Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - Journalist

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 61
31

       เรียกว่าเหนือกว่าตำนานเลยสำหรับสถิติการสร้างสรรค์โอกาสการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมของ เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของทีมปืนโต อาร์เซน่อล เมื่อมีการเปิดเผยสถิติจากสื่อดังในอังกฤษอย่าง เดอะ มิร์เร่อร์ ว่าจำนวนครั้งที่แข้งทีมชาติเยอรมันรายนี้ สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้จบสกอร์นั้นมากกว่าสถิติสูงสุดที่สองนักเตะกองกลางระดับตำนานของสองทีมใหญ่อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด ของลิเวอร์พูล และ ไรอัน กิ๊กส์ ของแมนฯยูไนเต็ดเคยทำได้

       โดยตามการเปิดเผยสถิติจากสื่อระบุว่าซีซั่นนี้ โอซิล สร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูให้กับเพื่อนร่วมทีมนับรวมทั้งที่เป็นประตูและไม่เป็นประตูได้ 106 ครั้งแล้ว

       ขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เคยทำได้สูงสุดในหนึ่งซีซั่นเท่ากันที่ 104 ครั้ง ซึ่งเหมือนเป็นตัวบ่งชี้ว่า โอซิล เหนือกว่าตำนานนักเตะสองรายในแง่ของการสร้างสรรค์เกมนั่นเอง

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าสถิติของ โอซิล จะดูดีกว่าทั้ง กิ๊กส์ และ เจอร์ราร์ด ไปแล้วแต่ก็ยังไม่ถือว่าดีที่สุดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซะทีเดียว เพราะสถิติที่ดีที่สุดเดิมเป็นของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนานนักเตะกองกลางของทีมสิงห์บลูที่จำนวน 134 ครั้ง แต่ก็แน่นอนว่าจำนวนเกมที่เหลืออยู่ในซีซั่นนี้ยังมากพอที่จะทำให้ โอซิล ทำลายสถิติได้เช่นกัน

       ส่วนถ้านับเรื่องการทำแอสซิสหรือการสร้างโอกาสให้เพื่อนยิงประตูได้สำเร็จ ซีซั่นนี้โอซิลทำไปแล้ว 17 ครั้ง ใกล้เคียงต่อการจะทำลายสถิติเดิมเช่นกัน เพราะสถิติเดิมของ เธียร์รี่ อองรี ตำนานกองหน้าของอาร์เซน่อลทำไว้ที่ 20 ครั้งกล่าวคือหาก โอซิล ทำแอสซิสได้อีก 4 ครั้งก็จะทำลายสถิติของอองรีไปทันที ซึ่งเมื่อดูจากจำนวนเกมการแข่งขันที่เหลือในซีซั่นนี้จำนวน 12 เกมถือว่ามีความเป็นไปได้สูงมากเลยที่จะทำเพิ่มได้เกิน 3 ครั้ง ว่ากันง่ายๆหากนักเตะไม่เจ็บไม่ติดโทษแบนหนักๆหลายเกมยังไงก็น่าจะทำลายสถิติได้


32

       ต้องบอกว่ายังมีดีพอที่จะทำให้หลายทีมรุมจีบเหมือนกันสำหรับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตนายใหญ่ชาวไอร์แลนด์เหนือของ หงส์แดง แม้ว่าจะโดนปลดจากตำแหน่งในถิ่นแอนฟิลด์แบบไม่ไว้หน้า ในช่วงต้นของซีซั่นนี้ก็ตาม

       เมื่อล่าสุดเจ้าตัวได้กล่าวเปิดเผยกับสื่อดังของอังกฤษอยาง บีอิน สปอร์ต เองว่าหลังจากที่ลงจากตำแหน่งกุนซือหงส์แดงแล้วตนเองก็ได้รับข้อเสนอเข้ามาถึง 5 ครั้งแต่ก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะรู้สึกว่ายังอยากใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการพักผ่อนมากกว่า

       ร็อดเจอร์ส ซึ่งเคยทำผลงานดีที่สุดให้หงส์แดงด้วยการพาทีมจบอันดับที่สองในลีก ใกล้เคียงสุดๆกับการกลับไปผงาดคว้าแชมป์ลีกอีกครั้ง เล่ากับสื่อว่า "หลังออกจากหงส์แดงผมได้รับข้อเสนอถึง 5 ครั้ง โดยมาจากสโมสรที่ผมก็ชื่นชอบและให้ความเคารพทั้งสิ้น แต่ส่วนตัวผมยังรู้สึกอยากพักผ่อนอยู่หากคุณอยู่ในเกมฟุตบอลแล้วคุณต้องทุ่มเททุกสิ่งอย่างเพราะมันเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดมากจริงๆ"

       "ใช่ ผมได้พูดคุยกับประธานของ สวอนซี ซิตี้ (ซึ่งเคยร่วมงานกันมาแล้ว) แต่ผมก็บอกไปตรงๆว่าผมยังอยากพักอยู่ สวอนซีเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ นอกจากนี้ก็ยังมีอีกสองทีมในพรีเมียร์ลีกที่ติดต่อผม แล้วผมก็ตอบกลับไปแบบเดิมว่าผมอยากรับงานก็ต่อเมื่อมันถึงช่วงซัมเมอร์แล้ว ทีมที่ผมจะเข้าไปทำงานด้วยนั้น จะต้องเป็นทีมที่ผมเข้าไปแล้วผมสามารถสร้างความแตกต่างให้กับพวกเขาได้"

       "แน่นอนไม่จำเป็นต้องเป็นทีมใหญ่ (เหมือนกับลิเวอร์พูล) แต่ต้องสร้างความท้าทายให้ผม และเหมาะสมกับผมด้วยเช่นกัน"

