Show Posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Journalist

Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 61
46

       ต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวที่ทำเอาผู้คนในวงการฟุตบอลตกใจไปเหมือนกัน สำหรับข่าวคราวการประกาศแยกทางของ เรอัล โซเซียดา ทีมดังแห่งลาลีกา สเปนกับ เดวิด มอยส์ นายใหญ่ชาวสก็อต

       ทั้งนี้ เดวิด มอยส์ ที่โดนปลดลงตำแหน่งกุนซือของปีศาจแดงเมื่อสองซีซั่นก่อนแบบอยู่ไม่ครบเทอมได้มีโอกาสเริ่มต้นงานใหม่ที่ ลาลีกา สเปน กับ เรอัล โซเซียดาด ในซีซั่นที่ผ่านมา โดยหลายคนมองว่าเป็นงานที่น่าจะเหมาะสมกับเจ้าตัว

       เหตุเพราะโซเซียดาดเป็นทีมขนาดกลางที่ความคาดหวังนั้นไม่สูงดังเช่นปีศาจแดง หรือว่ากันง่ายๆก็คือระดับทีมของโซเซียดาดนั้นใกล้เคียงกับ เอฟเวอร์ตัน ที่มอยส์เคยกุมบังเหียนเป็นเวลานั้น และการเริ่มต้นงานของมอยส์ในลาลีกาก็เหมือนจะเป็นไปด้วยดีเมื่อสามารถพาทีมจบอันดับที่ 12 ของตารางคะแนนลาลีกา อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุดได้แบบไร้กังวล

       อย่างไรก็ตามมาในซีซั่นนี้ผลงานกลับตาลปัตร เมื่อเจ้าตัวพาทีมหล่นไปอยู่ใกล้เคียงกับโซนตกชั้น โดยแข่งไปแล้ว 11 เกมรั้งอยู่อันดับ 16 ของตารางคะแนน มีเพียงแค่ 9 แต้มเท่ากับทีมอย่าง ลาสปัลมาส ที่อยู่ในโซนตกชั้น และผลงานเกมล่าสุดก็เป็นการบุกไปพ่ายให้กับ ลาสปัลมาส ด้วย

       ด้วยผลงานดังกล่าวนี้เองทางบอร์ดบริหารสโมสร เรอัล โซเซียดาด จึงไม่ลังเลที่จะตัดสินใจแยกทางกับอดีตกุนซือแมนฯยูไนเต็ด

       แถลงการณ์ของโซเซียดาดระบุว่าสโมสรได้ทำการยกเลิกสัญญากับ เดวิด มอยส์ เรียบร้อยแล้ว ผู้ช่วย บิลลี่ แม็คกินเลย์ ก็จะลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน

       "สโมสรเรอัล โซเซียดาดต้องขอขอบคุณในความทุ่มเทของทั้ง เดวิด มอยส์ และ บิลลี่ แม็คกินเลย์ ที่เขามีให้เราตลอดระยะเวลาการทำงานที่ เราขออวยพรให้ทั้งสองโชคดี พบเจอแต่สิ่งที่ดีทั้งในอาชีพการงาน และชีวิตส่วนตัว"

       สำหรับการเฟ้นหากุนซือรายใหม่ที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเชื่อว่าทาง โซเซียดาด น่าจะเร่งหากันในช่วงที่โปรแกรมลีกมีการพักเบรกเพื่อหลีกทางให้ทีมชาติ ซึ่งก็จะทำให้ทันทีที่กลับมาแข่งขันกันตามโปรแกรมทีมจะได้กุนซือรายใหม่ที่พร้อมทำงานทันทีเช่นกัน

47

       เรียกว่าเก่งจริงจนกัปตันทีมต้องออกมาซูฮกกันเลยทีเดียวสำหรับเจ้าหนู อองโตนี่ มาร์กซิอัล กองหน้าค่าตัวแพงของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ด ที่ย้ายมาจาก อาแอส โมนาโก ทีมดังในลีกเอิง ฝรั่งเศส

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันเจ้าหนูรายนี้ก่อนหน้าที่จะเซ็นสัญญาซบทีมปีศาจแดงนั้น ถือเป็นกองหน้าดาวรุ่งโนเนมรายนึงที่แฟนบอลยุโรปแทบจะไม่คุ้นชื่อของเขา ดังนั้นการเซ็นสัญญาของปีศาจแดงในช่วงวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะจึงนับเป็นอะไรที่เซอร์ไพร์สสุดๆ

       ยิ่งค่าตัวที่แมนฯยูไนเต็ดจ่ายให้กับโมนาโกนั้น เป็นเงินก้อนโตด้วยแล้วยิ่งทำให้ดีลนี้ถูกวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง แต่ทว่าพอนักเตะเริ่มออกสตาร์ทกับทีมทั้งในรายการลีก และรายการถ้วยยุโรปแล้วสามารถทำผลงานได้น่าประทับใจในทันที คำวิจารณ์ด้านลบก็เริ่มแปรเปลี่ยนกลายเป็นคำชื่นชม รวมถึงการซูฮกแทน

       ล่าสุด เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกกัปตันทีมปีศาจแดงที่เล่นร่วมกับ มาร์กซิอัล ในช่วงหลายนัดที่ผ่านมาก็ได้ออกมากล่าวชื่นชมซูฮกเป็นการใหญ่เลย รูนี่ย์กล่าวว่าเขามหัศจรรย์มากๆ การมาอยู่กับยูไนเต็ด (ต้องเจอความกดดันสูง) แต่เริ่มต้นได้แบบนี้มาน่าชื่นชมมาก ยิ่งเขาอายุน้อยมากด้วยแล้วมันยิ่งน่าทึ้งไปใหญ่ การที่ต้องย้ายจากบ้านมาพร้อมกับครอบครัวแล้วมาเริ่มต้นใหม่หมดที่นี้ สิ่งต่างๆที่เขาได้รับการชื่นชมมันย่อมคู่ควรกับเขาอยู่แล้ว

