ในที่สุดศึก UCL หรือยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รายการแข่งขันฟุตบอลระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปก็เดินทางมาจนได้บทสรุปสำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอที่จะทำการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป โดยที่โฉมหน้าทีมที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ได้ต่างจากที่แฟนบอลคาดกันไว้สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับทีมขาใหญ่ประจำยุโรปเวลานี้อย่าง รีล มาดริด บาร์เซโลน่า บาเยิร์น มิวนิค และเปแอสเชล้วนผ่านเข้ารอบต่อไปทั้งหมด แต่ที่ดูจะน่าเสียดายหน่อยหากมองกันในแง่ของขุมกำลังทีมก็คือทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ที่ต้องร่วงตกรอบไป
เนื่องจากในรอบ 16 ทีมสุดท้ายต้องมาดวลกับทีมยักษ์ใหญ่ด้วยกันเอง (บาร์เซโลน่า) ส่วนที่ดูจะเซอร์ไพร์สหน่อยเป็นทีมจากอังกฤษ “ปีศาจแดง” แมนฯยูไนเต็ดของเดวิด มอยส์ที่พลิกสถานการณ์ในเกมที่สองเข้ารอบมาได้แบบชนิดที่หลายคนไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน ด้วยว่าในเกมแรกพวกเขาเป็นฝ่ายบุกไปพ่ายทีมดังแห่งกรีซ โอลิมเปียกอส 2-0 ทว่าในนัดที่สองที่โอลแทรฟฟอร์ดสามารถกู้ฟอร์มเก่งมาได้แบบเฉียบพลันไล่ถล่มโอลิมเปียกอสไป 3-0 ส่งผลให้ประตูรวมเหนือกว่า 1 ประตูพอดี ทั้งๆที่ก่อนเกมนี้ก็เพิ่งจะแพ้หงส์แดงคาโอลแทรฟฟอร์ดมาเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนในเกมลีก (แพ้ 0-3 เหมือนกัน) สรุป 8 ทีมที่จะไปเล่นกันต่อในรอบก่องรองชนะเลิศมีดังนี้ครับ เชลซี จากอังกฤษ แมนฯยูไนเต็ด จากอังกฤษ
บาร์เซโลน่า แอตฯมาริด รีล มาดริด จากสเปน เปแอสเช จากฝรั่งเศส ดอร์ทมุนด์ และบาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมัน สำหรับการแข่งขันของทีมเสือเหลืองดอร์ทมุนด์ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ซึ่งแข่งขันกันในวันเดียวกันกับคู่ของแมนฯยูไนเต็ด-โอลิมเปียกอสนั้นเป็นทางด้าน เซนิตเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่บุกมาเอาชนะดอร์ทมุนด์ได้ถึงซิกนัล อิดูน่าพาร์ค 2-1แต่นัดแรกดอร์ทมุนด์บุกไปตุนสกอร์ไว้ก่อนแล้ว (ชนะมา 4-2) ส่งผลให้ทีมดังแห่งบุนเดสลีกาผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยประตูรวม 5-4