นักการเมืองคนนึงตายไป (คงไม่สงสัยว่าต้องไปไหน)
ยมทูตให้เลือกใช้กรรมในนรกขุมใดขุมหนึ่งจาก 3 ขุม ตามความสมัครใจ
เขาขอให้ยมทูตพาทัวร์ก่อนแล้วถึงจะตัดสินใจ ซึ่งยมทูตก็ยอมเพราะเห็นว่าเป็นนิสัยถาวรที่ติดมาจากเมืองมนุษย์ แก้ยาก (ก่อนตัดสินใจ ต้องพาไปทัวร์ก่อน)
ภาพที่เห็นเมื่อไปถึงนรกขุมแรกคือภาพของผู้คนจำนวนมากมายถูกผูกขาไว้กับราวไม้ ห้อยหัวลง แล้วถูกลากไปบนพื้นไม้หนามงิ้ว พวกคนใช้กรรมร้องกันระงม ด้วยความเจ็บปนแสบ
นักการเมืองมองอย่างอกสั่นขวัญแขวน แล้วขอให้ยมทูตพาทัวร์ต่อ
นรกขุมที่สองก็คล้ายกับขุมแรก แต่พื้นเป็นดินลูกรัง พวกที่ถูกห้อยอยู่บนราวหัวแดงเถือก ไม่รู้ว่าเพราะลูกรัง หรือว่าเพราะเลือด หรือม่ายก็ถูกทุกข้อ
เช่นเคย นักการเมืองรีบร้องขอให้ยมทูตพาไปดูขุมถัดไป
เมื่อไปถึงนรกขุมสุดท้าย นักการเมืองก็ต้องแปลกใจ เพราะนรกขุมนี้มีคนน้อยกว่าสองขุมแรก ไม่แออัดยัดเยียดมากนัก ผู้คนยืนคุยกันอย่างสนุกสนาน กลางห้องมีโต๊ะบุฟเฟต์ ซึ่งถึงแม้อาหารจะไม่หรู แต่ก็ดูน่ากิน ไม่มีวี่แววความทุกข์โศกใดๆของคนที่นี่ ทุกอย่างดูดีมาก ยกเว้นก็แต่ ที่พื้นเป็นอึล้วนๆกองสูงเกือบครึ่งแข้ง
“เหม็นอึหน่อย แต่ก็ดูดีกว่าสองอันแรกล่ะวะ” นักการเมืองบวกลบคูณหารในใจ
“ผมเลือกอยู่ที่นี่แหละ” เขาบอกยมทูต
“เลือกแล้วเลือกเลย ห้ามเปลี่ยนนา...” ยมทูตถามเพื่อความมั่นใจ
“ผมเป็นนักการเมือง พูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว” เขายืดอกอย่างทรนงก่อนที่จะได้ยินเสียงประกาศดังลั่นว่า
“เฮ้ย! หมดเวลาพักแล้ว เอาหัวลงได้”