       คุณรู้อยู่แล้วล่ะว่าเขาคือนักเตะที่เจ๋งยังไง มันแน่นอนว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ดีสำหรับทีมของเราไปจนจบซีซั่นเลยล่ะ เขาเป็นนักเตะที่เร็วที่สุดที่เรา มันอาจไม่ได้เร็วเป็นอันดับหนึ่งของลีกก็เถอะนะ (แต่นั่นก็เพียงพอจะทำประโยชน์ให้ทีมได้มาก)

       สำหรับฟอร์มการเล่นของ รูนี่ย์ ในปัจจุบันนั้นค่อนข้างสวนทางกับรุ่นน้องในทีมอย่าง มาร์กซิอัล โดยฟอร์มของเจ้าตัวไม่ดีเอาซะเลยทั้งการยิงประตู การจ่ายบอล และการสร้างสรรค์จนตอนนี้โดนกระแสโจมตีอย่างหนักแล้ว

48

       ต้องบอกว่าเป็นนักเตะที่มีจุดยืนสไตล์การเล่นที่ชัดเจนเป็นของตัวเองเลยสำหรับทางด้านของ ดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกจอมบู๊ของทีมสิงห์บลู เชลซี ทั้งนี้คอสต้าถือได้ว่าเป็นกองหน้าที่มีสไตล์การเล่นที่หนักหน่วงมากคนนึง หน่ำซ้ำยังมักจะมีลูกตุกติกนอกเกมให้ได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ เจ้าตัวจึงถูกวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบกันในวงกว้างทั้งจากสื่อ และแฟนบอล แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตนเองแต่อย่างใด

       และล่าสุดก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เจ้าตัวออกมาย้ำชัดด้วยตนเองว่า ตัวตนของตนเองในสนามจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วตนเองก็ไม่ได้เห็นว่าสิ่งที่เป็นอยู่นั้นมันผิดอะไร เว้นเสียแต่ว่านายใหญ่ของทีมอย่าง โจเซ่ มูริญโญ่ จะขอให้ปรับเปลี่ยนสไตล์การเล่นบ้างเท่านั้น

       คอสต้า กล่าวอธิบายผู้จัดการทีมยังคงสนับสนุนผม เช่นเดียวกับสโมสรแล้วก็แฟนบอลด้วย ดังนั้นผมจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น มันไม่ใช่สิ่งผิดอะไรเลยที่ผมทำมาตลอดอาชีพของผม บ่อยครั้งที่ผมก็โดนคู่แข่งนอกเกมใส่ พวกเขาเตะผม แต่ผมก็ไม่ใช่นักเตะประเภทที่จะมาร้องไห้งอแง่เหมือนเด็กๆหรอกนะ ผมเองจึงต้องมีการป้องกันตัว ตอบโต้บ้าง แฟนบอลของผมคงไม่พอใจหรอกที่เห็นผมถูกกระทำ แล้วผมก็เล่นฟุตบอลเพื่อแฟนบอลที่สนับสนุนผมเพื่อผู้จัดการทีม เพื่อสโมสร ส่วนเรื่องประเด็นการโดนแบน การตัดสินจากกรรมการในช่วงหลังที่มีการพูดถึงเชื่อมโยงเกี่ยวกับตัวเขา

       เจ้าตัวกล่าวว่าผมไม่ได้มีปัญหาอะไรทั้งนั้นกับกรรมการ การที่ผมได้รับโทษแบนมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไร บางครั้งผมก็ได้รับใบเหลืองจากการทำฟาล์ว แต่นั่นมันก็คือส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขันอยู่แล้ว หลังจากนี้ผมก็แค่หวังว่าพวกเขา (กรรมการ) อาจมีมุมมองต่อตัวผมที่เปลี่ยนไปบ้าง ผมเชื่อว่าพวกเขามีความเป็นมืออาชีพในการทำหน้าที่อยู่แล้ว และการทำงานก็คงต้องอยากให้มันเป็นไปในทิศทางเดียวกันอยู่แล้ว (มีบรรทัดฐานที่แน่นอนชัดเจน)

49

       เพียงแค่สัปดาห์แรกของการเริ่มงานเท่านั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ทีมหงส์แดงก็พาลูกทีมเค้นฟอร์มเก่งออกมากระทั่งติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์จากการจัดของสื่อยักษ์ใหญ่อย่างบีบีซีถึงสองรายเลยทีเดียว

       ทั้งนี้การจัดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ถือเป็นเรื่องที่ทำกันเป็นธรรมเนียมในแวดวงของฟุตบอลอังกฤษอยู่แล้ว แต่จะมีการเลือก หรือการจัดโดยสำนักไหนนั้นก็อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา

       ล่าสุดนี้มาโดยบีบีซี สื่อชื่อก้องของอังกฤษที่ได้เผย 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดประจำวีคที่ 9 ออกมา ผู้รักษาประตูพวกเขาเลือก ซิมง มิโญเล่ต์ นายด่านเบลเยี่ยมของหงส์แดง ที่โชว์ฟอร์มซุปเปอร์เซฟไปหลายช็อตในเกมบิ๊กแมทที่ทัพหงส์แดงบุกเยือนถิ่น ไวท์ ฮาร์ท เลนของไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส  ฟอร์มในเกมนี้ของ มิโญเล่ต์ ทำให้หลายคนมองว่าเขาคือคีย์แมนที่สำคัญที่สุดในการพาทีมคว้าหนึ่งแต้มกลับออกมา

       แบ็กซ้าย คือ มาร์กอส โรโฮ จากแมนฯยูไนเต็ด เกมนี้เล่นได้ดีทั้งรับ และรุก โดยในจังหวะเกมรุกเจ้าตัวมีการเปิดบอลแอสซิสให้เพื่อนร่วมทีม อันเดร์ เอร์เรร่า โขกทำประตูได้ด้วย ตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมที่ดีที่สุดสำหรับแบ็กซ้ายจึงตกเป็นของเจ้าตัวไปโดยปริยาย

       คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ มามาดู ซาโก้ อีกหนึ่งลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ที่เริ่มต้นทำงานกับนายใหญ่คนใหม่ถูกมองว่าเล่นได้แกร่ง และนิ่งผิดหูผิดตาต่างจากในยุคของเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้จับคู่กับ โรล็องต์ กอสเซียลนี่ แนวรับตัวเก่งของทีมปืนโต อาร์เซน่อล

       แบ็กขวาเป็น คาร์ล เจนกินสัน ของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด คู่มิดฟิลด์ตรงกลางเป็น เดร์ เอร์เรร่า กับ มอร์แกน ชไนเดอร์แลง ของแมนฯยูไนเต็ด

       เกมรุกสามรายมี ราฮีม สเตอร์ลิง ของแมนฯซิตี้ ไวนาดุม ของนิวคาสเซิ่ล เจมี่ วาดี้ ของเลสเตอร์ ซิตี้

       และหน้าเป้าเป็น วิลฟรีด โบนี่ ของแมนฯซิตี้ที่ได้โอกาสจากมานูเอล เปเยกรินี่ให้ทำหน้าที่แทนอเกวโร่ กุนที่บาดเจ็บ และก็ไม่ทำให้ต้องผิดหวังเมื่อซัดคนเดียวสองประตูให้กับทีมในเกมสัปดาห์ล่าสุด


50

       เรียกว่าทำเอา เมมฟิส เดอปาย ปีกดัตซ์แมนถึงกับสะดุ้งกันไปเลยทีเดียวสำหรับการออกมาบอกกล่าวในครั้งล่าสุดจากทางด้าน หลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่จอมเฮี้ยบของทีมปีศาจแดง เพราะสิ่งที่นายใหญ่เพื่อนร่วมชาติฮอลแลนด์รายนี้กล่าวออกมานั้น เป็นไปในทำนองชี้ว่าอดีตแข้ง พีเอสวีฯ รายนี้อาจล้มเหลวไม่เป็นท่าเหมือนกับในรายของ อังเคล ดิ มาเรีย ก็เป็นได้ หากว่าระยะเวลาต่อจากนี้เจ้าตัวยังไม่พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม หลังได้รับโอกาสอย่างเต็มที่ในช่วงต้นซีซั่น แต่กลับทำผลงานได้ไม่ดีอย่างที่ได้รับการคาดหวังกันเอาไว้

       ทั้งนี้ในเกมล่าสุดที่ปีศาจแดงเอาชนะทอฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตันไปได้แบบขาดลอย 3-0 เมมฟิส เดอปาย ถูกดร็อปเป็นตัวสำรอง เนื่องจากผลงานในช่วงหลังของเจ้าตัวไม่ดีตามที่กล่าว

       และนอกจากเรื่องของผลงานแล้ว ก็ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องพฤติกรรมนอกสนามของเจ้าตัวอีกว่า เป็นนักเตะประเภทรักสนุก ชื่นชอบการท่องเที่ยวจนกระทั่ง ไรอัน กิ๊กส์ ผู้ช่วยของ ฟาน กัล และอดีตแข้งดาวดังระดับตำนานของปีศาจแดงต้องออกมาปากเตือนให้เพลาๆความสนุกสนานนอนสนามลงบ้าง

       อย่างไรก็ตาม ฟาน กัล กล่าวถึงลูกทีมรายนี้ว่า ไรอัน กิ๊กส์ เขาก็หน้าที่แค่ให้คำปรึกษา แต่คนที่จะต้องจัดการกับตัวเอง จัดการกับพฤติกรรมของตัวเองก็คือตัวของเขาเองนั่นแหละ เมื่อคุณมาอยู่ที่นี่คุณก็จะต้องเคารพปรัชญาของทีมที่ผ่านมามันมีตัวอย่างให้ได้เห็นกันแล้ว ว่านักเตะบางคนไม่อาจปรับตัวให้เข้ากับปรัชญา

       แต่มันก็แน่ล่ะไม่มีใครทราบก่อนได้อยู่แล้วว่าเมื่อซื้อนักเตะคนไหนเข้ามาแล้วเขาจะปรับตัวได้หรือไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ก็แค่รอดูเท่านั่นเอง ทว่าสิ่งแบบนี้มันเกิดกับนักเตะอย่าง ดิ มาเรีย และ ราดาเมล ฟัลเกา (เดอปายในซีซั่นก่อนทำผลงานในลีกดัตซ์ได้อย่างยอดเยี่ยม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพา พีเอสวี ไอนโฮเฟ่น คว้าแชมป์ลีกมาครองจากเหตุนี้เองทำให้เขาได้รับการคาดหวังจาก แมนฯยูไนเต็ด อย่างมาก)

51

       ต้องบอกว่ากลับมาผงาดอีกครั้งได้อย่างเต็มภาคภูมิเสียทีสำหรับกองหน้าเจ้าของฉายา “เอลนินโญ่” เฟร์นานโด ตอร์เรส เมื่อสามารถคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมของทีมตราหมี แอตฯมาดริด ประจำเดือนกันยายนไปครองได้จากการลงคะแนนโหวตของแฟนบอล

       ทั้งนี้ เฟร์นานโด ตอร์เรส เคยมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมในอาชีพค้าแข้งของตนเองเมื่อตอนที่เล่นให้ลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อจากการที่เจ้าตัวเล่นให้แอตฯมาดริดครั้งแรก (โชว์ฟอร์มกับแอตฯมาดริดได้ดีจึงถูกลิเวอร์พูลซื้อไปร่วมทีม)

       โดยตลอดระยะเวลาที่เจ้าตัวเล่นให้ ลิเวอร์พูล เจ้าตัวเป็นกองหน้าความหวังอันดับหนึ่งของทีมมาโดยตลอด แต่ทว่าหลังจากย้ายออกจากลิเวอร์พูลไปอยู่กับ เชลซี ทีมคู่แข่งแล้วเส้นทางการค้าแข้งของเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะพลิกผันไปอย่างสิ้นเชิงเลย ฟอร์มการเล่นของเจ้าตัวตกลงไปอย่างมาก โดยแทบจะไม่สามารถทำประตูสำคัญๆให้กับเชลซีเหมือนอย่างที่ทำให้กับหงส์แดงได้เลย 

