...เขาฟังเสียงจากพื้นดิน เขาสามารถได้ยินเสียงต่าง ๆ เป็นระยะทางหลายไมล์ทุกทิศทุกทาง"
แล้วเจ้าอินเดียนแดงก็เงยหน้าขึ้น และกล่าว "รถม้า...ปิดประทุน ห่างออกไปสองไมล์ มีม้าเทียมสองตัว ตัวหนึ่งสีน้ำตาล อีกตัวหนึ่งสีขาว มีผู้ชาย ผู้หญิง เด็กและข้าวของสัมภาระต่าง ๆ"
คาวบอย : "เหลือเชื่อจริงๆ !..เจ้าอินเดียนแดงคนนี้ มันสามารถรู้ได้ว่า พวกเขาอยู่ไกลแค่ไหน มีม้ากี่ตัว, สีอะไรบ้าง มีใครและอะไรบ้างอยู่ในรถ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ"
อินเดียนแดงคนนั้น ผงกหัวขึ้น แล้วพูดต่อ :"มันวิ่งทับหัวฉัน เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนี้..โอย !ๆๆ"

[great]
#11
Cafe / ตาบอดคลำหมา
June 26, 2010, 11:35:11 PM
ชายตาบอดคนหนึ่ง ขณะกำลังยืนอยู่ริมถนนพร้อมกับหมาของเขา เจ้าหมาคู่ใจ ก็ยกขาข้างหนึ่ง แล้วก็ฉี่รดขากางเกงของผู้เป็นนาย ชายตาบอดเจ้าของหมา ก็หยิบขนมออกมาจากกระเป๋าชิ้นหนึ่ง ส่งให้มัน มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็กล่าวกับชายตาบอดว่า "ให้มันทำไม มันทำแบบนั้น แล้วคุณก็ยังให้รางวัลมัน ผมว่า มันไม่ถูกต้องนะ"
ชายตาบอด : "ผมไม่ได้ให้รางวัลมันหรอกนะ ผมเพียงแค่กำลังหาว่าปากมันอยู่ตรงไหน เพื่อว่าผมจะได้ซัดก้นมันซักป้าบนึง"

[laugh]
#12
หมีแพนด้าตัวหนึ่ง เดินเข้าไปในบาร์ และบอกบาร์เท็นเดอร์ว่ามันจะกินมื้อกลางวันที่นั่น บาร์เท็นเดอร์ก็นำเมนูมาให้ มันก็สั่งอาหาร
เจ้าหมีแพนด้าก็กินอาหาร เมื่อเสร็จเรียบร้อย มันก็ลุกขึ้นเพื่อจะออกจากร้าน แล้วทันใดนั้น โดยไม่มีใครคาดคิดมันได้ชักปืน AK.47 ที่ซุกไว้ในขนของมันออกมาแล้วกระหน่ำยิง สาดกระสุนไปทั่วทั้งบาร์จนปรุพรุนไปทั่ว แล้วเดินแอ่นพุงไปที่ประตู เพื่อจะออกจากร้าน
บาร์เท็นเดอร์ซึ่งมุดหัวหลบกระสุนด้วยความกลัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ กระโดดออกมาจากที่กำบังแล้วร้องถาม "เฮ้ ! เอ็งทำอะไรวะเนี่ย ? เอ็งมากินอาหาร, ยิงถล่มร้านของฉัน แล้วจะเดินปัดก้นออกไปง่าย ๆ ยังงี้เรอะ ?"
เจ้าหมีแพนด้าตอบเรียบ ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น : "ก็ฉันเป็นหมีแพนด้านี่นา"
บาร์เท็นเดอร์ : "ใช่สิ...แล้วไงล่ะ ?"
เจ้าหมีแพนด้า : "ลองเปิดสารานุกรมดูสิ" แล้วมันก็เดินจากไป
บาร์เท็นเดอร์ กระโดดกลับไปหลังบาร์แล้วหยิบสารานุกรมมาเปิดดู เปิดไปที่คำว่า "panda bear" ก็เจอรูปหมีแพนด้าอยู่ในนั้น
และมีคำบรรยายว่า "แพนด้า แบร์" ก็คือ "สัตว์จ้ำม่ำ ขนนุ่มนิ่มสีขาวสลับดำ กิน..ยิง..แล้วก็ไป"

