ก็ได้บทสรุปกันไปเรียบร้อยสำหรับศึกแดงเดือดฤดูกาลนี้ว่าเป็นทางด้านของหงส์แดง ลิเวอร์พูลที่สามารถกำชัยชนะเหนือปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดได้ทั้งไป และกลับ แต่ก็แน่นอนแหละครับว่าไฮไลท์สำคัญของแดงเดือดฤดูกาลนี้ก็คงจะต้องอยู่ที่เกมที่โอลแทรฟฟอรด์ หรือเกมที่สองที่เพิ่งจะจบลงไปนั่นเองครับ เพราะการเจอกันในช่วงเวลาฤดูกาลแบบนี้เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าผลการแข่งขันนั้นส่งผลต่อเป้าหมายของแต่ละทีมมากกว่าการเจอกันที่แอนฟิลด์ช่วงต้นฤดูกาลอยู่แล้ว
คือเกมนั้นถึงผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร ลิเวอร์พูลจะชนะ แมนฯยูไนเต็ดชนะ หรือจะเสมอกันก็ไม่ได้กำหนดชะตาของทั้งสองทีมตลอดฤดูกาลที่เหลืออยู่ซะทีเดียว ทว่ากับเกมที่โอลแทรฟฟอร์ดนี้ ปฏิเสธไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงว่าผลการแข่งขันที่ออกมาทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ของลิเวอร์พูลน่าดูน่าชมมากขึ้นเยอะเลย ขณะเดียวกันแทบจะทำให้ความหวังเล็กๆในการล้นติดท็อปโฟร์ของแมนฯยูไนเต็ดพังทลายหายไปต่อหน้าต่อตาเลย อีกทั้งสกอร์การแข่งขันที่ออกมาก็สิ่งที่แทบจะไม่เชื่อสายตาว่านี้เป็นการเล่นกันใน “โอลแทรฟฟอร์ด” โรงละครแห่งความฝันของเหล่ายูไนเต็ด เนื่องจากเป็นลิเวอร์พูลที่ไล่ถล่มไปซะยับเยิน 3-0 และอาจจะเป็น 4-0 ด้วยซ้ำไป ถ้าสตีเว่น เจอร์ราร์ดไม่ซัดจุดโทษพลาดไปหนึ่งลูก แต่ก็นั่นแหละครับเพียงแค่ 3 สกอร์ก็พอที่จะทำให้เราได้เห็นความห่างชั้นของเกมนี้กันแบบเต็มๆแล้ว
สำหรับ 3 ประตูที่เกิดขึ้นของหงส์แดงมาจากสตีเว่น เจอร์ราร์ด 2 ประตู ซึ่งเป็นการยิงจุดโทษทั้งสองประตู จุดโทษแรกมาจากการทำแฮนด์บอลของราฟาเอล ดาซิลวา ผู้เล่นตำแหน่งแบ็กขวา จุดโทษที่สองมาจากฟิล โจนส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ไปทำฟาล์วใส่โจ อัลเลน มิดฟิลด์ทีมหงส์แดง อีกหนึ่งประตูได้จากหลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกดาวซัลโว (อีกหนึ่งจุดโทษที่สตีเว่น เจอร์ราร์ดยิงไม่เข้ามาจากจังหวะการทำฟาล์วของเนมานย่า วิดิชใส่แดเนียล สเตอร์ริดจ์ พร้อมกับโดนเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม)