เซ็งกันไปตามระเบียบครับงานนี้สำหรับบรรดาสาวกเร้ดแมชชีนทั้งหลาย เมื่อล่าสุดในเกม UCL เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นเกมชี้ชะตาการเข้ารอบของหงส์แดง(หากพวกเขาคว้าชัยได้) ผลการแข่งขันกลับไม่ออกมาอย่างที่หวัง โดยพวกเขาทำได้แค่เปิดรังเหย้าแอนฟิลด์เสมอกับบาเซิ่ลไป 1-1 ทั้งยังเป็นฝ่ายเสียประตูขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกมอีกด้วย ก่อนที่จะมาตีเสมอได้แบบมีความหวังเล็กๆช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลาประมาณ 9 นาทีจากสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม
สำหรับเกมนี้ของหงส์แดง และกุนซือเบรนแดน ร็อดเจอร์สถูกวิพากษ์ วิจารณ์ในด้านลบอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดตัวผู้เล่น 11 คนแรก ซึ่งใส่มิดฟิลด์ประเภทที่ไม่ถนัดในการเล่นเกมรุกลงไปพร้อมกันถึงสี่รายด้วยกัน ประกอบไปด้วยลูคัส เจอร์ราร์ด อัลเลน และเฮนเดอร์สัน ขณะที่รักเตะอย่างลาซาร์ มาร์โควิช กับฟิลิป คูติญโญ่กลับต้องนั่งสำรองเคียงข้างกัน โดยสิ่งนี้เดอะค็อปจำนวนมากมีความเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เลย เพราะทีมจำเป็นต้องเล่นเพื่อชัยชนะ ดังนั้นการใส่นักเตะตัวรุกลงไปหลายๆคนเป็นสิ่งที่จำเป็น ทว่าร็อดเจอร์สกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามเสมือนว่าต้องการเล่นเพื่อเสมอเท่านั้น
อย่างไรก็ตามนักเตะอย่างมาร์โควิชก็ได้โอกาสจากเบรนแดน ร็อดเจอร์สในการเปลี่ยนตัวลงสนามไป แต่กลับโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ซึ่งตัวกุนซือเบรนแดน ร็อดเจอร์สชี้ว่านี่คือส่วนสำคัญ ที่ทำให้หงส์แดงทำได้แค่เสมอในบ้าน และที่สำคัญกว่านั้นก็คือจังหวะโดนใบแดนของมาร์โควิชเป็นจังหวะที่ไม่สมควรเลยในมุมมองของเขา ด้านสตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมออกมากล่าวแบบยอมรับสภาพว่าทีมหงส์แดงของเขาสมควรแล้วล่ะที่ต้องกระเด็นตกรอบ แต่ส่วนเป้าหมายหลังจากนี้ร็อดเจอร์ส กุนซือของทีมกล่าวว่าคือการมุ่งมั่นคว้าท็อปโฟร์ในลีกเพื่อตีตั๋วกลับมาเล่นในรายการนี้อีกครั้งในซีซั่นหน้า