[laugh]
#13
เวลาตีสาม ชายหนุ่มห้อตะบึง BMW M3 คันใหม่ ไปตามทางสาย N1 ด้วยความเร็ว 240 กม./ชม. เกือบจะถึงบ้านอยู่แล้ว พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นรถคันหนึ่ง หงายเค้เก้อยู่ข้างทางมีเปลวไฟกำลังลามเลียอยู่รอบ ๆ
ไม่เห็นมีใครอื่นอยู่ใกล้ ๆ เลยสักคน โทรศัพท์มือถือก็บังเอิญใช้ไม่ได้ เขาหยุดรถมองดู มีสาวงามนางหนึ่งติดอยู่ในรถ เลือดไหลท่วมกาย
" เฮ้ย ! ยุ่งละสิ" ชายหนุ่มรีบคว้าเอาผ้าห่มผืนหนึ่งจากในรถ มาห่อตัวสาวเคราะห์ร้าย อุ้มเธอไปวางที่เบาะหลังรถของตน แล้วรีบบึ่งไปโรงพยาบาล
หญิงสาวต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลาถึงหกเดือน ชายหนุ่มเฝ้าดูแลตลอด แถมยังให้เลือดของตนเพื่อช่วยชีวิตหญิงสาว จนกระทั่งเธอหายเป็นปกติ เขาทั้งสองก็แต่งงานกัน
ทั้งคู่ครองรักกันราบรื่นเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งหญิงสาวเกิดไม่สบอารมณ์ ถึงขั้นคิดจะแยกทาง เธอร้องเพลง "หิ้วกระเป๋าก้าวลงบันได" ขนเสื้อผ้าเตรียมไปขึ้นรถจากัวร์คันงาม
ชายหนุ่มปราดเข้ามาขวางเธอเอาไว้ พร้อมถาม "อีนาง เฮ็ดอะหยัง ?"
"ฉันขอแยกทาง" เธอตอบ
"อืม แล้วเธอจะไปยังไงจ๊ะ ?" รถจากัวร์คันนี้ฉันเป็นคนซื้อ เธอเอาไปไม่ได้หรอกนะ
"ไม่มีปัญหา" หญิงสาวตอบ แล้วโยนกุญแจให้ชายหนุ่ม
ชายหนุ่ม : "แล้วกระเป๋าเสื้อผ้าเหล่านั้น เสื้อผ้าที่เธอกำลังสวมใส่ ทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันเป็นคนซื้อ มันก็ของฉันทั้งนั้น เธอจะเอาไปได้ยังไง "
ได้เลย"หญิงสาวตอบ โยนกระเป๋าไปที่ชายหนุ่ม พร้อมถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่ออก คืนให้ไป"
ชายหนุ่ม : "แล้วเลือดในตัวเธอนั่นน่ะ ฉันต้องนั่งเฝ้าพยาบาลเธอถึงหกเดือน เลือดในกายเธอครึ่งหนึ่งเป็นของฉัน เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น"
หญิงสาว : " สำหรับเรื่องนี้ ฉันขอผ่อนชำระเป็นรายเดือน เอ้า ! เอาไป..นี่สำหรับเดือนแรก" ว่าแล้ว เธอก็ดึงเอาผ้าอนามัยที่ใช้อยู่ โยนไปให้ชายหนุ่ม
[laugh]
#14
หญิงชราไปพบหมอ และได้แจ้งให้หมอทราบถึงปัญหาคาก้น "อิชั้นตดตลอดเวลาเลยค่ะ คุณหมอ แต่เป็นตดชนิดไร้เสียงและไร้กลิ่น จริง ๆ นะค่ะ เนี่ย...ตั้งกะมาเนี่ย ซัดไป 20 ปู้ดแล้วค่ะ อิชั้นจะทำยังไงดีคะ ?"
คุณหมอ : "ผมจัดยาให้นะ คุณนายเอลลิส ทานวันละ 3 เวลา ครบเจ็ดวันแล้วกลับมาพบผมนะครับ"
สัปดาห์ต่อมา คุณนายเอลลิสก็เดินหน้างอเป็นจวักไปพบหมอคนเดิม
"คุณหมอคะ...อิชั้นไม่รู้ว่าคุณหมอให้ยาอะไรมา แต่อาการมันยิ่งแย่ลงค่ะ ดิฉันยังคงตดไม่หยุด และตอนนี้นะคะ...มันเหม็นยังกะช้างเน่า นี่มันอะไรกันคะ ?"
คุณหมอ : "ใจเย็น ๆ น่าคุณนาย ตอนนี้แสดงว่าโรคไซนัสของคุณหายแล้ว ต่อไปผมจะได้รักษาอาการหูตึงของคุณ"

