มีเรื่องให้ได้เป็นข่าวเรื่อยๆจริงๆครับ สำหรับเกรียนโอ้ “มาริโอ บาโลเตลลี่” โดยหลังจากที่เจ้าตัวร่ำไห้ออกมาตอนที่นั่งในซุ้มม้านั่งสำรองระหว่างเกมการแข่งขันที่มิลานพ่ายให้กับนาโปลี เนื่องจากเสียใจที่ไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ จนภาพวีดีโอดังกล่าวถูกสื่อกีฬาทั่วโลกจับมานำเสนอ ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ตกเป็นข่าวต่ออีก แต่คราวนี้เกี่ยวกับเรื่องของการเหยียดผิว ทั้งนี้มีนักข่าวไปถามเจ้าตัวทำนองว่าจะทำอย่างไรถ้าโดนกองเชียร์ของทีมตรงข้ามตะโกนเหยียดผิว
ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบกลับมาว่าตนจะเดินออกจากสนามทันที ว่าง่ายๆก็คือจะไม่หยุดเล่นเกมนั้นมันดื้อๆนี้แหละ พร้อมกับกล่าวต่อไปว่าตนเองยอมรับเสียงวิจารณ์ทั้งหลาย ทั้งปวงได้หมด แต่สิ่งที่รับไม่ได้ และคิดว่าเป็นอะไรที่รบกวนจิตใจตนเองมากที่สุดก็คือการเหยียดผิว ถ้าหากแฟนบอลไม่ได้เหยียดผิวตนเอง ตนก็จะไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะตนเองพร้อมที่จะตั้งใจทำผลงานให้ดีที่สุดในสนาม และก็ดีใจมากๆด้วย เมื่อทำได้ดีแล้วทุกคนภูมิใจ พอใจในผลงานของตน นอกจากนี้บาโลเตลลี่ก็ยังกล่าวทิ้งท้ายว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้เขาหลงรักอาชีพค้าแข้ง อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีการเหยียดผิวถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนกับชีวิตค้าแข้งของนักฟุตบอลผิวสีทุกคนอยู่แล้ว (ไม่ใช่เฉพาะแค่ในรายของบาโลเตลลี่เท่านั้น)
อย่างที่ผ่านๆมาก็เห็นได้ว่าการเหยียดผิวนำมาซึ่งปัญหาต่างๆ เช่นในเคสของหลุยส์ ซัวเรซกับปาทริซ เอวร่า กองหน้าทีมลิเวอร์พูล และกองหลังทีมแมนฯยูไนเต็ด ก็นำมาสู่การลงโทษแบนนานหลายนัดเลยทีเดียว หรือในรายของแอนทอน เฟอร์ดินานด์ กับจอห์น เทอร์รี่ก็ลามไปถึงความขัดแย้งระหว่างพี่ชายของแอนทอน เฟอร์ดินานด์ (ริโอ เฟอร์ดินานด์) ด้วย สรุปกันสั้นๆก็คือเรื่องการเหยียดผิวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ว่านักฟุตบอลคนไหนก็รับไม่ได้ เพียงแต่จะมีวิธีจัดการแบบเดียวกับที่บาโลเตลลี่พูดว่าจะทำ คือการวอร์คเอ้าท์ออกจากสนามหรือเปล่าเท่านั้นเองครับ
