ทำเอาสาวกเรือใบถึงกับซึมต้อนรับฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้นไปเลยทีเดียว ในส่วนของเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ซึ่งเป็นเสมือนระฆังลั่นบอกฤกษ์งามยามดีของฤดูกาลใหม่ที่นำเอาทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และแชมป์เอฟเอคัพ สองรายการแข่งขันฟุตบอลที่สำคัญที่สุดของสหราชอาณาจักร์มาเผชิญหน้ากัน เพราะเป็นทางด้านของทีมปืนโต อาร์เซน่อล ทีมแชมป์เอฟเอ คัพซีซั่นที่ผ่านมาที่เป็นฝ่ายกดชัยชนะเหนือทัพเรือใบไปแบบถ่วมท้นด้วยสกอร์ 3-0 ทั้งนี้สามประตูที่เกิดขึ้นของไอ้ปืนใหญ่ได้ในครึ่งเวลาแรก 2 ประตู และครึ่งเวลาหลังอีก 1 ประตู
ครึ่งเวลาแรกได้จากซานติ การ์ซอล่า นาทีที่ 21 และ อารอน แรมซี่ย์ นาทีที่ 42 ครึ่งเวลาหลังได้จากโอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้ นาทีที่ 62 อย่างไรก็ตามระหว่างเกมการแข่งขันหลังจากที่เสียประตูแรกไปทางแมนฯซิตี้ก็พยายามที่จะบุกเพื่อทวงประตูคืนทั้งในครึ่งเวลาแรก และครึ่งเวลาหลัง แต่จังหวะสุดทายของพวกเขายังทำได้ไม่ดีพอจนทำให้พ่ายไปด้วยสกอร์ดังกล่าว และเป็นทางด้านของอาร์เซน่อลที่ซิวโล่รางวัลรายการนี้ไปครองแทน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็แน่นอนว่าความสำเร็จในรายการก่อนเปิดซีซั่นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นอะไรที่การันตีความสำเร็จจริงๆในซีซั่นใหม่ของทีมไหนอยู่แล้ว ดังที่ได้ตัวอย่างกันจากซีซั่นที่แล้ว ซึ่งเป็นทางด้านของแมนฯยูไนเต็ดที่ซิวโล่รางวัลไปครองได้ แต่ทว่าผลงานในซีซั่นใหม่กลับทำได้ดีที่สุดเพียงแค่จบอันดับที่ 7 ของตารางคะแนนเท่านั้น
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมปืนใหญ่นอกเหนือจากการถล่มเรือใบสีฟ้าพร้อมกับซิวโล่คอมมิวนิตี้ ชิลด์ไปครองแล้วก็มีทางด้านของโธมัส แฟร์มาเล่น ปราการหลังตัวเก่งของพวกเขาที่ได้ย้ายทีมไปอยู่กับบาร์เซโลน่า และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว โดยสนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 15 ล้านปอนด์ ส่วนเบอร์เสื้อที่นักเตะจะได้ใส่เล่นให้ทีมบาร์ซ่าก็คือเบอร์ 23