       ร็อดเจอร์สเป็นกุนซือที่สร้างชื่อมาจากการทำทีม สวอนซี ซิตี้ โดยเจ้าตัวสามารถทำทีมเล่นบอลได้อย่างสวยงามมีรูปแบบการต่อบอลที่ลื่นไหล และมีเปอร์เซ็นต์การครองบอลเหนือคู่แข่งแทบจะตลอดทุกเกม จนถูกยกย่องให้เป็นบาร์ซ่าแห่งอังกฤษ ทั้งยังพาทีมจบอันดับกลางตารางคะแนนอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดแบบสบายๆ ตั้งแต่ซีซั่นแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นมา


33

       ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสฮอตจริงๆสำหรับการใช้เงินกว้านซื้อนักเตะดาวดังไปเสริมทัพของทีมจาก ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ในประเทศจีนและก็ดูจะประสบความสำเร็จ หรือได้ผลดีตามคาดซะด้วยเมื่อมีนักเตะชื่อดังหลายรายแล้ว ที่ตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายไปเล่นในลีกแดนมังกรหลังได้รับข้อเสนอเป็นเงินก้อนโต อาทิเช่น อเล็ก เตเซร่า, รามิเรส, แจ็คสัน มาร์ติเนซ เป็นต้น

       อย่างไรก็ตามกลยุทธ์การใช้เงินทุ่มเพื่อล่อใจนักเตะ ให้หันเหเข้าแดนมังกรกลับใช้ไม่ได้ผลกับกองหน้าไนจีเรียของทีม วัตฟอร์ด ทีมน้องใหม่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง อิกาโล่

       เมื่อล่าสุดตัวนักเตะที่กำลังโชว์ฟอร์มอันร้อนแรงในซีซั่นนี้ ได้ออกมากล่าวเปิดเผยข้อมูลกับสื่อเองว่าได้รับข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธจากทีมในลีกจีน ซึ่งก็คือ เหอเปย ไชน่า ฟอร์จูน แต่สุดท้ายแล้วเมื่อคิดทบทวนอย่างดีอยู่นานสามวันก็ตัดสินใจตอบปฏิเสธไป โดยไม่สนใจว่าได้พลาดโอกาสทำเงินอย่างงามในอาชีพค้าแข้งไปแล้ว

       ทั้งนี้ อิกาโล่ ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพา วัตฟอร์ด เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องทันทีที่เล่นฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษครั้งแรก เล่าถึงการตัดสินใจของตนเองครั้งนี้ว่า

       "มันเป็นอะไรที่เซอไพร์สมาก ผมจวนเจียนจะได้ไปเล่นในจีนแล้วพวกเขายินดีจ่ายค่าตัวผมถึง 10 ล้านปอนด์ทั้งยังทุ่มค่าเหนื่อยให้ผมสัปดาห์ละ 200,000 ปอนด์ เป็นระยะเวลาสี่ปี"

       "ผมไม่ได้หลับได้นอนถึงสามวันเพราะครุ่นคิดแต่เรื่องนี้ ใช่ตัวเลขมันมากจนเกือบจะไม่กล้าปฏิเสธ เพื่อนร่วมทีมของผมก็บอกว่าข้อเสนอแบบนี้น่ะมันไม่ได้มีเข้ามาง่ายๆหรอกนะ (ผมควรจะตอบตกลง) แต่ไม่หรอกผมเลือกปฏิเสธไป พวกเขาก็ยังไม่หยุดแค่นั้นเพิ่มข้อเสนอค่าเหนื่อยให้ผมอีกเป็น 300,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ผมจึงตอบกลับไปว่ามันไม่ใช่ประเด็นเรื่องเงินหรอก ผมเองมีความฝันอยากจะเล่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาตั้งแต่เด็กแล้ว และผมคือคนช่วยให้วัตฟอร์ดขึ้นชั้นมาเล่น พรีเมียร์ลีก มันมีเหตุผลอะไรที่ผมจะทิ้งความฝันนี้ไป"


34

       ต้องบอกว่าเป็นการออกมาชื่นชมแบบกึ่งๆกั๊กเหมือนกันสำหรับทางด้านของ ซิลวินโญ่ อดีตกองหลังทีมบาร์เซโลน่า และทีมแมนฯซิตี้ที่พูดถึงการประกาศแต่งตั้ง โจเซป กวาร์ดิโอล่า เป็นกุนซือคนใหม่ในซีซั่นหน้าอย่างเป็นทางการของทีมเรือใบสีฟ้า

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันว่าการข่าวคราวของ กวาร์ดิโอล่า กับ เรือใบสีฟ้า เป็นเรื่องได้รับความสนใจมากที่สุดในแวดวงฟุตบอล ณ เวลานี้ เนื่องจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นั้นถูกยกย่องให้เป็นกุนซือเบอร์หนึ่งของโลก
 ทั้งผลงานที่ผ่านมาก็การันตีความสำเร็จ และคุณภาพฝีมือไว้หมดแล้วไม่ว่าจะเป็นกับทีม บาเยิร์น มิวนิค ในเยอรมัน หรือ บาร์เซโลน่า ในสเปนก็ตาม

       สำหรับเหตุผลของการเลือก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ของทางเรือใบสีฟ้าก็แน่นอนว่า พวกเขาต้องการกุนซือที่มีดีพอในการนำพาทีมประสบความสำเร็จในเวทีระดับยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของสโมสรตลอดหลายซีซั่นหลังแต่ที่ผ่านมากุนซืออย่างหลายอื่นรวมถึง เปเยกรินี่ ด้วยยังทำได้ไม่ดีพอ

       อย่างไรก็ตาม ซิลวินโญ่ ที่เคยประสบความสำเร็จร่วมกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในรายการนี้มาแล้วตอนที่ทั้งคู่อยู่ที่ บาร์เซโลน่า กล่าวแสดงความเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย หรือสิ่งที่จะการันตีกับเรือใบได้หรอกว่าการเซ็นต์สัญญากับเป๊ปครั้งนี้จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

