แม้ว่าจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลแต่ทางด้านแบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมหนุ่มไฟแรงก็ไม่ถือโทษโกรธเคือง หรือให้การตำหนิลูกทีมแต่อย่างใด พร้อมชื่นชมลูกทีมที่ตั้งใจทำได้เต็มที่ที่สุดแล้ว ทั้งนี้ร็อดเจอร์สชี้แจงว่าลูกทีมของตนเองเล่นกันได้ดีสร้างโอกาสในการจบสกอร์ได้ยอดเยี่ยม ทำเกมรุกกันได้แต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ ซึ่งก็รู้สึกผิดหวังกับความพ่ายแพ้และคิดว่ามันเป็นบทเรียนราคาแพ้
ทั้งนี้แบรนแดน ร็อดเจอร์สตั้งเป้าว่าจากนี้ไปถึงช่วงคริสมาสต์ทีมของเขาต้องอยู่ในกลุ่ม 6 อันดับแรกของตารางคะแนนให้ได้ อันนี้โดยความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าร็อดเจอร์สตั้งเป้าหมายต่ำเกินไปหรือเปล่า เพราะเวลานี้ถึงลิเวอร์พูลจะรั้งอยู่อันดับที่ 5 ของตารางคะแนนทว่าพวกเขาก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูงเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น หากจ่าฝูงอย่างอาร์เซน่อลพลาดแม้เพียงแมทเดียว ขณะที่ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะให้ได้เรื่อยๆเหมือนช่วงต้นฤดูกาลก็มีสิทธิ์ที่แซงกลับไปนำเป็นจ่าฝูงเหมือนเดิมได้ อย่างไรก็ตามมองกันอีกมุมการตั้งเป้าหมายแบบนี้อาจจะทำให้ตัวร็อดเจอร์สและลูกทีมลิเวอร์พูลของเขาไม่มีความกดดันมาก แล้วสามารถทำผลงานได้ดีเกินกว่าที่คาดไว้เหมือนตอนต้นฤดูกาลที่ได้ ด้วยส่วนนึงในเกมที่พวกเขาสะดุดเสมอสวอนซี และมาพ่ายเซาธ์แฮมป์ตัน รวมถึงมาพ่ายในเกมกับแมนฯยูไนเต็ดต่อนั้น
อาจเป็นเพราะว่าความกดดัน ความคาดหวังจากหลายๆฝ่ายที่มองลิเวอร์พูลอยู่ คือก็เป็นธรรมดาละครับชนะสามนัดรวดของการออกสตาร์ทฤดูกาลมีแต้มนำเป็นจ่าฝูงใครๆก็ย่อมคาดหวังที่จะเห็นทีมคว้าแชมป์เป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิเวอร์พูลเป็นทีมที่มีแฟนบอลมากมายขนาดนี้ และมีความหลังฝังใจกับการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย ก็เลยอาจทำให้เกิดเป็นความกดดันในใจว่าจะต้องทำผลงานให้ได้ดีทุกนัดๆสุดท้ายเลยออกมาแบบที่เห็น
