แม้ว่าใครๆจะพากันกล่าวขานว่าสโมสรรีล มาดริด ของประเทศสเปนนั้นเป็นสโมสรที่นักเตะชั้นดีไม่อาจปฏิเสธโอกาสในการย้ายไปค้าแข้งด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือเป็นสโมสรแห่งความฝันของเหล่านักเตะอาชีพ แต่ทว่าสำหรับผู้ที่เคยสัมผัสคลุกคลีอยู่กับสโมสรอันยิ่งใหญ่แห่งนี้อย่าง “โจเซ่ มูริญโญ่” กลับมองเห็นต่างออกไป โดยเจ้าตัวออกมาพูดทำนองว่าทีมราชันแห่งสเปนนั้นไม่ใช่ทีมที่ดึงดูดนักเตะชั้นยอดให้เข้าไปค้าแข้งด้วยเสมอไปหรอก พร้อมกับพยายามชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจย้ายทีมของนักเตะชั้นดีนั้นมีปัจจัยอื่นๆให้ต้องใช้ในการพิจารณานอกเหนือจากเรื่องของชื่อชั้นสโมสร
ดังตัวอย่างของชินจิ คางาวะนั้นมูริญโญ่เผยออกมาเองเลยว่าเขาสนใจ และติดต่อชินจิ คางาวะให้มาเล่นกับรีล มาดริด เมื่อครั้งที่เจ้าตัวเล่นให้ดอร์ทมุนด์ แต่สิ่งที่คางาวะตอบกลับมาคือเขาไม่ต้องการย้ายไปเพื่อเป็นสำรองให้กับเมซุส โอซิล ที่เวลานั้นประจำการตำแหน่งเพลย์เมเกอร์ให้ทัพราชันภายใต้การคุมทีมของมูริญโญ่ แทนที่จะย้ายมาสานฝันการค้าแข้งของตนเองที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิว เฉกเช่นนักเตะชื่อดังหลายๆ ชินจิ คางาวะก็เลยเลือกที่จะย้ายไปอยู่โรงละครแห่งความฝัน (แมนฯยูไนเต็ด) แทน ซึ่งเท่ากับว่าคางาวะเลือกให้น้ำหนักกับโอกาสในการลงสนามมากกว่าชื่อชั้นของสโมสร
อย่างไรก็ตามการสำหรับการที่คางาวะเลือกย้ายไปค้าแข้งกับแมนฯยูไนเต็ดนั้น ผลที่ออกมาก็อย่างที่เราได้เห็นกันคือ คางาวะเองก็ไม่อาจประสบความสำเร็จก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักของทีมแมนฯยูไนเต็ดได้ แต่นั่นก็ต้องบอกว่ามันเป็นคนละเรื่องกับการที่เจ้าตัวตัดสินใจเลือกมาแมนฯยูไนเต็ดอย่างที่กล่าวไป ฉะนั้นจะไปบอกว่าคางาวะคิดผิดที่ไม่ย้ายซบมาดริดก็คงจะไม่ได้ เพียงแต่อยากจะสื่อว่าเมื่ออนาคตการค้าแข้งของคางาวะที่แมนฯยูไนเต็ดมันออกมาแบบนี้ บางทีเจ้าตัวอาจนึกเสียดายก็เป็นได้ที่ในคราวนั้นไม่เลือกเสี่ยงย้ายไปแย่งตัวจริงกับโอซิลในสโมสรแห่งความฝันของนักเตะทั่วโลกอย่างรีล มาดริด