       ซิลวินโญ่ กล่าวกับสื่อว่ามันไม่ง่ายนะที่จะประสบความสำเร็จใน แชมเปี้ยนส์ลีก ซิตี้มาถูกทางแล้วพวกเขามีนักเตะชั้นยอดใหม่ๆ และมีกุนซือคนใหม่ ที่ผ่านมาพวกเขาให้เวลากับ โรแบร์โต้ มันชินี่ และ มานูเอล เปเยกรินี่ ช่วยวางรากฐานทีมไว้ดีแล้ว

       ผมว่านี่มันคือสิ่งสำคัญมากๆนะ มันคือเวลาที่เหมาะสมเลยที่เป๊ปจะได้เข้ามาสานต่อเพื่อโฟกัสไปที่ แชมเปี้ยนส์ลีก ผมเชื่อว่าภายใต้การทำงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะทำให้ซิตี้เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้ยอดเยี่ยม แต่ก็นั่นแหละการจะคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกนั้นมันไม่ง่ายเลย ไม่ง่ายจริงๆ


35

       งานนี้แฟนบอลเร้ดอาร์มี่มีเคือง เมื่อมีการรายงานข่าวออกมาจากสื่อในอังกฤษว่านายใหญ่คนเก่งของหงส์แดง “เจอร์เก้น คล็อปป์” กำลังหมายตา ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ “ชิชาริโต้” อดีตดาวยิงของทีม ปีศาจแดง ที่ปัจจุบันเล่นอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในเยอรมัน โดยหวังที่จะดึงดาวยิงทีมชาติเม็กซิโกรายนี้กลับมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้งและเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาปืนฝืดที่หงส์แดงประสบอย่างหนักในซีซั่นนี้

       ทั้งนี้ดังที่ทราบกันดีว่า หงส์แดง ในซีซั่นนี้มีปัญหาเรื่องของการทำประตู เนื่องจากนักเตะกองหน้าที่ทุ่มซื้อเข้ามาเมื่อซัมเมอร์ปี 2015 อย่าง คริสเตยอง เบนเทเก้ ไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับทีมได้ ทั้งนักเตะกองหน้ารายอื่นก็ประสบปัญหาบาดเจ็บ โดยเฉพาะในรายของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ นั้นเรียกว่าเจ็บออดๆแอดๆมาแรมปีแล้ว การหาผู้เล่นที่มีความสามารถในการยิงประตูจึงเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาวของหงส์แดง

       อย่างไรก็ตามแม้ว่าในตลาดซื้อขายหน้าหนาวนี้พวกเขาได้มุ่งไปที่ดีลของ อเล็ก เตเซร่า มิดฟิลด์ตัวรุกของทีม ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค แต่เดอะ ไทมส์ สื่อชื่อก้องของอังกฤษก็รายงานออกมาว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงแพลนที่จะดึงเอา ชิชาริโต้ เข้ามาเสริมทัพอีกรายด้วย เพียงแต่มันอาจจะไม่ใช่ในตลาดรอบนี้

       สำหรับ ชิชาริโต้ นั้นถือได้ว่าเป็นกองหน้าที่มีสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดคนนึง โดยแม้ว่าจะเล่นให้กับปีศาจแดงในฐานะตัวสำรองซะเป็นส่วนใหญ่ แต่สถิติการทำประตูต่อเกมก็ยังดีกว่ากองหน้าดาวดังหลายๆรายด้วยซ้ำ

       ส่วนผลงานในปัจจุบันก็แน่นอนว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการเล่นให้ เลเวอร์คูเซ่น มีสถิติการยิงประตูแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เรียกว่าถ้ามีเจ้าตัวอยู่ในสนามแฟนบอลก็อุ่นใจได้ว่าจะต้องมีสกอร์แน่ ดังนั้นถ้าไม่นับเรื่องการที่นักเตะเคยค้าแข้งให้กับปีศาจแดง ต้องถือว่านี่คือการวางแผนแก้ปัญหาฟอร์มฝืดที่ดีมากๆของหงส์แดงเลย


36

       เรียกได้ว่าออกตัวแรงเองเลยงานนี้ สำหรับกุนซือเดอะ สเปเชี่ยล วัน “โจเซ่ มูริญโญ่” อดีตนายใหญ่ทีมสิงห์บลูที่กำลังว่างงานอยู่ในขณะนี้ เพราะมีรายงานข่าวออกมาจากสื่อในดังในอังกฤษหลายรายด้วยกัน ว่าเจ้าตัวได้จัดการร่อนจดหมายที่มีความยาวกว่า 6 หน้าไปหา สโมสรปีศาจแดง เพื่อแจ้งความจำนงของตนเองที่ต้องการขึ้นเป็นนายใหญ่ทีมปีศาจแดงแทนที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชาวดัตซ์ที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

       ทั้งนี้ มูริญโญ่ กับ ปีศาจแดง นั้นตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกันมาสักพักใหญ่ๆแล้ว โดยนับตั้งแต่กุนซือเดอะ สเปเชี่ยล วันถูกเด้งลงจากตำแหน่งในถิ่นเดอะ บริดจ์ของ เชลซี สื่อหลายสำนักก็พากันโหมข่าวว่าเจ้าตัวเป็นตัวเต็งที่จะได้ไปแทนที่ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งกำลังพาทีมปีศาจแดงผลงานดิ่งลงอยู่พอดีเช่นกัน

       อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆออกมา กระทั่งล่าสุดดังที่กล่าวข้างต้นเป็นการออกตัวของมูริญโญ่เองที่เขียนจดหมายส่งไปยัง สโมสรแมนฯยูไนเต็ด เพื่อแจ้งความต้องการของตนเองรวมถึงแจกแจงแพลนการทำทีมของตนเองให้ปีศาจแดงได้ทราบ หากว่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือคนใหม่แห่งถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดจริง

       โดยจากรายงานของสื่ออย่าง ESPN ระบุว่า มูริญโญ่ ให้สัญญาในจดหมายว่าถ้าหากได้เป็นกุนซือทัพปีศาจแดง ตัวเขาจะไม่ทำลายธรรมเนียมเดิมๆของทีมแน่ จะรักษาเอกลักษณ์และแนวทางปฏิบัติของทีมเอาไว้ พร้อมกับระบุทิศทางที่จะพาทีมเปลี่ยนแปลง ระบุรายชื่อนักเตะที่จะดึงมาเสริมทัพ

       สำหรับผลงานของ ปีศาจแดง และกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ล่าสุดนั้น เพิ่งพ่ายแพ้ให้กับทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน ในลีกไปคาถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดเลยส่งผลให้อันดับในตารางคะแนนของพวกเขายังรั้งอยู่เพียงแค่อันดับที่ห้า และมีแต้มตามหลังทีมอันดับสี่อย่าง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส มากถึงห้าแต้มจึงทำให้ข่าวคราวของ มูริญโญ่ นั้นทวีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

Image From: http://forums.888scoreonline.com/

37

       ต้องบอกว่าโลกต้องรู้เลยครับงานนี้สำหรับผลงานของฟุตบอลไทยในช่วงหลัง เมื่อล่าสุดไม่ใช่เพียงแค่สื่อไทยเราเองและสื่อในประเทศแถบอาเซียนเท่านั้นแล้ว ที่ตีแผ่ผลงานอันยอดเยี่ยมของทัพช้างศึก เพราะหลังจบรอบแบ่งกลุ่มของรายการปรีโอลิมปิก ซึ่ง ทีมชาติไทยชุด U23 เก็บได้สองแต้มจากสามเกม และตกรอบไปด้วยกฎมินิลีกแบบชนิดที่มีแต้มเท่ากับทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปซึ่งก็คือเกาหลีเหนือนั้น

       สื่อของประเทศญี่ปุ่นได้ตีข่าวแบบกึ่งสกู๊ปให้จับตาดูผลงานของทัพช้างศึกให้ดี เพราะนี่อาจเป็นทีมแถวหน้าของเอเชียรายใหม่ สำหรับผลงานในช่วงหลังของทัพช้างศึก ไทยแลนด์นั้นในระดับอาเซียนก็อย่างที่ทราบกันดีกลับมาประกาศศักดาความเป็นเจ้าอาเซียนอีกครั้งได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

       โดยคว้าแชมป์ในทุกรุ่น ทุกรายการมาหมดแล้ว ขณะที่ในรายการระดับเอเชียก็ดังที่กล่าวไปที่จบไปหมาดๆแม้จะตกรอบ แต่ก็เป็นการตกรอบแบบได้ลุ้นกระทั่งนาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขันแมทสุดท้ายเลยทีเดียว ทั้งๆที่อยู่ในกลุ่มโหดที่ถูกยกให้เป็นกรุ๊ปออฟเดตประจำทัวร์นาเม้น ประกอบด้วยทีมญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ ซาอุดิอาระเบีย และไทย

       สื่อญี่ปุ่นรายงานสกู๊ปเกี่ยวกับทีมฟุตบอลไทยออกมาแบบเน้นสามประเด็นหลักๆ คือหนึ่งทีมชาติไทยพัฒนาขึ้นมากหลังจากที่ซิโก้ อดีตตำนานนักเตะเข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน หรือเฮดโค้ชของทีม สองทีมฟุตบอลไทยกวาดความสำเร็จในอาเซียนมาครบถ้วนหมดเกลี้ยงแล้ว ไม่มีทีมไหนในอาเซียนต่อกรกับทีมไทยได้แล้วตอนนี้

       และสามในระดับเอเชีย ทีมช้างศึกก็ได้ส่งสัญญานบอกแล้วว่ากำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นทีมหัวแถว ด้วยผลงานที่บ่งชี้ในสองทัวร์นาเม้นท์สำคัญคือทัวร์นาเม้นท์คัดเลือกฟุตบอลโลก ซึ่งไทยอยู่ร่วมสายเดียวกับอิรัก ทีมชั้นนำของเอเชียแต่ก็สามารถสู้กับอิรักได้อย่างสนุกทั้งยังนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอยู่ตอนนี้ด้วย กับรายการชิงแชมป์เอเชีย U23 หรือปรีโอลิมปิกดังที่ได้กล่าวไปแล้ว

38

       ต้องบอกว่าสู้ไม่ได้ต้านไม่ไหวจริงๆสำหรับทัพช้างศึกไทยแลนด์ชุดอายุไม่เกิน 23 ปีของเราในศึก ชิงแชมป์เอเชีย หรือรายการ ปรีโอลิมปิก ที่คัดเอาสามทีมไปเล่นโอลิมปิก เมื่อในโปรแกรมการแข่งขันแมทที่สองของรอบแบ่งกลุ่มต้องพ่ายแพ้ให้กับทีมญี่ปุ่น U23 ไปแบบขาดลอยถึง 4-0

       ทั้งนี้การออกสตาร์ทรายการนี้ถือว่าทัพช้างศึกของเราทำผลงานได้ดีทีเดียว เมื่อสามารถแบ่งแต้มกับทีมซาอุดิอาระเบียได้ด้วยการไล่ตามตีเสมอในเกมแรกไป 1-1 และจะว่าไปรูปเกมที่เกิดขึ้นก็มีโอกาสที่จะคว้าชัยได้ด้วยซ้ำไป

       อย่างไรก็ตามในเกมแมทที่สองซึ่งค่อนข้างสำคัญต่อโอกาสในการลุ้นเข้ารอบ กลับต้องปราชัยให้กับญี่ปุ่นไป 4-0 ดังกล่าวข้างต้น กระนั้นก็ยังถือว่าทัพช้างศึก U23 ทำได้ดีในระดับนึงเมื่อดูจากรูปเกมในการเจอกับทีมระดับท็อปของเอเชีย เพราะในช่วงที่ตามหลัง 2-0 ก็มีจังหวะทำเกมรุกต่อเนื่องกดดันคู่แข่งได้เหมือนกัน ทั้งยังใกล้เคียงกับการได้ประตูตีไข่แตกด้วยเมื่อถูกทำฟาล์วในเขตโทษและผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษ

