เกมแพ้ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ 1-6 ย่อมไม่ใช้การแพ้แบบขาดลอยครั้งแรกที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องเผชิญ โดยก่อนหน้านี้ มีเกม 6 นัด ที่นักเตะ "ปิศาจแดง" ภายใต้อาณัติของ เซอร์อเล็กซ์ ต้องพบกับความพ่ายแพ้ด้วยสกอร์ถล่มทลาย แต่เชื่อหรือไม่ หลายครั้งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องแพ้แบบย่อยยับ แต่สุดท้ายพวกเขาก็กลับมาจบฤดูกาลนั้นๆ ด้วยการคว้าแชมป์ลีกไปครอง
นิวคาสเซิล 5-0 แมนฯยูไนเต็ด (วันที่ 20 ต.ค. 1996)
หลังเป็นฝ่ายโดนถล่มก่อนถึง 4-0 ในเกมนัดแชริตีชิลด์ นัดเปิดฤดูกาล เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ทีม "เจ้าสาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยุคที่เล่นเกมรุกได้สุดเร้าใจภายใต้การนำทัพของ เควิน คีแกน ก็เอาคืนทีมของ เซอร์อเล็กซ์ ชนิดทบต้นทบดอก ด้วยการเปิดบ้านเรียงหน้าเข้ามายิงของ ดาร์เรน พีค็อก, ดาวิด ชิโนลา, เลส เฟอร์ดินานด์, อลัน เชียเรอร์ และปิดท้ายด้วยลูกชิพสุดเหนือชั้นของ ฟิลิปป์ อัลแบร์
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 1996/97 : แมนฯยูไนเต็ด
เซาธ์แฮมป์ตัน 6-3 แมนฯยูไนเต็ด (วันที่ 26 ต.ค. 1996)
คล้อยหลังโดน นิวคาสเซิล ถล่มแบบไม่ไว้หน้าได้เพียงสัปดาห์เดียว ลูกทีมของ เซอร์อเล็กซ์ ก็ต้องออกไปเยือนถิ่นเดอะ เดลล์ ของทีม "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ขึ้นชื่อว่าเล่นงานทีมใหญ่มาแล้วนักต่อนัก และเมื่อโดน เอยัล เบอร์โควิช ยิงขึ้นนำเร็วตั้งแต่ต้นเกม ตามมาด้วยการถูกไล่ออกของขาโหดอย่าง รอย คีน ก็ทำให้ แมนฯยูไนเต็ด กลายเป็นเหยื่อรายถัดมาของ "เดอะ เฮลล์" ด้วยลูกยิงสุดเหนือชั้นของ "พ่อมด" แม็ตต์ เลอ ทิสซิเอร์ และ แฮตทริกฮีโร่ เอกิล ออสเทนสตัด
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 1996/97 : แมนฯยูไนเต็ด
เชลซี 5-0 แมนฯยูไนเต็ด
นัดนี้ มัสซิโม ตาอิบี โกล์อายุสั้นของ แมนฯยูไนเต็ด ออกมาตัดบอลพลาดโดน กุสตาโว โปเยต์ โหม่งตัดหน้าเข้าไปง่ายๆ ตั้งแต่ต้นเกม ตามด้วยการถูกจอมฝืดอย่าง คริส ซัตตัน ยิงหนีห่าง 2-0 แล้วพอ นิคกี บัตต์ ถูกไล่ออกไปอีก ช่วงที่เหลือก็กลายเป็นทีมสิงห์บลูสนุกข้างเดียว โปเยต์ มาทำประตูที่ 2 ของตัวเอง, เฮนนิง เบิร์ก สกัดเข้าประตูตัวเอง และ โจดี มอร์ริส ซัดปิดท้ายลูกที่ 5 เข้าไป ก็ทำให้สถิติไม่แพ้ใครก่อนหน้านี้ 29 นัดติดต่อกันของทีมทริปเปิลแชมป์หมาดๆ ต้องถูกหยุดลงที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ในครานั้นนั่นเอง
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 1999/2000 : แมนฯยูไนเต็ด
แมนฯยูไนเต็ด 1-4 ลิเวอร์พูล (14 มีนาคม 2009)
แม้จะออกนำเร็วตั้งแต่ 23 นาทีแรกของเกมจากจุดโทษของ คริสเตียโน โรนัลโด แต่ช่วงที่เหลือก็กลับเป็นแฟนบอลผีแดงในโอลด์แทรฟเฟิร์ดที่ต้องนั่งนิ่งเงียบ เมื่อ เฟอร์นันโด ตอร์เรส และ สตีเวน เจอร์ราร์ด ยิงแซงนำให้ ลิเวอร์พูล ก่อนหมดครึ่งแรก ขณะที่การถูกไล่ออกของ เนมันยา วีดิช ในครึ่งหลัง ก็ช่วยเปิดทางให้เดอะค็อปได้ฉลองชัยชนะเหนือคู่อริตลอดกาลไปอย่างท้วมท้น หลัง ฟาบิโอ ออเรลิโอ กับ อันเดรีย ดอสเซนา มาบวกเพิ่มอีกคนละลูกเป็น 4-1
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 2009/10 : แมนฯยูไนเต็ด
แมนฯยูไนเต็ด 1-4 ควีนส์ปาร์ค (1 มกราคม 1992)
ก่อนจะยิ่งใหญ่ด้วยแชมป์ลีกครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1992/93 แมนฯยูไนเต็ด ก็เคยถูกทีมน้องใหม่ในตอนนี้อย่าง ควีนส์ปาร์ค บุกมาถล่มที่โอลด์แทรฟเฟิร์ดถึง 4-1 มาแล้ว โดยเฉพาะตัวแสบ แดน ไบลีย์ ที่ยิงแฮตทริกในเกมดังกล่าว พ่วงด้วย แอนดี ซินตัน อีกหนึ่งลูก ก่อนที่ ไบรอัน แม็คแคลร์ จะทวงคืนได้หนึ่งลูก ให้ทีมผีแดงไม่ต้องกินไข่ แต่ที่แสบสันต์สุดๆ คือ เกมโดนถล่มนัดนี้นั้นเกิดขึ้นหลังวันเกิดอายุครบ 50 ปีของ เซอร์อเล็กซ์ เพียงวันเดียว! จนบรมกุนซือสกอตต์ยังตัดพ้อเองเลยว่า "ผมฉลองวันเกิดอายุครบ 50 ปีด้วยการถูก ควีนส์ปาร์ค ถล่ม 4-1!"
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 1991/92 : ลีดส์ ยูไนเต็ด
แมนฯ ซิตี้ 5-1 แมนฯยูไนเต็ด (23 กันยายน 1989)
ถ้าจะย้อนถึงครั้งสุดท้ายที่โดนอริร่วมเมืองถล่มเละ ก็ต้องย้อนไปถึงเมื่อปี 1989 หรือกว่า 22 ปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้นเกิดขึ้นที่สังเวียนเมน โรด บ้านหลังเก่าของ แมนฯซิตี้ ด้วยการถล่มประตูของ เดวิด โอลด์ฟิลด์ 2 ลูก, เทรเวอร์ มอร์ลีย์, เอียน บิชอฟ และ แอนดี ฮินช์คลิฟฟ์ ก่อนที่ มาร์ค ฮิวจ์ส จะยิงไข่แตกให้ทีมเยือนได้
แชมป์เมื่อจบฤดูกาล 1989/90 : ลิเวอร์พูล