       จากเหตุนี้เองเลยทำให้ถูกปล่อยให้กับมิลานยืมตัวไปใช้งานในยุคของกุนซือ โจเซ่ มูริญโญ่ กระทั่งกลายเป็นการย้ายทีมแบบถาวร กระนั้นการเล่นกับมิลานก็ไม่ได้ช่วยทำให้ฟอร์มของเอลนินโญ่ดีขึ้นแต่อย่างใดที่สุดแล้วชีวิตการค้าแข้งจึงหันเหอีกครั้งด้วยการถูกส่งยืมตัวต่อไปยังต้นสังกัดเก่าในลาลีกา สเปน “แอตฯมาดริด

       การกลับมาเล่นกับตราหมีเป็นคำรบที่สองนี้เองที่พอจะใกล้เคียงกับการฟื้นคืนชีพอีกครั้งของ เอลนินโญ่ เมื่อสามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดีทั้งกับการหวนกลับมาทำประตูได้เรื่อยๆ และการมีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีม สามารถช่วยให้เพื่อนร่วมทีมรายอื่นๆในทีมตราหมีทำเกมได้ลื่นไหลขึ้น

       สำหรับผลงานในเดือนกันยายนที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทีม ตอร์เรสยิงไป 2 ประตู และเจ้าตัวออกมากล่าวเปิดใจหลังได้รับรางวัลว่ามันถือเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจและทำให้มีความสุขอยู่แล้วสำหรับการที่ได้รับรางวัลอันมาจากการโหวตของแฟนบอล


52

       ไหนๆก็จะวางมือแล้วต้องบอกว่าขอทิ้งทวนกันแบบสวยๆ หน่อยสำหรับกุนซือจอมเฮี้ยบมากความสำเร็จอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ของทีมปีศาจแดง เมื่อล่าสุดก่อนเกมนำลูกทีมพบกับโวล์ฟบวร์กใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สองเจ้าตัวได้ออกมาประกาศกร้าวว่าหวังที่จะพาทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์สองรายการสำคัญ ซึ่งก็คือรายการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับรายการถ้วยยุโรปใบโต “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก”ก่อนที่จะหมดสัญญากับยอดทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์และวางมือจากอาชีพกุนซือ

       ทั้งนี้ หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามาทำทีมปีศาจแดงเมื่อซีซั่นที่แล้วเป็นซีซั่นแรก และสามารถพาทีมกลับเข้ามาเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในทันทีด้วยการจบอันดับที่สี่ของตารางคะแนน หลังก่อนหน้านี้ในยุคของกุนซือ เดวิด มอยส์ ทีมปีศาจแดงผลงานย่ำแย่จนไม่สามารถคว้าโควต้าเข้าเล่นรายการนี้ได้

       อย่างไรก็ตามปัจจุบันผลงานของทีมปีศาจแดง ณ ปัจจุบันถือว่ายอดเยี่ยมมากทีเดียวเมื่อกำลังนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกเวลานี้ และด้วยเหตุนี่เองทำให้กุนซือจอมเฮี้ยบหวังไกลไปถึงการคว้าแชมป์สองรายการสำคัญ

       โดย ฟาน กัล กล่าวกับสื่อว่าผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วนะที่ทีมเราจะคาดหวังถึงการคว้าแชมป์รายการแชมเปี้ยนส์ลีก และพรีเมียร์ลีกก่อนที่สัญญาของผมที่นี่จะหมดลงเพราะผมก็สามารถทำมันได้กับทุกสโมสรที่เคยคุมมาแล้ว (ฟาน กัลนำทุกทีมที่เคยคุมคว้าแชมป์ลีกมาหมดแล้ว)

        ผมว่าทีมเราพัฒนาจากเมื่อซีซั่นก่อนพอสมควรเลย แต่มันก็ยังต้องอาศัยเวลาอยู่นะ และเราจะต้องพัฒนาขึ้นหากจะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก

        ส่วนเรื่องของอนาคตหลังสื่อยิงคำถามใส่ทำนองว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแพลนยืดเวลาการวางมือจากอาชีพกุนซือต่อไปไหม? ฟาน กัลตอบกลับว่าในโลกของฟุตบอลมันจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ได้ ตามกำหนดผมจะอยู่ที่นี่สามปี แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเองได้ให้สัญญากับภรรยาไว้ว่าเสร็จงานนี้จะพักผ่อนที่บ้านในโปรตุเกสแล้ว ด้วยอายุอานามของผมมันคงยากนะหากผมจะผิดคำพูดต่อภรรยา

53

       แม้ว่าจะวางมือกับอาชีพกุนซือไปสักพักแล้วแต่ก็ยังถูกกล่าวถึงในแวดวงลูกหนังเยี่ยงตำนานระดับคุณภาพอยู่เรื่อยๆทีเดียวสำหรับกุนซือมากความสำเร็จอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้พาทีมปีศาจแดงผูกขาดความสำเร็จมาอย่างยาวนาน โดยการตกเป็นข่าวในครั้งนี้ก็เป็นทางด้านของฮาเวียร์ เอร์นานเดซ “ชิชาริโต้” อดีตนักเตะลูกรักที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นซึ่งออกมากล่าวในเชิงยกย่องว่า

       อดีตกุนซือปีศาจแดงรายนี้คือยอดกุนซือตัวจริงเสียงจริงเฉกเช่นอดีตกุนซือของ เรอัล มาดริด อย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เคยได้ร่วมงานกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อซีซั่นที่แล้วจากการที่ปีศาจแดงปล่อยเจ้าตัวไปให้ทัพลอสบลังกอสยืมใช้งาน