       ทว่าจังหวะสับไกยิงจุดโทษของธิติพันธ์ดันเกิดเหตุไม่คาดคิด เมื่อเท้าหลักไปลื่นกับพื้นสนามส่งผลให้ยิงบอลโดนไม่เต็มเท้าบอลกระชอกขึ้นไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

       ส่วนโอกาสในการลุ้นเข้ารอบหลังจากนี้ก็นับว่ายังไม่ปิดประตูสำหรับทีมช้างศึกซะทีเดียว เมื่อผลการแข่งขันของอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันระหว่างเกาหลีเหนือกับซาอุดิอาระเบียจบลงที่ผลเสมอ

       จึงเป็นญี่ปุ่นที่นำฝูงกลุ่มที่จำนวน 6 แต้มและการันตีการเข้ารอบเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ซาอุฯกับเกาหลีเหนือมีทีมละสองแต้ม มากกว่าไทยเพียงแค่หนึ่งแต้ม

       หมายความว่า หากในแมทสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มไทยสามารถเอาชนะเกาหลีเหนือได้ และลุ้นให้ทางซาอุฯไม่ชนะญี่ปุ่นก็จะได้ตีตั๋วเข้ารอบต่อไปในฐานะรองแชมป์กลุ่มที่จำนวน 4 แต้ม

       สรุปยังไงๆทัพช้างศึกก็ต้องพยายามเอาชนะ เกาหลีเหนือ ให้ได้ จากนั้นก็ภาวนาให้ทาง ญี่ปุ่น นั้นเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมในแมทสุดท้าย

39

       ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่แฟนบอลของทีมปีศาจแดงและสื่อเท่านั้นแล้ว ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับรูปแบบการเล่นของทีมปีศาจแดงในซีซั่นนี้ เมื่อล่าสุดเป็นตัวของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล เองที่ได้ออกมากล่าวยอมรับว่าตัวเขาเองก็รู้สึกเบื่อไม่น้อยกับการนั่งดูการเล่นของลูกทีมตนเอง ในหลายๆเกมของซีซั่นนี้ที่ผ่านพ้นไปแบบไม่เอาอ่าวเลย

       ทั้งนี้อย่างที่ทุกคนทราบกันดีรูปแบบการเล่นของทีมปีศาจแดงในซีซั่นนี้ ถือเป็นชนวนต้นเหตุสำคัญที่ก่อกระแสวิจารณ์การทำงานในด้านลบของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ขึ้นมา กระทั่งนำมาสู่ข่าวลือเกี่ยวกับการปลดเจ้าตัวลงจากตำแหน่งเลยทีเดียว

       แต่จนแล้วจนรอดทางกุนซือหลุยส์ ฟาน กัลก็ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตนเอง โดยยังคงยึดรูปแบบปรัชญาการทำทีมแบบเดิมๆที่ตนเองยึดมาตลอดอาชีพกุนซือ ซึ่งหลายคนมองว่ามันอาจเป็นปรัชญาที่เก่าแก่เกินไปไม่ทันยุคสมัยฟุตบอลในปัจจุบันแล้ว

       อย่างไรก็ตามนายใหญ่ชาวดัตซ์ได้ออกมากล่าวเผยถึงเรื่องนี้ผ่านสื่อว่ามีหลายเกมนะ ที่ผมรู้สึกสนุกในการดูลูกทีมเล่นอย่างเช่นเกมกับเชลซีถึงผลสกอร์มันจะจบลงที่ 0-0 และเราหวุดหวิดที่จะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่มันเป็นเกมที่ดีมากเลย แต่ก็มีอีกหลายเกมเช่นกันที่ผมดูแล้วรู้สึกเบื่อหน่ายและหงุดหงิดเพราะทีมเราแทบจะทำเกมรุกกดดันคู่แข่งไม่ได้เลย

       แต่ก็นั่นแหละฟุตบอลมันก็เป็นแบบนี้แหละ จะให้ทุกทีมเล่นได้ดีตลอดมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้มันคือเสน่ห์อย่างนึงที่ทำให้ฟุตบอลดึงดูดผู้ชมเข้ามา แฟนบอลสามารถกล่าววิจารณ์หรือให้กำลังใจนักเตะได้อยู่แล้วมันเป็นสิทธิ์ของพวกเขา ทว่าไม่ว่าจะในฐานะของนักเตะ แฟนบอล หรือแม้แต่ตัวกุนซืออย่างผมเองทุกคนต้องตระหนักรู้อยู่ว่าเราน่ะไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้ดีอยู่ตลอดเวลา จริงที่ปีศาจแดงในอดีตเคยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดแต่ในปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้น และผมเองก็ต้องขอโทษด้วยเช่นกันกับสิ่งที่มันเป็นอยู่นี้

40

       ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งทีมที่มีปัญหาในการเล่นในบ้านไปซะอย่างนั้นสำหรับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทั้งๆโดยปกติแล้วทีมใหญ่มักทำผลงานได้ดีในการเล่นเป็นเจ้าบ้าน เพราะสไตล์การเล่นของทีมภายใต้การนำของอดีตกุนซือเสือเหลืองนั้นเป็นการเล่นที่เน้นเกมรุกดุดัน และมีการเพสซิ่งเกมเร็ว ซึ่งมักจะเข้าทางเมื่อเจอกับทีมที่เปิดเกมแลกใส่ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วก็จะเป็นทีมที่พวกเขายกพลไปเยือนนั่นเอง

       แต่กับการเล่นเป็นเจ้าบ้านนั้น ทีมส่วนใหญ่โดยเฉพาะกับทีมเล็กๆ ก็มักที่จะมาเล่นเกมตั้งรับจึงทำให้พวกเขาเล่นได้ยาก และเจาะเกมรับคู่แข่งไม่ได้จนกลายเป็นความกดดันไป

       ล่าสุดเลยเดือดร้อนถึงขนาดที่นายใหญ่ชาวเยอรมันต้องออกมากระตุ้นนักเตะในทีมเลยทีเดียว แม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยได้ออกมากล่าวยืนยันว่าการเล่นในบ้านไม่ใช่ปัญหาของทีมก็ตาม