  [laugh]
#15
มีสามีภรรยาหนุ่มสาวคู่หนึ่ง อาศัยอยู่ในเมืองซึ่งเต็มไปด้วยอาชญากรรมหลังจากที่บ้านของเพื่อนบ้าน3หลังโดนขโมยขึ้น ทั้งคู่ก็คิดว่าพวกเขาจะหาหมามาเฝ้าบ้านสักตัวหนึ่ง
แล้ววันหนึ่งฝ่ายภรรยาก็ได้ไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง:"ฉันอยากได้หมาเฝ้าบ้านดีๆสักตัวหนึ่ง"
พนักงานขาย:"ขออภัยครับเราขายไปหมดเกลี้ยงเลยครับ ยังเหลือเจ้าหมาพันธุ์ปักกิ่งตัวเล็กตัวนี้แค่ตัวเดียว แต่มันเก่งคาราเต้นะครับ"
ฝ่ายภรรยาสาวไม่เชื่อว่าเจ้าหมาน้อยจะทำได้ พนักงานขายก็เลยสั่งเจ้าตัวเล็ก:"คาราเต้เก้าอี้ตัวนั้น"
เจ้าหมาน้อยก็ตรงดิ่งไปยังเก้าอี้แล้วคาราเต้สับโชะเชะจนเก้าอี้แหลกเป็นชิ้นๆ แล้วพนักงานขายก็ออกคำสั่งอีกว่า"คาราเต้โต๊ะตัวนั้น" เจ้าตัวน้อยก็สวมวิญญานบรู๊ซลีกระโดดเข้าสับโต๊ะตัวนั้นจนขาดสองท่อน
ฝ่ายผู้เป็นภรรยาก็เลยซื้อเจ้าหมาน้อยและนำมันกลับไปบ้าน เธอเอามันไปโชว์ผู้เป็นสามีผู้ซึ่งนึกว่าภรรยาสาวคงจะซื้อหมาเฝ้าบ้านตัวโตๆกลับมาและเมื่อเธออธิบายให้ผู้เป็นสามีฟังว่าเจ้าตัวนี้มันเก่งคาราเต้ สามีก็พูดด้วยความโมโหว่า:"karate my ass".("คาราเต้ก้นฉันนะสิ ")
(โจ๊กเรื่องนี้ต้องอ่าน version ภาษาอังกฤษ จึงจะสนุก)


[laugh]
#16
โจรสลัดนายหนึ่ง เดินเข้าไปในบาร์แห่งหนึ่ง บาร์เทนเดอร์ก็เอ่ยทัก:"เฮ้!ไม่ได้เจอกันซะนาน ไปทำอะไรมา ทำไมนายถึงดูโทรมยังงี้วะ?"

โจรสลัด:"นายหมายถึงอะไรวะ? ฉันก็สบายดีนี่นา"

บาร์เทนเดอร์:"ทำไมต้องใส่ขาไม้วะ? เมื่อก่อนนี้ ขานายก็ยังดีๆอยู่นี่นา"

โจรสลัด:"เอ้อ..นั่นก็เพราะเกิดการยิงต่อสู้กัน ฉันโดนยิงด้วยปืนใหญ่เข้าที่ขา แต่ตอนนี้ก็โอ.เคนะ"

บาร์เทนเดอร์:"เอ้อ..แล้วไอ้มือตะขอนั่นล่ะ? ไปโดนอะไรมา?"

โจรสลัด:"ก็รบกันอีกที่หนึ่ง..ตอนนั้น..ฉันล่องเรือไป แล้วเกิดตะลุมบอนกันด้วยอีดาบ มือฉันโดนฟันขาด ฉันก็เลยใช้มือตะขอนี่สวมแทนเอาไว้ ตอนนี้ก็โอ.เคนะ"

บาร์เทนเดอร์:"แล้วตาของนาย มันบอดไปข้างหนึ่ง โดนอะไรมาล่ะ?"

