ในที่สุดก็ได้แชมป์แรกประจำซีซั่นนี้ไปครองเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ทีมมหาเศรษฐีแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ หลังพวกเขาเป็นฝ่ายพลิกเกมเอาชนะทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ไปได้แบบสุดมันส์ 3-1 ในเกมรอบชิงชนะเลิศศึกแคปปิตอลวันคัพที่สนามเวมบลี่ย์ ทั้งนี้ในครึ่งเวลาแรกทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์เป็นทำช็อกแฟนบอลทีมเรือใบสีฟ้าก่อน จากลูกยิงขึ้นนำ 1-0 ของฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้าตัวเก่งที่ซันเดอร์แลนด์ยืมตัวมาจากทีมลิเวอร์พูล
แต่ทว่าครึ่งเวลาหลังแมนฯซิตี้มายิงคืนได้ถึง 3 ประตู โดยประตูตีเสมอได้จากลูกยิงไกลสุดสวยของยาย่า ตูเร่ ประตูนำ 2-1 ได้จากซามีร์ นาสรี่ ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งยิงเข้าไปให้หลังจากที่พวกเขาได้ประตูตีเสมอเพียงนาทีเดียวเท่านั้น ส่วนประตูปิดท้าย (ประตูที่ 3) ได้จากเฆซุส นาบาส ตัวสำรองที่ยิงเข้าไปในนาทีสุดท้ายของเกมพอดี อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าสกอร์ที่ออกมาจะดูค่อนข้างขาด แต่ในส่วนของรูปเกมนั้นต้องบอกว่าทางด้านทีมแมวดำ ซันเดอร์แลนด์ก็สู้กับแมนฯซิตี้ได้อย่างสูสีเหมือนกัน โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรก เรียกได้ว่าสู้ได้ชนิดที่ต้องบอกว่าหลายคนก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าซันเดอร์แลนด์จะทำได้ดีขนาดนี้ เพียงแต่ว่าคุณภาพที่แท้จริงของนักเตะทั้งสองทีม ต้องยอมรับว่าซิตี้นั้นเหนือกว่าเยอะ ประกอบกับมาได้ประตูตีเสมอ และประตูขึ้นนำติดๆกัน เลยทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลให้ซิตี้พลิกกับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบแบบกะทันหันเลย จากเดิมที่ซันเดอร์แลนด์กุมความได้เปรียบมาตั้งแต่บอรินี่ซัดประตูขึ้นนำได้
ส่วนทางด้านมานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ที่พาทีมคว้าแชมป์แรกมาได้นั้น ออกมากล่าวหลังเกมทำนองว่าทีมของตนเองสมควรแล้วที่จะเป็นแชมป์รายการนี้ เพราะตลอดระยะทัวร์นาเม้นท์ ลูกทีมของเขาสามารถเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงประตูได้เยอะ และเสียประตูน้อย ไม่ได้เล่นดีกันแค่เฉพาะในนัดชิงเท่านั้น การได้แชมป์มาครองจึงเปรียบเสมือนรางวัลสำหรับนักเตะ และตัวเขา รวมถึงทุกๆคนในสโมสรแมนฯซิตี้