กลายเป็นเวทีแห่งการเอาคืน หรือว่าการล้างแค้นไปแบบเต็มตัวซะแล้วครับ สำหรับศึกฟุตบอลเอฟเอคัพรอบ 5 เมื่อล่าสุดทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งเพิ่งจะถล่มปืนใหญ่ อาร์เซน่อลในเกมลีกไปหยกๆ 5-1 ก็มาโดนเขี่ยตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งนี้สองประตูของอาร์เซน่อลได้มาจากอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ในนาทีที่ 16 และลูคัส โพดอสกี้ในนาทีที่ 47 ส่วนลิเวอร์พูลหนึ่งประตูโทนของพวกเขาได้จากจุดโทษที่สังหารโดน “สตีวี่จี” สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม นาทีที่ 60
อย่างไรก็ตามหากว่ากันที่รูปเกมก็ไม่ถือว่าทางอาร์เซน่อลล้างแค้นลิเวอร์พูลได้ซะทีเดียว เพราะรูปเกมลิเวอร์พูลถือว่าไม่เป็นรองเลย เพียงแต่พวกเขาไม่อาจจบสกอร์ได้มากกว่านี้เท่านั้นเอง อาจจะเป็นอาร์เซน่อลด้วยซ้ำไปที่ดูจะเป็นรอง แต่ก็นั่นแหละครับถ้าว่ามองกันที่ผลกระทบซึ่งตามมาหลังการแข่งขัน ยังไงๆก็นับว่าอาร์เซน่อลเอาคืนได้เจ็บแสบทีเดียว เนื่องจากหลังจบเกม ลิเวอร์พูลร่วงตกรอบถ้วยเอฟเอคัพ ในขณะที่อาร์เซน่อลได้เดินหน้าเข้าสู่ก่อนรอบชนะเลิศต่อไป สำหรับการเปิดใจของกุนซือทั้งสองทีมหลังเกมการแข่งขัน อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมปืนโตก็แน่นอนครับว่าเขาพึงพอใจกับผลงานในแมทนี้ โดยเขากล่าวว่าลูกทีมของเขามีฟอร์มการเล่นที่ดูมุ่งมั่นมาก มีปฏิกิริยาต่อความพ่ายแพ้ให้หงส์แดงในนัดที่แล้ว
ตนเองจึงรู้สึกพอใจ และภูมิใจมากๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้านเบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหงส์แดง กล่าวทำนองว่ารู้สึกผิดหวังกับความพ่ายแพ้ในเกมนี้ ทั้งๆที่ทีมของตนไม่สมควรพ่ายแพ้ พร้อมชี้ว่ามีจังหวะนึงที่หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าเวิร์ดคลาสของทีมโดนผู้เล่นของทีมอาร์เซน่อลเตะล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินควรต้องเป่าให้เป็นอีกหนึ่งจุดโทษของหงส์แดง ด้วยว่าจังหวะนั้นมันชัดเจนมากกว่าจุดโทษที่สตีเว่น เจอร์ราร์ดซัดเข้าไปซะอีก
