ไม่แน่ใจว่าเป็นแฟนบอลแบบผมคนเดียวหรือเปล่าที่งงกับแนวทางการทำทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ของแบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหนุ่มไฟแรง แต่ก็ต้องขอยอมรับจากใจว่าการทำทีมของร็อดเจอร์สนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างขัดแย้งไปมาตามช่วงเวลาจนทำให้เกิดอาการสงสัยว่าตกลงแล้ว แบรนแดน ร็อดเจอร์สกำลังทำอะไรอยู่กับทีมลิเวอร์พูล? เริ่มต้นตอนที่ร็อดเจอร์สเข้ามาคุมทีมลิเวอร์พูลใหม่ๆ เขาเข้ามาพร้อมกับปรัชญาการทำทีมแบบติกิ ตะกะ หรือการเล่นในแบบฉบับบอลเท้าสู่เท้า เหมือนสไตล์ของบาร์เซโลน่า
ซึ่งก็แฟนบอลอย่างเราๆก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน จากลิเวอร์พูลยุคก่อนๆที่เรียกว่าเล่นบอลกันแบบสเปะสปะไร้ทรงบอล กลายมาเป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้สวยงาม ครองเกมได้เยอะ บุกโจมตีคู่แข่งได้เยอะ และนั่นผมถือเป็นข้อดีของปรัชญาที่ร็อดเจอร์สนำเข้ามาสู่ทีมลิเวอร์พูล แต่ข้อเสียที่มันชัดเจนเช่นกันก็คือ ผลการแข่งขัน ความสำเร็จในการยิงประตู ไม่ใช่สิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องการเลย แม้รูปเกมจะดูดีขึ้นครองบอลบุกได้เยอะ แต่กลับยิงประตู เก็บแต้มไม่ได้ บทสรุปของฤดูกาลนั้นจึงเป็นการจบอันดับเพียงอันดันกลางๆตารางเท่านั้น ฟุตบอลถ้วยยุโรปลิเวอร์พูลไม่มีสิทธิ์เข้าเล่นสักรายการ มาในช่วงปรีซีซั่นซึ่งเป็นการเตรียมทีมสำหรับฤดูกาลใหม่ ร็อดเจอร์สยังคงมุ่งมั่นกับปรัญชาการทำทีมแบบเดิม เน้นครองบอล จ่ายบอลเท้าต่อเท้า แต่ก็เหมือนจะเห็นพัฒนาการในเรื่องของการยิงประตูลูกทีมของร็อดเจอร์สยิงประตูได้ดีขึ้น สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ซะเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเกมปรีซีซั่น
และมันน่าจะเป็นเหมือนสัญญาณที่ดีของการเริ่มต้นซีซั่นใหม่ แต่แล้วยังไม่ทันไรก็เริ่มพบกับสิ่งขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากตัวร็ดเจอร์ส ในช่วงปรีซีซั่นและหลังจบปรีซั่นช่วงรอยต่อมาจนถึงต้นๆฤดูกาลนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่ตลาดซื้อขายนักเตะเปิดขึ้น ซึ่งช่วงหลังจากที่ลิเวอร์พูลเสริมทัพด้วยนักเตะใหม่ไปไม่กี่ราย ร็อดเจอร์สออกมาพูดเกี่ยวกับการทำทีมทีมของตนเองว่า พวกเราสามารสร้างทีมที่ดี ทีมที่แกร่งได้แม้ไม่ใช้เงินซื้อนักเตะดีๆเข้ามาอยู่ในทีม ขอเพียงแค่อาศัยทีมเวิร์กของทีมเท่านั้นพอ แต่แล้วสิ่งที่เราเห็นคือหลังตลาดซื้อขายนักเตะปิดลงแล้ว ลิเวอร์พูลมีนักเตะใหม่ฝีเท้าดีตบเท้าเข้ามาในแอนฟิลด์มากมายเต็มไปหมด