ทิดมีเป็นทิดสึกใหม่ คิดถึงพี่สาว ซึ่งอยู่กันคนละฟากนา จึงออกเดินทางตั้งแต่เช้า พอใกล้เพลมาถึงตลาด หิว เลยนั่งล่อก๋วยเตี๋ยวซะ 2 ชาม จากนั้นก็เดินลัดเลาะตามหัวคันนาไปถึงบ้านพี่สาว พอดีเที่ยง บ้านพี่สาวเป็นบ้านแบบเรือนไทยใต้ถุนสูง เจ้าทิดล้างตีนที่โอ่งข้างบันไดเสร็จ ก็เดินขึ้นบันได
ขณะนั้น พี่สาวกำลังปูเสื่อจะตั้งสำรับกินข้าวเที่ยง เสียงพี่สาวซึ่งหันมาเห็นเจ้าทิดเดินขึ้นมาแล้ว จึงถามไปว่า
“ก็งั้นแหละ คิดถึงพี่ เลยแวะมาหา”
พี่สาวจึงถามต่อไปอีกว่า
“แล้วเอ็งกินข้าวมาหรือยังล่ะ”
ด้วยความปากไว เลยตอบไปว่า
“กินมาแล้วจ้ะพี่”
พี่สาวก็ค่อย ๆ ยกสำรับออกมาตั้ง ยกหม้อข้าวออกมา และคดข้าวใส่จาน เจ้าทิดมองดูกับข้าว ที่พี่สาวกำลังจะกินหอมอร่อยน่ากิน จึงถามเปรยออกไปว่า
“พี่ทำอะไรกินล่ะ”
พี่สาวเริ่มเปิบข้าวกินตอบว่า
“ผัดเผ็ดปลาไหลว่ะ”
เจ้าทิดสะดุ้งเฮือก ตาย-า ปากหนอปากเรา ผัดเผ็ดปลาไหลนี่เป็นของโปรดที่สุด และอยากกินมาตั้งนานแล้ว วันนี้ที่จริงมีลาภปาก มาเจอพี่สาวเราผัดพอดี แต่ดันเสือกบอกไปว่า กินข้าวแล้ว
โอ้โฮ---คิดแล้วอยากจะเตะปากตัวเอง
เจ้าทิดนั่งคิดกระสับกระส่ายว่า จะทำอย่างไงดีวะ ถึงจะได้กินอ้ายปลาไหลผัดเผ็ด ยิ่งช้าเดี๋ยวพี่สาวกินหมด ก็เลยซวย
คิด ๆ ๆ ในที่สุด เจ้าทิดก็ดีใจหน้าบานที่คิดออก เลยออกปากถามพี่สาวไปว่า
“เออ พี ๆ ๆ ตอนหัวปี เมื่อกี้นี้ตอนผมขึ้นบ้านมาน่ะ พี่ถามผมว่าไงนะ”
พี่สาวเงยหน้าขึ้น คิดแป๊บหนึ่ง และตอบว่า
“อ้าว ก็ถามว่า…เป็นไงมั่งวะ หลังสึกแล้ว สบายดีมั้ย”
เจ้าทิดรีบปฏิเสธพัลวัน
“ไม่ใช่ ๆ อีกคำว่าไงนะ”
พี่สาวนิ่งแล้วตอบว่า
“อ้อ เอ็งกินข้าวมาหรือยังล่ะ”
เจ้าทิดยิ้มแป้น
“เออ ใช่แล้ว ๆ ๆ ๆ “
และตอบว่า
“เออ---เอาซะหน่อยก็ดีนะพี่”