เพียงช่วงต้นฤดูกาลเท่านั้น สองคู่อริแย่งแชมป์ เชลซี – แมนฯยูไนเต็ด ก็พากันเปิดศึกสงครามน้ำลายใส่กันอย่างเมามันส์ โดยเป็นทางด้านโจเซ่ มูริญโญ่ กุนซือของสิงห์บูล เชลซี ที่เริ่มสาดน้ำลายเข้าใส่ก่อน โดยเจ้าตัวได้ออกมาชี้ว่าแมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์ในฤดุกาลที่แล้วได้อย่างไม่สมศักดิ์ศรี ประมาณว่าไม่สมควรเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั่นล่ะ ทั้งๆที่ทีมที่เขาคุมอย่างรีล มาดริด ซึ่งเต็มไปด้วยซุปเปอร์สตารนักเตะราคาแพงล้นทีมก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศสเปนได้ ทั้งนี้เป็นทางด้านบาร์เซโลน่า ที่ซิวแชมป์ดังกล่าวไปครอง
ส่วนการสวนกลับของเดวิด มอยส์ นั้น เดวิด มอยส์ย้อนกลับไปถามมูริญโญ่ประมาณว่า แมนฯยูไนเต็ดคว้าแชมป์ด้วยคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งเท่าไหร่ ใช่ 11 แต้ม ไหม? แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นแมนฯยูไนเต็ดยังไม่ทีมที่คู่ควรอีกหรือ พร้อมยังชี้ว่า ตารางคะแนนมันเป็นสิ่งที่สะท้อนศักยภาพที่แท้จริงของทีมทีมนั้นทีมที่ได้แชมป์ซึ่งก็คือ แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งถ้าในความคิดเห็นโดยส่วนตัวผม ผมนั้นมองว่าแมนฯยูไนเต็ดก็สมควรนั้นแหละครับที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่แล้วได้ ก็อย่างที่เดวิด มอยส์บอกว่าพวกเขามีแต้มทิ้งห่างคู่แข่งมากถึง 11 แต้ม แต่ทว่าจะมีข้อกังขาอยู่หน่อยก็ตรงผลการแข่งขันหลายๆแมทของแมนฯยูไนเต็ดนั้น มันออกมาเป็นผลดีสำหรับแมนฯยูไนเต็ดอย่างที่ไม่น่าจะเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราได้เห็นหลายๆเกมแมนฯยูไนเต็ดได้รับการตัดสินจากกรรมการในสนามแบบที่เอนเอียนไปฝั่งตนเอง
เช่น ได้ลูกจุดโทษบ่อยๆแบบค้านสายตาแฟนบอล (แฟนบอลทีมอื่นๆที่ไม่ใช่แมนฯยูไนเต็ด) เป็นต้น คือสิ่งเหล่าๆเนี่ยหากเอามาจับรวมกันจากหลายๆแมทการแข่งขันของแมนฯยูมันก็พอจะบอกอีกมุมได้ว่าพวกเขาก็อาจจะไม่ได้แชมป์ถ้าการตัดสินมันไม่ได้เป็นแบบนั้น อย่างไรก็ตามเราไม่อาจเอาความเห็นส่วนตัวของเราไปตัดสินได้ว่าที่จริงการตัดสินหลายครั้งที่เป็นประโยชน์ต่อแมนฯยูไนเต็ดมันผิด หรือถูก ฉะนั้นในฐานะแฟนบอลธรรมดาๆคนนึงก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากเข้าใจและยอมรับว่าแมนฯยูไนเต็ด เป็นทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2012-2013