โจรสลัด:"อ๋อ..เรื่องก็มีอยู่ว่า วันหนึ่ง ขณะที่พวกเรากำลังแล่นเรืออยู่ในทะเล มีนกฝูงหนึ่งบินผ่านมา ฉันเงยหน้าขึ้นดู แล้วเจ้านกตัวหนึ่ง มันดันขี้ลงมาที่ลูกกะตาของฉันพอดี"

บาร์เทนเดอร์:"ตลกน่า กะอีแค่นกมันขี้ใส่ตาเนี่ยนะ ถึงกับตาบอด?"

โจรสลัด:"มันเป็นวันแรกที่ฉันใช้มือตะขอว่ะ"

[great]
#17
ชายคนหนึ่ง เดินเข้าไปในบาร์ โดยมีลิงของเขาเกาะอยู่บนไหล่ พอเขานั่งลง เจ้าลิงน้อยก็กระโดดลงมาและวิ่งซุกซนไปทั่ว มันเจออะไรก็คว้าเข้าปาก มันกินถั่วที่วางอยู่ใกล้ๆ,กินผลไม้ที่ใช้ตกแต่งจาน,พริทเซลและทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วมันก็กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะพูล คว้าเอาลูกคิวบอลใส่เข้าปากแล้วกลืนลงไป

พฤติกรรมของมันได้สร้างความไม่พอใจให้กับบาร์เทนเดอร์ เขากล่าวกับชายเจ้าของลิง:"คุณเห็นที่เจ้าตัวแสบนั่นมันทำมั้ย? ดูมันสิ"

ชายคนนั้น:"เห็นแล้ว มันก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ มันเขมือบทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แต่ไม่ต้องห่วง ผมจะจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด" แล้วเขาก็จ่ายค่าเสียหายให้กับบาร์เทนเดอร์ คว้าเจ้าตัวยุ่งขึ้นบ่าแล้วเดินจากไป

สองสัปดาห์ต่อมา ชายคนนั้นก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเจ้าลิงน้อย คราวนี้เจ้าจ๋อก็เอาอีก มันกระโดดไปคว้าเอาลูกเชอรี่ลูกหนึ่ง เอามายัดใส่เข้าไปในก้นของมัน ก่อนที่จะควักออกมาแล้วใส่เข้าปาก บาร์เทนเดอร์ถึงกับตะลึง:"อ้วก! คุณเห็นที่มันทำมั้ย? ผมอยากจะอ้วก"

ชายเจ้าของลิง:"อืม..มันยังคงงาบทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ตั้งแต่มันกินลูกคิวบอลเข้าไปคราวนั้น มันจะวัดดูก่อนทุกครั้งว่ากินเข้าไปแล้วจะออกมาได้รึเปล่า"5555



[great]
#18
Cafe / อาย, โร่-บอท
June 26, 2010, 11:31:18 PM
ชายคนหนึ่งเดินเข้าไปในบาร์แล้วกล่าวกับบาร์เทนเดอร์สาว : " ฉันอยากจะท้าพนันกับเธอ50เหรียญ ว่าฉันน่ะ สามารถงับลูกนัยน์ตาข้างขวาของฉันได้"

บาร์เทนเดอร์ : "เอาสิ..ฉันไม่เคยเห็นใครที่ไหนทำได้."

ชายคนนั้นควักเอาลูกนัยน์ตาปลอมออกมาจากเบ้าตา แล้วอ้าปากงับไปทีหนึ่ง

บาร์เทนเดอร์สุดจะยั๊วะ แต่ก็ควักเงิน50ดอลลาร์จ่ายให้ไป ชายคนนั้นก็เดินจากไป ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ชายคนนั้นก็กลับมาอีกและกล่าวว่า : "ฉันจะพนันกับเธออีก50เหรียญ ว่าฉันนั้นสามารถที่จะงับลูกตาข้างซ้ายของฉันได้"

บาร์เทนเดอร์ไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ เธอกล่าว : "เธอเดินเข้ามาในบาร์นี้ได้ ลูกกะตาอีกข้างต้องเป็นของจริง ยังไงๆก็ไม่น่าจะบอดทั้งสองข้าง ตกลงฉันรับพนัน"