       สำหรับ ชิชาริโต้ นั้นถือได้ว่าเป็นนักเตะกองหน้าอายุน้อยที่เหมือนจะไปได้สวยกับทีมปีศาจแดงในช่วงแรกๆหลังจากที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไปดึงเจ้าตัวมาจากทีมชีวาสในลีกของเม็กซิโก เพราะแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นเป็นตัวหลักของทีมในทันทีแต่เจ้าตัวก็ได้โอกาสลงสนามเป็นระยะๆ และสามารถทำประตูได้เรื่อยๆ

       ทว่าพอ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือลง ภายใต้การนำทีมของกุนซือรายใหม่ทั้ง เดวิด มอยส์ และ หลุยส์ ฟาน กัล ชิชาริโต้ต่างไม่ถูกจัดอยู่ในแผนการทำทีมของสโมสรเลย สุดท้ายเลยหมดอนาคตไปแบบน่าเสียดาย

       อย่างไรก็ตาม ชิชาริโต้ กล่าวถึงคนที่มอบโอกาสอันดีให้ทั้งการเล่นกับแมนฯยูไนเต็ด และเรอัล มาดริดอย่าง เซอร์ อเล็กซ์กับ อันเช่ ว่า

       "เขายอดเยี่ยมมาก เขาเป็นสุภาพบุรุษแบบเดียวกันเป๊ะๆเลย พวกเขามีบุคลิกที่เหมือนกัน ช่วงเวลาที่ผมลงเล่นให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จครั้งนึงในชีวิตผม"

       ส่วนกับการย้ายมาเล่นให้ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในเยอรมัน ชิชาริโต้ กล่าวถึงว่า "ผมมีความสุขนะ ผมเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลาสามปีที่นี้ และผมก็อยากจะสนุกไปพร้อมๆกับการเรียนรู้สิ่งต่างๆให้ได้มากที่สุด"


54

       ถือว่าแรงไม่น้อยเลยสำหรับการออกมากล่าวครั้งล่าสุด ของกุนซือขัดใจแฟนบอลของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ต่อกรณีอนาคตของตนเอง เพราะสิ่งที่กล่าวออกมานั้นจงใจโจมตีบางคน บางกลุ่มที่ไม่สนับสนุนให้เจ้าตัวนักแท่นกุนซือ หงส์แดง ต่อไปอย่างชัดเจนเลย

       ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมา หงส์แดง ทำผลงานได้ไม่ดีนักเมื่อเทียบจำนวนเงินลงทุนที่พวกเขาทุ่มไปในช่วงของการเสริมทัพปรับทีมในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ อาทิเช่น การทุ่มซื้อ คริสเตยอง เบนเทเก้ มาจากวิลล่าด้วยค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์

       ซื้อ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ มาจากฮอฟเฟ่นไฮม์ด้วยค่าตัวใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ก็ยังมี นาธาเนียล ไคลน์ แบ็กที่ดึงมาจากเซาธ์แฮมป์ตันอีก ทำให้กระแสกดดันให้ปลด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ลงจากตำแหน่งกุนซือของทีมออกมาหนักมาก

       อย่างไรก็ตามในเกมลีกสัปดาห์ล่าสุด เบรนแดน ร็อดเจอร์ส สามารถลดกระแสกดดันอนาคตตัวเองลงไปได้บ้างเมื่อพาทีมลูกทีมเปิดบ้านเก็บชัยชนะเหนือแอสตัน วิลล่าได้ 3-2 แต่ถึงอย่างนั้นร็อดเจอร์สก็ได้ออกมากล่าวยืนยันด้วยว่าที่ผ่านมาไม่ได้รู้สึกไหวติงไปกับกระแสกดดันอนาคตตัวเองเลย พร้อมกันนี้ก็กล่าวในเชิงจวกคนที่ไม่หวังดีกับตนว่าเป็นพวกโรคจิตอีกต่างหาก

       โดย ร็อดเจอร์ส กล่าวว่าผมไม่เคยกังวลกับนักเตะของผมเลยนะ พวกเขาทำงานกันได้ดีเสมอ พวกเขาทุ่มเททำงานหนักกันตลอดเวลา แต่แน่นอนมันมีพวกที่เป็นโรคจิตคอยก่อกวนอยู่ และคิดว่ามันก็ยังจะมีต่อไปแหละ (แม้ผลงานของทีมจะดีหรือแย่ก็ตาม) ผมทราบดีมีคนบางกลุ่มที่ไม่ต้องการให้ผมอยู่ที่ลิเวอร์พูลต่อไป ถ้าว่ากันที่ผลงานผมพอใจกับทีมเห็นได้เลยว่าเมื่อนับรวมทุกถ้วยทุกรายการในซีซั่นนี้พวกเราแพ้น้อยกว่าทีมอย่าง แมนฯซิตี้ อาร์เซน่อล และเชลซีด้วยซ้ำไป เราเพิ่งจะแพ้ไปแค่สองเกมเท่านั้นซึ่งก็เท่ากับทีมอย่างแมนฯยูไนเต็ด และท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส แต่ก็นั่นแหละถ้าพวกที่เป็นโรคประสาทเขาก็จะคอยจับผิดเราตลอดแม้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ


55

       ยังถือว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือฟอร์มบู่ของหงส์แดงยังดวงแข็งอยู่ไม่น้อยเหมือนกันงานนี้ เมื่อล่าสุดมีรายงานออกมาจากสื่ออังกฤษว่าเจ้าของทีม และบอร์ดบริหารได้มีการเรียกประชุมถกเครียดอนาคตเบรนแดน ร็อดเจอร์สเป็นวาระพิเศษเพื่ออาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทีม แต่ทว่าภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลงพวกเขาก็ยังคงไม่ได้มติใดๆเป็นเอกฉันท์เพื่อให้มีน้ำหนักมากพอในการสั่งปลดกุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ และแต่งตั้งกุนซือรายอื่นเข้าทำงานแทน