       โดย คล็อปป์ กล่าวผ่านสื่อว่า "คุณเห็น คุณรู้กันอยู่แล้วเราจะต้องเจอกับ เวสต์บรอมวิช ในบ้านวันอาทิตย์นี้ พวกเขาเป็นทีมที่เล่นด้วยยากมาก พวกเขามีการเล่นการตั้งรับลึก แน่นอนเราจะทำได้ดีกว่าในการเล่นกับทีมอื่นอย่างไรก็ช่างเรากำลังจดจ่ออยู่กับการรอเกมนี้ เรารู้ว่ามันต้องเป็นปัญหาแต่เราก็ต้องการเจอมันเพื่อหาทางแก้ไข"

       "ในเกมฟุตบอลคุณต้องเจอปัญหาใหม่อยู่เสมอแล้วคุณก็ต้องหาทางแก้ไขมันเรื่อยไป เมื่อเสียงนกหวีดเริ่มต้นขึ้นคุณก็ต้องเริ่มเล่นฟุตบอลแน่นอนล่ะว่าผู้มาเยือนต้องการที่ชัยชนะเช่นกัน แต่เราเล่นกันในแอนฟิลด์ฉะนั้นเราต้องแสดงศักยภาพของเราออกมา สนามแอนฟิลด์เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในความคิดของทุกคนและมันคือบ้านของเราแต่บางทีต้องยอมรับว่าเราเล่นได้ง่ายกว่าเมื่อออกไปเป็นทีมเยือน กระนั้นเราสามารถทำให้ที่นี้มีบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมได้เช่นกันถ้าเราร่วมแรงร่วมใจกัน"

41

       ยังคงยึดปรัชญาการทำทีมแบบเน้นระบบ เน้นแท็คติกเหนียวแน่นเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลงสำหรับทางด้านของ หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ดัตซ์แมนของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ยอดทีมแห่งโอลแทรฟฟอร์ด เพราะแม้ว่าเกมล่าสุดจะเป็นอีกเกมที่ทีมไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ และถึงขั้นโดนแฟนบอลของทีมตะโกนสั่งในเกมเสียงดังกึกก้องว่าให้ทีมเล่นเกมบุก แต่ตัวของกุนซือรายนี้ก็ยังออกมาแสดงความเห็นว่าเขารู้สึกมึนงงมากกับสิ่งที่แฟนบอลพากันทำ

       ทั้งนี้ปีศาจแดงในซีซั่นนี้ยิงประตูคู่แข่งได้น้อยมาก มีหลายเกมที่พวกเขาไม่เสียประตูให้กับคู่แข่งแต่ก็ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้เช่นกันจึงได้หนึ่งคะแนนไปพร้อมๆกับผลเสมอ 0-0 เช่นกันกับเกมลีกล่าสุดที่เปิดบ้านพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

       อย่างไรก็ตามกุนซือรายนี้ยังคงแสดงความเห็นออกมาแบบมั่นอกมั่นใจว่า ทีมไม่จำเป็นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบ หรือวิธีการเล่นอะไรใดๆตามที่แฟนบอลเรียกร้อง ฟาน กัล กล่าวหลังเกมดังกล่าวว่าผมไม่เข้าใจจริงๆว่าแฟนบอลทำอะไร พวกเขาตะโกนให้เราบุกๆไปเพื่อ? เรากำลังครองเกมได้อยู่แล้วมันไม่ใช่เวสต์แฮม ฉะนั้นรูปเกมเราดีอยู่แล้ว ใช่ผมรู้พวกเขาอาจผิดหวัง (ที่เรายิงประตูกันไม่ได้) เราเองก็อยากยิงมันได้ทุกนาทีนั่นแหละ แต่ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้บางทีเราก็ไม่สามารถที่จะทำอย่างนั้นได้

       ผมเองก็ทราบว่าถ้าเรายิงประตูได้แฟนบอลของเราก็จะรู้สึกแฮปปี้แล้วส่งเสียงเชียร์เรามากขึ้น นักเตะของเราก็พยายามทำกันเพียงแต่ผลมันไม่ออกมาอย่างที่เราต้องการ คุณอาจรู้สึกไม่พึงพอใจกับสไตล์การเล่นของยูไนเต็ดตอนนี้ แต่ผมก็เป็นแบบนี้กับทุกทีมที่ผมทำ ไม่ใช่แค่ยูไนเต็ดตอนผมอยู่ อาแจ็กซ์ อยู่ บาเยิร์น ทีมก็เล่นเหมือนกันนี่แหละ สถานการณ์ก็คือเรายิงประตูไม่ได้ แฟนบอลไม่มีความสุขแต่ฟุตบอลมันก็มหัศจรรย์อย่างนี้ วันนี้เราเป็นทีมที่ควรจะทำประตูได้ (ครองเกมเหนือกว่า) ทว่าทีมอย่าง เวสต์แฮม ก็มีโอกาสที่เซอร์ไพร์สยิงประตูและยัดเหยียดความพ่ายแพ้ให้เราเช่นกัน

42

       ต้องบอกว่ายังคงยึดมั่นในเป้าหมายเดิมที่ไม่ได้หวังไปไกลถึงการพาทีมคว้าแชมป์ ในซีซั่นแรกที่คุมทีมทันทีสำหรับทางด้านของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่เครางามของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่เข้ามาทำงานแทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือที่โดนเด้งออกไปเมื่อสองเดือนก่อน

       เพราะล่าสุดเจ้าตัวออกมากล่าวย้ำอีกครั้งถึงสถานการณ์ที่กำลังเป็นไปในตอนนี้ของทีมหงส์แดง โดยชี้ว่ากำลังดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ (เมื่อเทียบกับตอนก่อนที่ตนเองจะมาทำงาน) แต่แม้ว่าในทางทฤษฏีพวกเขากำลังอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงมากกับการมีลุ้นแชมป์ เนื่องจากตามหลังทีมจ่าฝูงซิตี้อยู่แค่ 6 แต้ม แต่นั่นก็ยังไม่ได้หมายความว่าตนเองจะพาทีมมองไปถึงแชมป์ในตอนนี้ทันทีเลย