ชายคนนั้นดึงเอาฟันปลอมออกมาจากปาก งับเข้าที่ลูกนัยน์ตาข้างซ้ายของตน แล้วคว้าเงินเดิมพัน เดินสะบัดก้นจากไป (5555)



[laugh]
#19
มียายคนหนึ่ง บ้านอยู่แถวซ่อง
วันหนึ่งมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ ได้มาตรวจพวกผู้หญิงขายตัวและแจกถุงยางอนามัย
แต่ยายไม่รู้ จึงถามเด็กชายที่เดินผ่านมา เด็กนึกสนุกเลยตอบไปว่ามาแจกไอติม
ยายอยากกินไอติม เลยไปต่อคิวกับพวกผู้หญิงขายตัว
พอถึงคิวยาย นายแพทย์ ก็เลยถามยายว่าจะเอาไปทําอะไร
ยายนึกโมโหเลยตอบไปว่า นี่พ่อหนุ่มถึงยายจะแก่แต่ยายก็ยังอมๆ ดูดๆ ได้นะ
นายแพทย์ งง?

[laugh]
#20
Cafe / ไข่เปลี่ยนสี
June 26, 2010, 11:30:23 PM
มีเศรษฐีชาวจีนคนหนึ่งรวยมากแต่ยังไม่มีภรรยา เนื่องจากหญิงที่จะมาเป็นภรรยาจะต้องมีเส้นผมและขนทุกเส้นในร่างกายจะต้องเป็นสีทอง ค้นหามานานจนแก่ก็ไม่พบหญิงสาวในลักษณะที่ว่าเสียที จึงป่าวประกาศหาหญิงสาวนั้นโดยจะมีรางวัลให้อย่างงามและจะแต่งงานด้วย หลังจากประกาศแล้วมีสาวนางหนึ่งลงทุนไปย้อมผมและขนเป็นสีทองทั้งตัวแล้วก็มาสมัครปรากฎว่าเศรษฐีหลงเชื่อคิดว่าเป็นจริงชอบใจเป็นอย่างมากจึงตกลงแต่งงานด้วย หลังจากนั้นไม่นานผมและขนที่เป็นสีทองก็เริ่มกลายเป็นสีดำดังเดิม เศรษฐีเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอกจึงไปฟ้องร้องกับท่านเปาปุ้นจิ้นให้ช่วยลงโทษเมียตัวเอง เมื่อท่านเปาทราบเรื่องจึงนัดหมายให้ทั้งสองมาพบกันที่ศาล เมื่อทั้งคู่มาถึงศาล หญิงสาวได้เตรียมไข่ไก่มาด้วย 1ใบ ถึงเวลาเปิดศาลท่านเปาก็เดินออกมา ในจังหวะนั้นหญิงสาวได้ปาไข่ที่อยู่ในมือไปโดนเบ้าตาท่านเปาอย่างจัง ท่านเปารู้สึกเสียหน้ามากจึงสั่งปิดศาลอีก2วันค่อยมาว่ากันใหม่.... 2วันต่อมาถึงเวลาเปิดศาล ท่านเปาก็ออกมาพร้อมกับเบ้าตาที่เขียวคล้ำและได้เริ่มสอบสวนหญิงสาวทันที
ท่านเปา"จริงหรือที่เจ้าไปหลอกเศรษฐีสามีของเจ้า"
หญิงสาว"ไม่จริงเจ้าค่ะ"ตอบด้วยความมั่นใจ
ท่านเปา"เพราะอะไรเจ้าถึงตอบว่าไม่จริง"
หญิงสาว"ท่านลองคิดดูนะเจ้าค่ะ เบ้าตาท่านถูกไข่ใบเดียวปาใส่แค่ครั้งเดียวเบ้าตาท่านยังเปลี่ยนสีได้ แล้วอีฉันล่ะเจ้าค่ะท่านต้องเห็นใจนะเจ้าค่ะ ถูกไฃ่กระแทกทุกวัน ครั้งล่ะ2ใบ ผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างอีฉันจะทนได้ไง เส้นผมกับขนมันก็ต้องเปลี่ยนสีเป็นธรรมดาชิเจ้าค่ะ"
ท่านเปา"???"


[laugh]