อาจจะไม่ใช่ความสำเร็จใหญ่โตอะไรของทีมชาติอังกฤษ กับการที่พวกเขาได้ทะลุเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศบราซิลในปีหน้าในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ทว่าก็ถือเป็นความสำเร็จแรกภายใต้ยุคของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือผู้ที่ไม่ค่อยจะได้รับความไว้วางใจในฝีมือจากใครหลายคนสักเท่าไหร่ และแน่นอนว่าความสำเร็จดังกล่าวนี้อาจเปลี่ยนใจใครหลายคนที่ว่านั้นได้เหมือนกัน อย่างผมเองจากที่ไม่ค่อยจะเชื่อมั่นในการทำทีมของฮ็อดจ์สันสักเท่าไหร่ ตอนนี้ก็พอเริ่มๆรู้สึกว่าอังกฤษก็มีโอกาสประสบความสำเร็จตามแนวทางของฮ็อดจ์สันได้เหมือนกัน
แล้วก็แน่นอนอีกเช่นกันว่าสำหรับคนที่เชื่อมั่นในตัวฮ็อดจ์สันอยู่แล้วเมื่อฮ็อดจ์สันเริ่มต้นความสำเร็จแบบนี้ พวกเขาก็อาจจะมองไปที่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่จริงๆแล้วล่ะ แม้ใครหลายคนจะบอกว่าการเป็นแชมป์บอลโลก หรือการทะลุเข้ารอบรอง รอบชิงฟุตบอลโลกปี 2014 มันจะเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับทีมชาติอังกฤษชุดนี้ก็เถอะ ทั้งนี้อังกฤษทะลุเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2014 ได้จากผลงานการเอาชนะโปแลนด์ในนัดสุดท้าย 2-0 โดยเวนย์ รูนี่ย์ และสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด (กัปตันทีม) สองคีย์แมนสำคัญของอังกฤษเป็นผู้ทำคนละประตู รูนี่ย์ทำประตูแรก และเจอร์ราร์ดยิงปิดท้าย ส่วนสรุปผลทีมที่เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกแน่นอนแล้วในฐานะแชมป์กลุ่มก็ประกอบไปด้วย เบลเยี่ยม อิตาลี เยอรมัน ฮอลแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย อังกฤษ และสเปนครับ ก็เกือบๆครบถ้วนสำหรับทีมยักษ์ใหญ่ประจำยุโรป จะขาดก็แต่ฝรั่งเศสที่จะต้องไปเล่นเพลย์ออฟเพื่อลุ้นเข้ารอบอีกเฮือกนึงครับ
ก็ต้องคอยมาลุ้นเอาใจช่วยละกันครับ ไม่งั้นฟุตบอลโลก 2014 คงจะขาดสีสันไปไม่น้อยเลยหากว่าทีมชาติฝรั่งเศสไม่ได้เข้าไปเล่นด้วย อย่างไรก็ตามทีมอย่างโปรตุเกส โครเอเชีย ก็เป็นกลุ่มทีมที่น่าลุ้นให้เข้ารอบต่อไปเช่นกัน ด้วยโปรตุเกสนั้นก็มีนักเตะระดับสตาร์อยู่ในทีมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขามีคริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะเบอร์ต้นๆของโลก หากว่าเจ้าตัวอดชวดไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกหนนี้ ซึ่งเป็นหนที่กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มเขาพีคๆอยู่ก็นับว่าน่าเสียดายมาก โครเอเชียเองก็เป็นทีมที่เราคุ้นหู คุ้นชื่อกันมานานในฟุตบอลระดับทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ๆ ขาดไปก็เหมือนขาดสีสันเช่นกัน