       ทั้งนี้หงส์แดงในรอบ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเก็บชัยชนะได้สม่ำเสมอในทุกรายการที่ลงแข่งขัน โดยเฉพาะในรายการลีกนั้นหลังจากที่พลาดท่าพ่ายให้กับพาเลซในบ้านตัวเอง ก็สามารถกลับมาเก็บชัยได้ติดต่อกันสองเกมทันที  ทั้งการบุกไปถล่มแมนฯซิตี้ และการเอาชนะสวอนซี ซิตี้ ส่งผลให้อันดับในตารางคะแนนของพวกเขานั้นขยับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

       ในรายการ ยูโรป้าลีก ก็ได้ตีตั๋วเข้ารอบต่อไปเรียบร้อย จากฟอร์มดังกล่าวนี้เองจึงทำให้ตอนนี้หลายคนเริ่มมองไปที่การลุ้นแชมป์ลีกของทีมจากเมอร์ซี่ไซด์แล้ว ทว่าคล็อปป์ออกมากล่าวถึงประเด็นนี้ว่า

      "ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องของการคว้าแชมป์หรอกนะ แต่ถ้าใครจะคิดก็ย่อมเป็นสิทธิ์ของเขา คุณสามารถคิดได้ ที่นี่เราก็แค่พากันเล่นฟุตบอลเท่านั้น แน่นอนว่านี่คือทีมที่ยอดเยี่ยมเลยล่ะ ทุกคนก็กำลังมีความสุข และทุกอย่างก็กำลังไปได้สวยเลยนะ แต่อย่างที่ทราบการคว้าแชมป์มันต้องอาศัยโชคด้วย เช่นกันมันมีเรื่องของอาการบาดเจ็บของนักเตะอีก (ถ้านักเตะในทีมเกิดได้รับบาดเจ็บก็จะกระทบต่อโอกาสลุ้นแชมป์) ฉะนั้นตอนนี้เราจึงมองแค่จุดที่เราอยู่ ตอนนี้เราอยู่อันดับ 6"


43

       ต้องบอกว่ายังคงหวังลึกๆว่า จะกลับมาสู่เส้นทางของการลุ้นท็อปโฟร์ได้เหมือนกัน สำหรับทางด้านของทีมสิงห์บลู เชลซี แชมป์เก่าแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาฟอร์มจะบู่แบบชนิดที่เรียกว่ามองอนาคตแทบไม่เห็นกันก็ตาม โดยล่าสุดเป็น โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ของทีมที่ได้ออกมากล่าวหลังเกมที่สิงห์บลูเปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อนไปได้ 1-0 ว่าทีมของเขายังมีสิทธิ์ลุ้นจบอันดันท็อปโฟร์เพื่อตีตั๋วไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าเฉกเช่นบรรดาทีมบิ๊กในลีก

       ทั้งนี้หลังจบเกมดังกล่าวสิงห์บลูขยับรั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนนโดยมี 14 แต้มจาก 13 เกม แต่กระนั้นจำนวนแต้มก็ยังตามหลังทีมในโซนท็อปโฟร์มากอยู่ถึง 12 แต้ม

       อย่างไรก็ตาม มูริญโญ่ กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ของทีมตนเองในตอนนี้ว่า ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่จะลุ้นจบหนึ่งในสี่อันดับแรกแน่นอน แต่ส่วนเรื่องของการลุ้นแชมป์นั้นยอมรับว่าเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว พร้อมกันนี้ก็ยังได้กล่าวชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีมว่าทำได้ดีทีเดียวในเกมเฉือนเอาชนะ นอริช ซิตี้ 1-0 (สิงห์บลูได้ประตูโทนจากดีเอโก้ คอสต้า นาทีที่ 64)

       แต่ทั้งนั้นทั้งนี้แม้ว่าในทัศนะของ โจเซ่ มูริญโญ่ จะยังเชื่อมั่นว่าทีมของตนเองสามารถที่จะจบอันดับท็อปโฟร์ได้ และทางทฤษฎีก็ยังเป็นไปได้ตามนั้น ทว่าในทางปฏิบัติ หรือในทางการแข่งขันจริงแล้วต้องยอมรับตามตรงว่าไม่ใช่งานง่ายสำหรับเชลซี และมูริญโญ่เลย

       กล่าวคือ 12 แต้มที่ตามหลังทีมในโซนดังกล่าวนั้นไม่น้อยเลย มันหมายถึงพวกเขาต้องชนะให้ได้ต่อเนื่องติดต่อกัน 5-6 เกมเลยทีเดียวถึงจะพอมีลุ้นพาตนเองขึ้นไปเบียดๆอยู่ในกลุ่มนั้น หน่ำซ้ำยังต้องลุ้นให้ทีมในโซนนั้น และทีมที่อันดับเหนือกว่าพวกเขาสะดุดทำแต้มหล่นเรื่อยๆอีก

       อาทิเช่น ทีมลิเวอร์พูลที่ตอนนี้แม้จะรั้งอยู่อันดับ 9 แต่ก็ยังมีแต้มมากกว่าพวกเขาถึง 6 แต้ม ไหนจะยังมีเรื่องของฟอร์มการเล่นโดยเฉพาะความยากลำบากในการยิงประตูคู่แข่งที่กว่ายิงได้สักประตูช่างยากเย็นเหลือเกิน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีผลต่อความยากในการเก็บชัยชนะเกมต่อๆไปของพวกเขาอย่างมากเลย


