ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ซวยสุดๆไปเลยครับ สำหรับทีมไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อลที่ต้องมาเสียมิดฟิลด์คนสำคัญอย่าง “แจ็ค วิลเชียร์” ไปประมาณ 6 สัปดาห์ เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในเกมกระชับของทีมชาติอังกฤษ (อังกฤษ-เดนมาร์ก) ทั้งนี้จังหวะที่ทำให้แจ็ค วิลเชียร์ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวเป็นจังหวะที่เจ้าตัวเข้าปะทะกับทางด้านของดาเนียล แอ็กเกอร์ กองหลังกัปตันทีมชาติเดนมาร์กของทีมลิเวอร์พูล จึงทำให้มีกระแสตามมาจากแฟนบอลบอลทีมปืนใหญ่ทำนองว่าแอ็กเกอร์เจตนาทำฟาล์วใส่วิลเชียร์ เพื่อจะให้เป็นผลดีต่อการลุ้นแชมป์ของทีมหงส์แดง
อธิบายได้ง่ายๆว่าเมื่ออาร์เซน่อลเสียวิลเชียร์ไป ก็เท่ากับว่าอาร์เซน่อลจะมีศักยภาพลดน้อยลง โอกาสที่จะเก็บแต้มได้ก็น้อยลงไปด้วย ลิเวอร์พูลซึ่งเป็นอีกหนึ่งทีมลุ้นแชมป์ก็เลยได้ประโยชน์อย่างจุดนี้ อย่างไรก็ตามหลังจากมีกระแสนี้ออกมา ดาเนียล แอ็กเกอร์ ก็ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองแล้วว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายแจ็ค วิลเชียร์ โดยเขากล่าวว่าจังหวะการเล่นแบบนั้นมันเป็นจังหวะ 50-50 ในฐานะที่ตัวเองเป็นกองหลังยังไงก็ต้องเข้าบอลลักษณะแบบนั้นอยู่แล้ว และตัวเขาเองก็ตั้งใจเข้าไปสกัดบอล ทว่าผู้ตัดสินกลับไม่มองอย่างที่เขาคิด เช่นเดียวกันทางด้านของรอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษก็มองว่าการเข้าสกัดของดาเนียล แอ็กเกอร์ จนนำมาสู่อาการบาดเจ็บรุนแรงของวิลเชียร์นั้นเป็นอุบัติเหตุ หาใช่เจตนาของแอ็กเกอร์
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้รอย ฮ็อดจ์สันก็หวังเห็นวิลเชียร์หายเจ็บโดยเร็ว เพราะการที่วิลเชียร์ต้องมารับใช้ทีมชาติแล้วบาดเจ็บกลับไป ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียใจสำหรับกุนซือทีมชาติอย่างเขาอยู่แล้ว ส่วนความเห็นของกุนซืออาร์แซน เวนเกอร์ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก โดยเวนเกอร์ได้กล่าวกับสื่อว่าตนเชื่อว่าการเข้าสกัดของแอ็กเกอร์เป็นอุบัติเหตุ แอ็กเกอร์มีเจตนาเล่นบอล เพียงแต่มันเป็นการเข้าสกัดที่รุนแรงไปหน่อย แล้วผลที่ตามมากคือกลายเป็นโชคร้ายสำหรับวิลเชียร์ และทีมอาร์เซน่อล