งานเข้าไปตามระเบียบครับ ในส่วนของกุนซือทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ที่ไปวิจารณ์ผู้ตัดสินในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดแมนฯซิตี้พบบาร์เซโลน่าที่เอติฮัตสเตเดี้ยม ทั้งนี้เปเยกรินี่กล่าวโทษกล่าวทำหน้าที่ของผู้ตัดสินว่าเป็นเหตุทำให้ทีมเรือใบของเขาต้องพ่ายแพ้ให้กับขุนพลต่างดาวคาถิ่นเอติฮัตสเตเดี้ยม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเป่าจุดโทษแบบค้านสายตาคนทั้งโลก พร้อมแจกใบแดงให้กับผู้เล่นตำแหน่งกองหลังของทีมตนเอง จนกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกม ที่ทำให้ทีมเรือใบของเขาตกเป็นรองลงไปในชั่วพริบตา จากเหตุนี้เอง “ยูฟ่า” หรือสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปจึงมองว่าการกระทำของนายใหญ่ทีมเรือใบสีฟ้าสเตเดี้ยมเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบวินัยของยูฟ่า สมควรที่จะต้องถูกลงโทษ อย่างไรก็ตามบทลงโทษ หรือวิธีลงโทษที่มานูเอล เปเยกิรนี่จะต้องได้รับจากทางยูฟ่านั้นจะเป็นลักษณะไหนนั้น ยังไม่ได้มีการกล่าวถึงกัน แต่พอคาดเดาได้ว่าน่าจะไม่พ้นสองลักษณะหลักๆ คือการปรับเงิน กับการแบนห้ามลงคุมทีมข้างสนาม สำหรับการคาดโทษกุนซือที่ออกมากล่าววิจารณ์ หรือกล่าวโจมตีการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในสนามพักหลังๆนี้ค่อนข้างมีให้เราได้เห็นกันบ่อยมาก โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตัวอย่างเช่น มูริญโญ่ กุนซือเชลซี ร็อดเจอร์ส กุนซือลิเวอร์พูล ซึ่งต่างก็โดนเอฟเอ (สมาคมฟุตบอลอังกฤษ) สั่งปรับเงิน แต่ว่าในหลายๆครั้งที่เกิดขึ้นก็ต้องยอมรับว่าผู้ตัดสินเองก็ทำหน้าที่ผิดพลาดจริง
บางทีกฎระเบียบของทางสมาคมฟุตบอล สหัพันธ์ฟุตบอลต่างๆ เกี่ยวกับการวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินจึงนับเป็นอะไรที่น่าเห็นใจกุนซือทีมต่างๆเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละครับหากมองกันมุมการปล่อยให้กุนซือทีมต่างๆได้วิจารณ์ ได้ตำหนิการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเกรงการลงโทษก็อาจนำมาซึ่งความกดดันในการลงทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในการแข่งขันฟุตบอลแต่ละแมท และอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดมากกว่าเดิมก็เป็นได้ครับ