44

       ดูจะออกสตาร์ทตลาดซื้อขายรอบสองด้วยความคึกคักทันทีเลยสำหรับทีมหงส์แดง ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ความหวังใหม่ของบรรดาเดอะ ค็อป เพราะล่าสุดมีรายงานข่าวออกมาจากสื่อดังเมืองเบียร์แล้วว่าเวลานี้หงส์แดงได้ทำการยื่นข้อเสนอไปยัง ชาลเก้ 04 เพื่อให้พิจารณาปล่อยตัวนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง เลรอย ซาเน่ ในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้แล้ว โดยรายงานของบิลด์ระบุว่าหงส์แดงได้ยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวน 10 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับแข้งดาวรุ่งทีมชาติเยอรมันวัย 19 ปี

       อย่างไรก็ตามแม้ว่านี้เป็นข่าวคราวที่แสดงถึงความจริงจัง ในการอยากได้ตัวซาเน่เป็นครั้งแรกจากทีมแห่งแอนฟิลด์ แต่ในช่วง 1-2 เดือนก่อนหน้านี้ ก็มีสื่อเล่นข่าวออกมาเป็นระยะๆอยู่แล้วว่า ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการเจ้าหนูรายนี้ไปเพิ่มมิติให้กับเกมรุกเพื่อพิชิตเป้าหมายคว้าท็อปโฟร์ในซีซั่นนี้

       แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็ยังไม่แน่อยู่ดีว่าทาง ชาลเก้ 04 จะตอบรับข้อเสนอ 10 ล้านปอนด์ของหงส์แดงหรือไม่ เพราะจะว่าไปแล้วซีซั่นนี้ ซาเน่ ก็ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมไปโดยปริยายแล้วจากผลงานการซัดไปแล้วถึง 5 ประตู อีกอย่างข้อเสนอ 10 ล้านปอนด์ สำหรับนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงแถมมีดีกรีติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ไปแล้ว ก็ไม่นับเป็นข้อเสนอที่มากมายอะไรเลย

       ส่วนนอกจากหงส์แดงแล้ว เลรอย ซาเน่ ก็ยังได้รับความสนใจจากทีมคู่ปรับอย่างปีศาจแดงอีกด้วย แต่ในรายของปีศาจแดงนั้นยังไม่มีข่าวคราวการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการออกมา

       ฉะนั้นถึงตอนนี้จึงพอสรุปได้ว่าหงส์แดงน่าจะรุกคืบก่อนเพื่อป้องกันการโดนตัดหน้าจากทีมคู่ปรับ (นอกจากซาเน่แล้วหงส์แดงก็ยังตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับนักเตะรายอื่นอีกหลายรายด้วยกัน โดยเฉพาะนักเตะในบุนเดสลีกา กระนั้นก็ยังไม่มีความชัดเจนจากปากของเจอร์เก้น คล็อปป์ออกมาอยู่ดีว่าตกลงแล้วใครเป็นเป้าหมายแรกในการเสริมทัพของหงส์แดงในช่วงตลาดรอบสองนี้)

45

       ดูท่าว่าจะไม่จบลงง่ายๆซะแล้วงานนี้สำหรับการปะทะคารมกันของสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งทีมปีศาจแดงอย่างตำนานกองกลางระดับท็อป “พอล สโคลส์” กับกุนซือของทีมคนปัจจุบัน “หลุยส์ ฟาน กัล” ทั้งนี้แม้ว่าตัวของพอล สโคลส์จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรโดยตรงกับทีมปีศาจแดงแล้ว แต่ช่วงที่ผ่านมาเจ้าตัวก็แสดงความห่วงใยอนาคตของอดีตต้นสังกัดอยู่เรื่อยๆ ด้วยการออกมากล่าววิจารณ์ แสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานะ และแนวทางของทีมที่กำลังเป็นไปในปัจจุบันว่าควรจะต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในส่วนใดบ้าง

       ทว่าสิ่งที่สโคลส์กล่าวออกมาแล้วทำให้กลายเป็นประเด็นสร้างความไม่พอใจแก่ตัวกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล ก็คือเรื่องของรูปแบบการเล่น ที่เจ้าตัวตำหนิว่าปีศาจแดงเล่นกันได้อย่างไร้จินตนาการ ไม่มีการสร้างสรรค์เกมรุกที่ดีพอ ผิดแปลกไปจากธรรมชาติของปีศาจแดง

       ฟาน กัล จึงออกมากล่าวจวกกลับว่า สิ่งที่อดีตกองกลางคนดังของปีศาจแดงรายนี้พูดออกมานั้นไม่ได้สร้างสรรค์เอาซะเลย และการที่เขาเป็นคนที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรกับปัญหาของทีม ก็ทำให้เขานึกอยากจะพูดอะไรก็พูดออกมา

       อย่างไรก็ตามล่าสุด สโคลส์ ไม่ยอมจบประเด็นแค่ตรงนั้นออกมากล่าวตอบโต้ว่าในเชิงสอน ฟาน กัล ว่าสิ่งที่เขาต้องทำนั้นไม่ใช่การยึดมั่นอยู่กับปรัชญาการทำทีมอันไร้สาระของตนเอง ที่ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับทีมเลย สโคลส์ กล่าวว่าผมเห็นทรงทีมมันไม่ดีมานาน 13 เดือนแล้ว แต่ก็ผมก็พูดอะไรมากไม่ค่อยได้ เพราะรู้ดีว่าฟาน กัลต้องฟังอยู่

       พวกเขามักพูดกันถึงปรัชญา กระบวนการทำทีมต่างๆ แต่เอาเถอะผมว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีความจำเป็นเลย ยูไนเต็ดของเราก็แค่ต้องการเล่นเกมบุกก็เท่านั้น แฟนบอลของเราต้องการเห็นทีมกลับมาเล่นเกมบุกที่ดุดันเหมือนเดิม และนั่นแหละที่เป็นแนวทางของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แท้จริง

       ส่วนนอกจากประเด็นการทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล แล้วในเวลาเดียวกัน สโคลส์ ก็ยังกล่าวชื่นชมดาวรุ่งของทีมอย่าง เจสซี่ ลินการ์ด อีกด้วยว่าทำผลงานได้ดีในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทีมพบกับ ซีเอสเคเอ มอสโก

Pages: 1 2 [3] 4 5 ... 61