ถ้าเราพิจาณาผลการแข่งขันเอาจากชื่อชั้นของทีม แน่นอนว่าผลการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ของอังกฤษ “เอฟเอคัพ” รอบสาม ระหว่างแมนฯซิตี้ กับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะล็อกถล่มเลย ด้วยทีมแบล็คเบิร์นสามารถยันเสมอกับแมนฯซิตี้ได้ แต่ทว่าหากเรามองที่รูปเกมแล้วต้องบอกว่าเป็นโชคดีของเรือใบสีฟ้าแล้วครับที่ไม่แพ้ให้ทีมกุหลาบไฟ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรูปเกมในครึ่งหลัง หลังจากที่ทีมกุหลาบไฟตีเสมอได้ ทีมกุหลาบไฟเปิดเกมบุกแลกชนิดไม่เกรงกลัวศักดิ์ทีมจากลีกสูงสุดเลย
แถมผู้เล่นแบ็กขวาของซิตี้ “โมยาต้า” ยังมาทำเปิ่นโดนใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปในช่วงท้ายๆเกมอีก ซึ่งทำเอาแฟนบอลซิตี้เสียวไส้กับช่วงเวลาที่เหลือไปตามๆกันเลยทีเดียว ทั้งนี้แบล็คเบิร์น มีโอกาสอยู่หลายหนที่จะยิงประตูชัย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ ขณะเดียวกันซิตี้ที่แม้ช่วงท้ายเกมจะเหลือผู้เล่นน้อยกว่า แต่ก็มีลุ้นประตูชัยเหมือนจากจังหวะเล่นเกมบุกของพวกเขาเหมือนกัน อย่างไรก็ตามครับสำหรับเกมนี้เมื่อผลจบลงที่การเสมอกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำพลิกล็อคของทีมเจ้าบ้าน (แบล็คเบิร์น) หรือว่าเป็นโชคดีของทีมเยือน ซิตี้ก็ตาม ก็จะต้องมีการไปเตะรีเพลย์กันที่เอติฮัตสเตเดี้ยม ถามว่าน่าติดตามไหมแน่นอนว่าน่าติดตามด้วยประการทั้งปวง
แต่ส่วนเรื่องของความได้เปรียบ เสียเปรียบนั้น แม้ว่าแบล็คเบิร์นจะทำได้ดีในแมทแรก และน่าจะเป็นผู้ชนะด้วยซ้ำไป อย่างที่กล่าว กระนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธว่าซิตี้ได้เปรียบอยู่พอสมควร เพราะคุณภาพดีกว่ามาก อีกทั้งคราวนี้เป็นการได้กลับมาเล่นในบ้านของพวกเขาเอง ซึ่งหากว่าแบล็คเบิร์นมาแบบเน้นเล่นเกมรับ แล้วเกมรับไม่เหนียวพอ ก็มีสิทธิ์โดนไล่ถลุงกลับบ้านยับเยิน ครั้นจะเปิดเกมรุกสู้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ ด้วยประสิทธิภาพสู้ไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งการเล่นนอกบ้านบรรยากาศ เสียงเชียร์จะไม่เหมือนกับเกมแรก หากแต่จะตรงกันข้ามหมด ฉะนั้นเกมนี้ว่าตรงๆหากซิตี้เป็นผู้แพ้ก็คงจะเป็นอะไรที่โชคดีสำหรับทีมแบล็คเบิร์น เหมือนอย่างที่ซิตี้โชคดีที่เสมอกลับมาได้ในเกมแรกบ้างแล้วล่ะครับ