Author Topic: มองโลกในแง่ดี  (Read 6647 times)

Liverpool

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • Posts: 673
    • View Profile
มองโลกในแง่ดี
« on: June 26, 2010, 10:59:11 PM »
ผมมีเพื่อนผมคนหนึ่งชื่อสมชาย เขาได้รับการกล่าวขวัญเสมอว่า เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ชอบมองโลกในแง่ดี และมีอารมณ์ดีตลอดเวลา ทุกครั้ง ถ้ามีใครถามเขาว่า ชีวิตเป็นอย่างไร ?
   เขาจะตอบว่า "ถ้ามีแฝดอีกคน คงดีกว่านี้" ลูกน้องทุกคนรักในความเป็นผู้นำของเขา ถ้าลูกน้องคนไหนกำลังมีปัญหา เขาจะอยู่ใกล้ๆ และคอยปลอบให้รู้ว่า จะมองเห็นสิ่งที่ดีจากเรื่องร้าย ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นได้อย่างไร
   วันหนึ่งผมอดสงสัยเรื่องนี้ไม่ได้ จึงถามเขาว่า
   "เอ็งมีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่า ถึงได้มีอารมณ์ดีอย่างนี้ได้ตลอดเวลา?"
   เขาตอบว่า "ทุกวันตอนเช้า เมื่อข้าถามตัวเองว่า วันนี้จะเลือกเป็นคนอารมณ์ดี หรืออารมณ์ร้าย ข้าก็จะเลือกข้อหนึ่งทุกที ทุกครั้งที่เกิดปัญหาขึ้น ข้ามีสิทธิที่จะเลือก ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ หรือเลือกเรียนรู้จากเหตุการณ์ ทุกครั้งที่มีใครบ่นให้ผมฟัง “ข้ามีสิทธิ์เลือก ที่จะรับคำบ่น หรือชี้ให้เห็นอีกด้านหนึ่งของชีวิตที่ดีกว่า สุดท้าย ข้ามักจะเลือกด้านดีของชีวิตเสมอ"
   ผมแย้งกลับไปว่า "แต่อะไรๆ ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นนะซิ"
   เขาตอบว่า "ถูกต้อง ชีวิตคือการเลือก เมื่อเอ็งตัดสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป สุดท้ายจะเลือกแค่การเลือก เอ็งมีสิทธิที่จะเลือก ตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ว่า จะทำให้คนอื่นตอบสนองอารมณ์เอ็งได้อย่างไร เอ็งมีสิทธิเลือก ที่จะสบายใจ หรือหัวเสียตลอดเวลาได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า เอ็งจะเลือกใช้ชีวิตอย่างไร ?"
   หลังจากนั้นไม่นาน ผมได้รับข่าวร้ายว่า เพื่อนผมคนนี้ ถูกโจรที่เข้ามาปล้นร้านอาหารยิง และได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคยังดีที่มีคนมาพบ และนำส่งโรงพยาบาลทัน หลังจากการผ่าตัดนานกว่า 18 ชั่วโมงผ่านไป และนอนพักรักษาตัวเป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ สมชายได้รับการปล่อยให้กลับบ้านได้ ในระหว่างที่ผมไปเยี่ยมสมชาย ผมถามเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ?
   เขาตอบว่า "ถ้ามีแฝดอีกคน คงดีกว่านี้แน่"
   เขาถามผมว่า อยากดูบาดแผลหรือเปล่า
   ผมตอบว่า “ไม่ แต่อยากรู้ว่า เขาผ่านเรื่องร้ายๆ อย่างนี้มาได้อย่างไร ?”
   สิ่งแรกที่ข้านึกได้คือ “น่าจะล๊อคประตูหลังร้านไว้" สมชายตอบ
   แต่หลังจากถูกยิง ขณะที่นอนอยู่บนพื้น ข้าบอกตัวเองว่า "ข้าเหลือทางเลือกเพียงสองทาง คือมีชีวิตอยู่ต่อหรือไม่ก็ตาย” แน่นอนที่สุด ข้าเลือกที่จะมีชีวิตอยู่
   "แล้วไม่รู้สึกกลัวบ้างเลยหรือ?" ผมถามต่อ
   สมชายเล่าต่อไปว่า "พวกที่มาช่วยเก่งมาก พวกเขาบอกผมตลอดเวลาว่า “ไม่ต้องห่วง ทุกอย่างต้องเรียบร้อย” แต่ระหว่างที่ข้าถูกเข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด ข้ามองเห็นสีหน้าของหมอ และพยาบาลแล้ว ผู้รู้สึกได้จากสายตาของพวกเขาว่า
   "ข้ากำลังจะตาย" เลยบอกตัวเองทันทีว่า "ต้องทำอะไรสักอย่าง"
   "แล้วเอ็งทำอะไร ?" ผมถาม
   ข้าก็คิดว่า “โชคยังดี ที่ข้ายังมีลมหายใจ” และพอจะมีแรงถามหมอว่า “กระสุนโดนจุดสำคัญหรือเปล่าครับหมอ”
   หมอตอบว่า “โชคยังดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ แต่คงต้องตัดแขนออกไปข้างหนึ่ง เพราะเลือดไม่ได้ไปเลี้ยงที่แขนซ้ายนานกว่าชั่วโมง”
   “แล้วเอ็งจะทำยังไง” ผมถาม
   สมชายก็ตอบว่า “โชคยังดีที่ข้ายังเหลือแขนขวาอีกข้าง” ทำให้ข้ามีกำลังใจต่อไป
   พอดีมีนางพยาบาลคนหนึ่งตะโกนถามว่า “แพ้อะไรหรือเปล่า ?"
   สมชายก็ร้องออกมาทันทีว่า "หมอ หมอ ผมแพ้อยู่อย่างหนึ่งครับ"
   ทั้งหมอ และพยาบาลหยุดชั่วขณะ จนห้องทั้งห้องเงียบกริบเพื่อรอฟังคำตอบ
   ข้าหายใจเข้าลึกๆ และตอบไปว่า "ผมแพ้หัวลูกปืนครับ"
   ทันใดนั้น ทุกคนก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นไปหมด
   ต่อจากนั้น ข้าก็บอกหมอว่า “ผมอยากมีชีวิตอยู่ ช่วยกรุณาผ่าตัดอย่างคนมีชีวิต ไม่ใช่อย่างคนที่ตายไปแล้ว"
   ในที่สุดการผ่าตัดก็สำเร็จ หมอสามารถช่วยชีวิตของสมชายเพื่อนผมไว้ได้อย่างปาฏิหารย์ และสมชายก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข เพราะเขาเลือกที่จะคิดในสิ่งที่ดี
   ข้อคิดจากเรื่องนี้ก็คือ
   “คุณมีสิทธิที่จะชื่นชมกับชีวิต ในขณะที่คุณกำลังมีชีวิตขมขื่นได้ ด้วยความคิดในแง่บวกของคุณเอง ถ้าคุณจัดการเรื่องนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ก็ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากเสมอไป”



 [laugh]