Author Topic: ใครเจ๋งกว่ากัน  (Read 6490 times)

Liverpool

  • Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • Posts: 673
    • View Profile
ใครเจ๋งกว่ากัน
« on: June 26, 2010, 11:01:40 PM »
ณ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีคนที่มาทำการค้า-ขาย อยู่หลายชาติ หลายภาษา นายอับราฮัม และนายลี่กง ซึ่งเป็นเพื่อนซี้กันมาหลายปี นายอับราฮัมเป็น แขกขายผ้า งกมาก ไม่ว่าอะไร ก็จะคิดเป็นเงินเป็นทองไปหมด ส่วนนายลี่กง เป็นคนทำงานรับจ้างทั่วไป ใครมาจ้างทำอะไร ก็รับหมด อดทน ขยันและตรงไปตรงมา ทั้งคู่มีนิสัยเหมือนกันอยู่อย่างคือ เป็นคนที่ขี้เหนียว จนเป็นที่เรื่องลือกันทั้งหมู่บ้าน
    วันหนึ่งนายลี่กงก็ชวนนายอับราฮัมไปนั่งที่ ร้านขายกาแฟในตลาด พอเข้าไปในร้านกาแฟ นายลี่กงก็ถามอาแป๊ะเจ้าของร้านว่า
นายลี่กง:    อาแป๊ะ กาแฟ แก้วละเท่าไร
อาแป๊ะ:    แก้วละ 5 บาท
นายลี่กง:    แล้วโอยั๊วะหล่ะ แก้วละเท่าไร
อาแป๊ะ:    แก้วละ 4 บาท
นายลี่กง:     แล้วน้ำชาหล่ะอาแป๊ะ
อาแป๊ะ:    น้ำชาฟรี ไม่คิดตังหลอก
นายลี่กง:     งั้นเอาน้ำชามากาหนึ่งก็แลวกังนะ อาแป๊ะ
อาแป๊ะก็ส่ายหน้าและก็คิดในใจว่า "ไม่น่าบอกว่า ฟรีเลย อั๊วเสียรู้มังอีกเลี้ยว"
นายลี่กงกับนายอับราฮัมก็นั่งกินน้ำชากัน อย่างมีความสุข สักพัก ทั้งคู่ก็ชวนกันไปที่ท้ายตลาด กะว่าจะไป ดูเขาชนไก่กัน ระหว่างทาง ทั้งคู่ก็เจองูเหลือมตัวใหญ่สักสามศอกได้
ก็ช่วยกันจับ นายลี่กงก็เอาไม้ไล่ นายอับราฮัมก็เอาสุ่มไก่ที่ชาวบ้านวางทิ้งไว้ เอามาครอบงู
พอทั้งคู่จับงูเหลือมได้สำเร็จ ก็ดีใจ หัวเราะร่า สักพัก ทั้งคู่ก็หันมามองหน้ากัน แล้วนายอับราฮัม ก็เริ่มพูดก่อน
นายอับราฮัม:     อีนี้ ..ฉานเห็นงูก่อน งูจะต้องเป็นของฉานนะ ฉานกะว่าจะเอางูไปเล่นกลในตลาด
นายลี่กง:     อั๊วก็เห็งงูก่อง และถ้าไม่ล่ายอั๊วช่วยเอาไม้เขี่ย ลื้อก็จับงูไม่ล่าย ฉะน้าน..งูต้องเป็นของอั๊ว
ทั้งสองเถียงกัยอยู่นาน ยังสรุปไม่ได้ บังเอิญนายฉุนเดินมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี นายฉุน เป็นคนไทย ที่ใครๆในหมู่บ้านก็ให้ความนับถือ ก็ถามทั้งสองเกลอว่า
นายฉุน:    มีอะไรกัน เห็นคุยกันเสียงเอะอะ จนถึงปลายทุ่งโน้น
นายลี่กง:     ไม่ช่ายคุยกังหลอก ทาเลาะกังมากกว่า ก็ไอ้เรื่องงูตัวนี้น่ะซี่ อั๊วเห็นก่อง มังต้องเป็งของอั๊ว
นายอับราฮัม:    อีนี่..ฉานก็เห็นก่อนนะนายจ๋า ฉานเป็นคนเอาสุ่มมาครอบมันไว้ มันต้องเป็นของฉานนะนาย
นายฉุนพอจะเข้าใจเรื่องราว ก็นิ่งคิดสักพัก ก็ได้ความคิดอันชาญฉลาด แล้วก็หันไปพูดกับ ทั้งสองเกลอว่า
นายฉุน:    เอายังงี้ ฉันมีความคิดที่ดี อย่างหนึ่ง ถ้าใครพูดคำว่า"งูเหลือม" ได้ชัด คนนั้นก็เอางูไปเลย ทั้งสองเห็นว่าไง
นายลี่กงกับนายอับราฮัมก็พยักหน้าแล้วบอกว่า "อือ..ก็ยุติธรรมลี"
นายฉุน:     เอาหล่ะให้นายลี่กงพูดก่อน
นายลี่กง:    งูเหลียม …งูเหลียม…งูเหลียม
นายฉุนส่ายหน้า แล้วบอกว่า "ยังไม่ชัด" ทีนี้ก็ทีของนายอับราฮัม
นายอับราฮัมก็หายใจลึกๆแล้วพูดว่า
นายอับราฮัม:    งู..ฮะ..เลื่อม งู..ฮะเลื่อม งู..ฮะเลื่อม
นายฉุน:    ก็ยังไม่ชัดอยู่ดี เอางี้นะ ทั้งคู่ไปฝึกพูดคำว่างูเหลือมให้ชัดก่อนก็แล้วกัน
        ส่วนงูเหลือมตัวนี้ฉันจะเก็บไว้ให้ก่อน
ทั้งสองคนก็ทำหน้างงๆ และก็พยักหน้า เดินจูงมือกันกลับบ้าน ระหว่างทางก็ยังฝึกพูด
งูเหลียม ..ไม่ช่าย ต้อง งู..ฮะเลื่อม… ไม่ซ่าย..ต้อง งูเหลียม
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ใครจะมาฉลาดกว่าพี่ไทย เป็นไม่มี.


 

 [laugh]