       ทั้งนี้สื่ออย่าง ทอร์คสปอร์ต รายงานออกมาว่าระหว่างการประชุมมีทั้งผู้ที่ออกความเห็นว่าสมควรให้ปลดเบรนแดน ร็อดเจอร์สได้แล้ว กับผู้ที่แสดงจุดยืนสนับสนุนให้ร็อดเจอร์สพิสูจน์ผลงานต่อไปอีกสักหน่อย โดยภายหลังจากข้อมูลที่โผล่ออกมาก็มีบางสื่อรายงานเพิ่มเติมว่า จอห์น ดับเบิ้ลยู เฮนรี่ เจ้าของทีมต้องการปลดกุนซือรายนี้ แต่ทว่า เอียน อายร์ ซีอีโอทีม กับบอร์ดทีมอีกคนคัดค้านไว้ และขอให้ร็อดเจอร์สได้พิสูจน์ผลงานต่ออีกหน่อย

       อย่างไรก็ตามนอกจากประเด็นว่าจะปลดไม่ปลดร็อดเจอร์สที่ยังไม่อาจได้ข้อสรุปแล้ว เวลาใกล้เคียงกันก็มีหลายสื่อโหมข่าวออกมาว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตนายใหญ่ทีมเสือเหลือง ดอร์ทมุนด์คือกุนซือเต็งจ๋าที่จะเข้ามารับหน้าที่แทน โดยมีการอ้างว่ากุนซือรายนี้ประกาศชัดว่าสนใจที่จะมารับงานใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หากว่าได้รับตำแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งก็คงจะหมายถึงการได้นั่งแท่นกุนซือทีมใหญ่อย่าง ลิเวอร์พูล นั่นเอง

       ส่วนนอกจากในรายของคล็อปป์แล้ว ก็ยังมีกุนซือชื่อดังอีกหลายรายด้วยกันที่สื่อพยายามหยิบนำมาเชื่อมโยงกับหงส์แดงทั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ อดีตกุนซือเรอัล มาดริด โรนัลด์ คูมันน์ กุนซือทีมนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน แกรี่ มังค์ กุนซือสวอนซี แฟร้ง เดอ บัวร์ กุนซืออาแจ็กซ์ อัมเตอร์สดัม ทีมในลีกฮอลแลนด์ (แต่แทบจะทุกสื่อยกให้ คล็อปป์ และ อันเช่ เป็นสองตัวเต็งลำดับแรกที่หงส์แดงจะติดต่อ)

56

       งานนี้คงต้องบอกว่าให้ทางด้านของ เจมี่ คาราเกอร์ และ ชาบี อลอนโซ่ สองอดีตแข้งดังของทีมหงส์แดงเตรียมตัวเป็นผู้ช่วยกุนซือรอได้เลย เมื่อทางด้านของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เผยในเชิงเปิดใจผ่านอัตชีวประวัติของตัวเองว่าหากได้มีโอกาสทำตามความฝันนั่งแท่นเป็นกุนซือทีมรักอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล จริงๆ อลอนโซ่ และ คาราเกอร์ อดีตเพื่อนร่วมทีมจะเป็นสองคนแรกที่ตนเองติดต่อไปเพื่อให้มารับงานผู้ช่วยแน่นอน

       ทั้งนี้ เจอร์ราร์ด เคยได้เผยออกมาก่อนหน้านี้สักพักใหญ่ๆแล้วว่าหากแขวนสตั๊ดแล้วจะเดินหน้าสู่เส้นทางของการเป็นกุนซือทันที และความหวังสูงสุดก็หนีไม่พ้นการนั่งแท่นกุนซือทีมหงส์แดง ทีมที่ตัวเขาเองค้าแข้งมาด้วยยาวนานที่สุด

       แต่ล่าสุดในอัตชีวประวัติเล่มล่าสุดของเจ้าตัวได้บรรยายถึงเรื่องนี้อย่างละเอียดว่า "หากผมปล่อยใจตัวเองให้ล่องลอยไปตามความคิด ผมว่ามันคงจะเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากจริงๆ สำหรับการได้เป็นกุนซือทีมหงส์แดง แต่ในความจริงแล้วตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่า ผมจะดีพอที่จะนั่งแท่นกุนซือของทีมหรือไม่ ผมจะต้องเริ่มต้นอาชีพกุนซือด้วยความมั่นใจว่าผมจะประสบความสำเร็จได้ ผมไม่ได้ต้องการคุมหงส์แดงเพียงเพราะผมได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอล หรือว่าแฟนบอลคาดหวังให้ผมทำเหมือนอย่างที่พวกเขาสนับสนุนผมมาตลอดในฐานะนักเตะ"

       "ผมทราบดีว่าการเป็นกุนซือของลิเวอร์พูลมันถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากๆ และมันก็จะต้องเป็นเรื่องของคนที่เหมาะสมจริงๆ ซึ่งหมายถึงทั้งความรู้ และคุณวุฒิ"

       "ดังนั้นแล้วแน่นอนสำหรับผมเวลานี้มันยังเป็นไปไม่ได้ ผมแค่สนุกกับการเพ้อฝันไปก่อนก็เท่านั้น หากอนาคตผมได้เป็นจริงล่ะก็ คนที่ผมต้องการให้ช่วยงานก็คือคาราเกอร์ กับอลอนโซ่ เพราะพวกเขาฉลาดมากๆ พวกเขารอบรู้เรื่องฟุตบอลเป็นอย่างดี ผมคิดว่าถ้าได้คนเก่งแบบนี้อยู่รอบตัวผม และมีทีมสต๊าฟที่เหมาะสมผมก็ประสบความสำเร็จในฐานะกุนซือได้เหมือนกัน"


57

       ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นข้อเสนอที่ดูจะน้อยเกินไปหรือเปล่า สำหรับข้อเสนอขอซื้อตัว ดันเต้ กองหลังทีมชาติบราซิลของทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค จากทีมจิ้กจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษตามที่สื่อเจ้าดังอย่างซันเดย์ พีเพิลรายงานออกมา

       ทั้งนี้สื่อระบุว่าเลสเตอร์ต้องการเสริมแกร่งในแนวรับ และเล็งที่จะยื่นเงิน 5 ล้านปอนด์ให้ทางเสือใต้พิจาณาปล่อยดันเต้ให้โยกมาค้าแข้งในถิ่นคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม

       สำหรับ ดันเต้ ตามชื่อชั้นต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในนักเตะกองหลังเบอร์ต้นๆในเวทีฟุตบอลระดับสโมสรยุโรปเลย โดยเจ้าตัวเป็นตัวหลักในแผงเกมรับให้กับทางบาเยิร์น มิวนิคมาตั้งแต่ปี 2012 ทว่าหลังการมาของเมดี้ เบนาเตียจากอาแอส โรม่าเมื่อซัมเมอร์ปีก่อนก็เริ่มทำให้สถานะในทีมของเขาเปลี่ยนไป กระทั่งปัจจุบันกลายเป็นตัวสำรองของเบนาเตียแบบสมบูรณ์ไปแล้ว

       ส่วนท่าทีของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของทีมที่มีต่ออนาคตของดันเต้ ณ ตอนนี้ถือว่ายังไม่มีความชัดเจน แต่ก็แน่นอนว่าเป็นอะไรที่น่าลุ้นเหมือนกันว่าถ้าหากมีข้อเสนอจากเลสเตอร์เข้าไปจริงพวกเขาจะรับไว้พิจาณาหรือไม่ เพราะทีมใหญ่ระดับบาเยิร์น มิวนิคที่ลุ้นแชมป์ทุกรายการนั้นจำเป็นต้องมีนักเตะฝีเท้าดีไว้คอยซัพพอร์ทในทุกๆตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ถ้าหากว่านักเตะต้องการที่จะย้ายออกจากทีมด้วยเหตุผลเรื่องความต้องการลงสนามอย่างต่อเนื่องมันก็เป็นเรื่องยากอยู่ดีที่สโมสรจะรั้งเอาไว้
 
       ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นที่น่าสนใจในตลาดนักเตะสำหรับนักเตะในแนวรับ หรือกองหลังอื่นๆก็มีทางด้านของ จอนนี่ อีแวนส์ ที่ได้ย้ายซบเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ตามที่มีข่าวออกมาเมื่อวันก่อนเรียบร้อยแล้ว โดยมีการเปิดตัวนักเตะ ชูเสื้อ และแถลงยืนยันอย่างเป็นทางการจากสโมสรเวสต์บรอมฯแล้ว ซึ่งถือเป็นหนึ่งดีลการเสริมทัพที่เรียกความสนใจจากแฟนบอลพรเมียร์ลีก อังกฤษได้ไม่น้อยเลย (อีแวนส์จัดว่าเป็นหนึ่งกองหลังตัวหลักของแมนฯยูไนเต็ดในช่วงหลัง)

58

       ดูจะคึกคักไม่น้อยหน้าทีมอื่นเหมือนกันสำหรับทางด้านของทีม จิ้กจอกสยาม อีกหนึ่งทีมขวัญใจแฟนบอลไทยในปัจจุบัน เพราะท่ามกลางกระแสการเสริมทัพที่ดุดันของทั้งทีมใหญ่ และเล็ก อาทิเช่นการดึงเอา เชอร์ดาน ชากริรี่ เข้ารังของทีมช่างปั้นหม้อ สโต๊ค ซิตี้ เป็นต้น

       ทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่พลาดที่สร้างความชุ่มชื่นใจให้แฟนบอลของพวกเขาเช่นกันด้วยการพยายามดึงเอา โกคาน อินแลร์ กองกลางตัวเก่งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ของทาง อัซซูร่า นาโปลี เข้ามาเสริมทัพ

       โดยล่าสุดมีสื่อที่อ้างแหล่งข่าวจากสกาย สปอร์ตออกมาอัพเดตความคืบหน้าดีลแล้วด้วยว่าเลสเตอร์กำลังจ่อที่จะปิดดีลได้แล้ว โดยที่ค่าตัวของนักเตะนั้นพวกเขายอมจ่ายให้มากกว่าตอนยื่นข้อเสนอครั้งแรกจาก 6 ล้านยูโร เป็น 7 ล้านยูโร บวกกับออพชั่นโบนัสพิเศษหากนักเตะทำผลงานได้ดีตามคาดหวัง

       นอกจากนี้ก็ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่านักเตะน่าจะกำลังเดินทางไปยังอังกฤษเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย และเซ็นสัญญาเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่สัญญาที่จะเซ็นกันนั้นจะมีระยะเวลา 3 ปีด้วยกัน

       สำหรับ อินแลร์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกองกลางของนาโปลีที่ทำผลงานในช่วงหลังได้ดีมากๆ เรียกว่าเป็นกองกลางคนนึงที่ถูกหลายทีมหมายตาก็ว่าได้ โดยในซัมเมอร์นี้นอกจากเลสเตอร์แล้ว ทีมดังจากเยอรมันอย่างชาลเก้ 04 ก็แสดงความสนใจในตัวนักเตะอย่างชัดเจนเช่นกัน

       ย้อนกลับไปเมื่อตลาดรอบที่แล้วทีมใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก อย่าง ลิเวอร์พูล ก็เคยตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับแข้งทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์รายนี้

       แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็แน่นอนว่าการย้ายจากลีกอย่าง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ไปเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งมีความแตกต่างกันนั้นไม่ใช่งานง่ายสำหรับนักเตะ ดังตัวอย่างของ ฮวน กัวดาโด้ ที่ย้ายจากฟิออฯ ไปเล่นกับเชลซีก็มีให้เห็นกันแล้ว ดังนั้นหากจะการันตีว่านี่คือดีลที่ยอดเยี่ยมของเลสเตอร์ก็คงจะไม่ได้ซะทีเดียว

59

       ได้ลุ้นกันสนุกเลยงานนี้สำหรับแฟนบอลของสามแข้งระดับเทพอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพราะทั้งสามคนนั้นกลายเป็นสามคนสุดท้ายของการลุ้นชิงรางวัลอันทรงเกียรติของแวดวงฟุตบอลระดับทวีปยุโรปอย่าง นักเตะยอดเยี่ยมประจำยุโรป ซีซั่น 2014-2015 โดยรางวัลนี้ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ และได้รับความสนใจมากที่สุดในแวดวงลูกหนัง หากไม่นับรางวัลฟีฟ่า บัลลงดอร์ที่มีการมอบโดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า

