ทีมชาติสโลวิเนีย ในฟุตบอลโลก 2010

[Liverpool]

ประวัติทีม

หากให้เดาล่วงหน้า ใครเล่าจะเชื่อว่า สโลเวเนีย จะสามารถเฟ้นหานักเตะชั้นยอดมารวมทีมกันจนถึงขนาดผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ได้ ทั้งๆ ที่ประชากรโดยรวมทั้งหมดมีเพียง 2 ล้านคนเท่านั้น! พวกเขาสามารถผ่านทีมชื่อชั้นแข็งๆ อย่าง โปแลนด์, เชก รวมถึงรัสเซีย ที่มีประชากรถึง 142 ล้านคน คว้าตั๋วโควต้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยทำได้ครั้งแรกเมื่อปี 2002 เป็นพัฒนาการอีกขั้นที่ยอดเยี่ยมน่าอัศจรรย์ใจสำหรับทีมที่เพิ่งแยกประเทศ ออกมาได้ไม่กี่ปี ในเวทีระดับโลก

ในรอบคัดเลือก ตอนจับฉลากแบ่งกลุ่มเสร็จสิ้น ไม่ว่าใครต่างก็ยกให้ทีม เชก และ โปแลนด์ ต้องเป็นทีมรั้งอันดับ 1 และ 2 อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทั้งสองทีมมีภาษีเก่าที่ดี ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว ฟุตบอลโลกปี 2006 ที่เยอรมนี รวมถึงยูโร 2008 ที่ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์ด้วย แต่ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นการชิงชัยกันของทีมม้านอกสายตาอย่าง สโลวเกีย กับ สโลเวเนีย เสียอย่างนั้น

กุญแจสำคัญของความสำหรับแห่งชาวสโลเวเนี่ยนที่เกิดขึ้นนี่ก็คือ แผงหลัง ที่เป็นจุดแข็งของทีม ซึ่งพิสูจน์กันให้เห็นอย่างเด่นชัดเมื่อแข่งครบ 10 นัด พวกเขาเสียประตูแค่ 4 ลูกเท่านั้น!! เป็นรองเนเธอร์แลนด์ ที่เสียประตู 2 ลูก แค่ทีมเดียว(แต่เนเธอร์แลนด์ มีทีมแข่งขันในกลุ่มแค่ 5 ทีม) นั่นทำให้การแข่งกับทีมเต็งผ่านเข้ารอบของกลุ่ม อย่าง โปแลนด์ ผลที่ออกมาคือพวกเขาบุกไปยันเสมอที่บ้านโปแลนด์ 1-1 และเมื่อกลับมาเล่นในบ้านตัวเอง ก็สามารถถล่มแหลกไปได้ 3-0 ส่วนทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เชก แม้จะเอาชนะไม่ได้ แต่ก็บุกไปแพ้เพียงแค่ 0-1 เท่านั้น และยันเสมอในบ้านตัวเองแบบไม่เสียประตูได้ 0-0 และจากการที่เชก บุกไปแพ้โปแลนด์ ที่ครองสถานะทีมรองบ๊วย รวมถึงออกเสมอเยอะถึง 4 นัดด้วยกัน ทำให้รวบยอดออกมาแล้ว เชกคว้าไปได้แค่ 16 แต้มเท่านั้น ซึ่งผิดกับสโลเวเนีย ที่ชนะรวด 4 นัดหลังสุด คว้าไปทั้งสิ้น 20 แต้ม ชนะขาดเชก เป็นรองแค่ สโลวเกีย ทีมเดียวเท่านั้น

ดาวดังประจำทีม

Robert Koren  >>  Midfielder

มิโลโวเย่ โนวาโควิช  >>  Striker

ซลัทโก้ เดดิช  >>   Striker

โค้ช

แม็ทแจซ เก็ก  ( Matjaz Kek )



สโลเวเนีย ใช้ผู้จัดการทีมชาติตัวเอง ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความเป็นผู้นำตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ แม็ทแจซ เก็ก โดยหลังจากที่เขาแขวนสตั๊ดกับทีมที่ปลุกปั้นเขาขึ้นมา มาริบอร์ ในปีถัดมา, 2000, เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมมาริบอร์ ในทันที เขาใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำทีมอยู่ 6 ปีด้วยกัน ซึ่งโค้ชเก็ก ก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียว โดยคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 ครั้ง บอลถ้วยอีก 1 ครั้ง และในปี 2006 เขาก็ได้รับตำแหน่งที่ 2 คือการคุมทีมชาติสโลเวเนีย แต่เป็นชุดเยาวชน คุมได้เพียงแค่ปีเดียว พอถึงปี 2007 หลังการออกไปของ บรันโก้ โอบลัค ทางบอร์ดบริหารก็ได้เลือกเขา ให้ขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้เขาต้องเลือกออกจากสโมสรมาริบอร์ เพื่อมาคุมทีมชาติโดยเฉพาะ จนประสบความสำเร็จ ในปัจจุบัน

ฟุตบอลโลกที่ผ่านมา

สโลเวเนีย แยกตัวออกมาจากประเทศยูโกสลาเวีย เมื่อปี 1991 นั่นเท่ากับว่า สโลเวเนีย มีประวัติศาสตร์ของฟุตบอลประเทศชาติตัวเองที่สั้นเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น ดังนั้น การที่พวกเขา สามารถทะลุเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายในปี 2002 ที่เอเชียได้ นั่นจึงเป็นครั้งแรกของพวกเขา และก็ห่างหายไป 1 ครั้ง จนกลับมาได้อีกครั้งในปีหน้า ซึ่งในทัวร์นาเม้นต์ที่ประเทศเกาหลี-ญี่ปุ่นนั้น เป็นการประเดิมบอลโลกครั้งแรกที่ไม่ค่อยสวยนัก เพราะในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นรอบแรกของรายการ สโลเวเนียแพ้รวด พ่ายสเปน 1-3, แอฟริกาใต้ 0-1 และปารากวัย 1-3 ตกรอบแรกชนิดเก็บไม่ได้สักแต้ม ดังนั้น ในเป้าหมายแรกสุด ที่พวกเขาต้องการนั้นคือ คว้าแต้มในรอบสุดท้ายให้ได้