       สำหรับเกณฑ์การตัดสิน และมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำยุโรป จะใช้การโหวตลงคะแนนจากบรรดานักข่าวกีฬาของประเทศที่เป็นสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า 54 ประเทศ ว่ากันง่ายๆคือจะมีตัวแทนนักข่าวกีฬาจากแต่ละประเทศจำนวน 54 ประเทศนั้นมาลงคะแนนโหวตโดยประเมินจากผลงานโดยรวมของนักเตะตลอดทั้งปี ซึ่งรวมทั้งผลงานในการเล่นให้ทีมชาติ และสโมสรด้วย ดังนั้นในแง่ของความยุติธรรม หรือความสมบูรณ์ในการประเมิน ตัดสินรางวัลนี้ว่านักเตะรายใดจะเป็นผู้ได้รับไปนั้นจึงนับว่าเป็นการตัดสินที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการยอมรับอย่างมากรางวัลนึงเลย กล่าวคือไม่ค่อยจะมีข้อครหาใดๆตามมาภายหลังการมอบรางวัล สำหรับการตัดสินในรอบสุดท้าย และมอบรางวัลนี้จะมีขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคมนี้

       ส่วนเรื่องของการคาดการณ์ว่าใครน่าจะเป็นผู้ได้รับรางวัลนี้ไปครอง ถึงตอนนี้ต้องบอกว่ายังเดากันได้ยากเหลือเกิน เนื่องจากทั้งสามรายต่างก็ทำผลงานได้ดีมากทีเดียวในซีซั่นที่แล้ว

       โดยเฉพาะกับในรายของลิโอเนล เมสซี่ และหลุยส์ ซัวเรซที่พาบาร์เซโลน่าคว้าสามแชมป์ใหญ่ ทั้งลาลีกา สเปน โกปา เดล เรย์ และยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ในรายของซัวเรซแม้ว่าช่วงแรกๆจะทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าเขาใช้เวลาในการปรับตัวไม่นานเลยในการย้าจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษมาเล่นให้บาร์เซโลน่าก่อนจะระเบิดฟอร์มเทพทั้งยิง และจ่ายในการร่วมประสานงานกับเมสซี่ และเนย์มาร์

60

       ไม่รู้ว่ามีเจตนาเบรกความคาดหวังจากแฟนบอลที่มีต่อตัว คริสเตยอง เบนเทเก้ หัวหอกใหม่ป้ายแดงของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่พวกเขาทุ่มเงินซื้อมาด้วยจำนวนเงินมากถึง 32.5 ล้านปอนด์หรือเปล่านะงานนี้ สำหรับการออกมากล่าวแสดงทัศนะจากทางด้าน เจมี่ คาราเกอร์ อดีตปราการหลังพันธ์แกร่งของทีม ที่เป็นไปในทำนองแย้งว่าดีลนี้จะไม่ใช่ดีลที่ดีอย่างที่หลายคนคาดหวังหรอก เหตุเพราะตัวนักเตะมีสไตล์ที่ไม่เหมาะกับหงส์แดงเอาซะเลย หน่ำซ้ำยังขาดคุณสมบัติที่คู่ควรกับแผนการเล่นของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อีกด้วย

       ทั้งนี้ เบนเทเก้ ถือได้ว่าเป็นเป้าหมายการเสริมทัพอันดับต้นๆ ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในตลาดรอบนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งเลยก็ได้ โดยหงส์แดงใช้ความพยายามในการติดต่อยื่นข้อเสนอมากถึงสามครั้งกว่าจะปิดดีลนี้ได้ หลังรอบแรกยื่นเข้าไป 20 ล้านปอนด์ และรอบสอง 25 ล้านปอนด์  แต่ถูกยอดทีมแห่งวิลล่าพาร์คปฏิเสธกลับมาทั้งสองครั้งสองคราแบบไม่ใยดี ก่อนที่จะตัดสินใจยอมจ่ายเงินก้อนโตเท่าค่าฉีกสัญญาของนักเตะ

       แต่ล่าสุด คาราเกอร์ กลับเบรกความหวังใหม่ในแดนหน้าของแฟนบอลเดอะค็อป โดยเขาอธิบายเหตุผลกับสื่อว่า  "เบนเทเก้ สร้างความประทับใจที่ยอดเยี่ยมในการเผชิญหน้ากับหงส์แดง เขาฉีกเกมของหงส์แดงออกมาเป็นชิ้นเลย เราต้องเจอกับปัญหาจริงๆในการเผชิญหน้ากับเขา"

       "เขายิงได้ 5 ประตูจาก 6 เกมในการเจอกัน แน่นอนนั่นมันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก แต่เราก็รู้มาด้วยเช่นกันว่าเขาคือนักเตะที่สัมผัสบอลแรกไม่ดีเอาซะเลย ในบางเวลาเขาก็มักจะแสดงให้เห็นถึงการขาดสมาธิต่อเกมด้วย มันชัดมากว่าเขาหลุดโฟกัสไปจากเกมในบางช่วง นี่แหละปัญหา"

       "ผมชอบเขานะในฐานะนักเตะกองหน้า แล้วก็คิดว่ามันจะดีกว่าถ้าหากเขาได้เป็นผู้เล่นของ เชลซี ภายใต้การทำทีมของ โจเซ่ มูริญโญ่ ซึ่งชื่นชอบกองหน้าในสไตล์นี้"

       "สำหรับ ลิเวอร์พูล และ ร็อดเจอร์ส แล้ว ผมไม่มั่นใจจริงๆว่าเขาเหมาะหรือเปล่าที่จะต้องมาเล่นบอลสั้นๆ ต่อบอลเร็ว ใช้ความคมในการจบสกอร์"


Pages: 1 2 3 [4] 5 6 ... 61