ใครจะไปคิดฝันว่าเมื่อทางด้านเอฟเวอร์ตันเปลี่ยนผู้จัดการทีมเพราะความจำยอม เนื่องจากเดวิด มอยส์ผู้คุมทีมมาเนิ่นนานและมีผลงานที่น่าพึ่งพอใจหลายปีนั้นโดดไปรับงานคุมทีมแมนฯยูไนเต็ด ทีมที่ใหญ่กว่าเอฟเวอร์ตัน มีเกียรติประวัติความสำเร็จที่งดงามยาวนานกว่าเอฟเวอร์ตันแล้วผลงานของทีมเอฟเวอร์ตันจะดีแซงหน้าแมนฯยูเหมือนอย่างที่เป็นในตอนนี้ได้ คือเหมือนจะมีอะไรบอกเป็นนัยๆว่าทางด้านโรแบร์โต้ มาติเนซ ผู้จัดการทีมคนใหม่ หรืออดีตผู้จัดการทีมวีแกน แอธแลนติกนั้นมีดีกว่าเดวิด มอยส์
ก็นั่นแหละหากว่าทางด้านเดวิด มอยส์ไม่ตัดสินใจตีจากเอฟเวอร์ตันแล้วโยกไปคุมทีมแมนฯยูไนเต็ดแบบกะทันหัน ก็คงไม่มีการบังคับให้ทีมเอฟเวอร์ตันต้องมีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าจะมีคนที่ดีกว่า เหมาะสมกว่า และทำผลงานให้เอฟเวอร์ตันได้ดีกว่าผู้จัดการทีมชาวสก็อตอย่างมอยส์ และถ้าจะว่าไปจะมาบอกเหตุผลว่าที่แมนฯยูไนเต็ดภายใต้การนำของอดีตผู้จัดการทีมทอฟฟี่มีผลงานในฤดูกาลนี้ เวลานี้ย่ำแย่กว่าทีมเก่าของตัวผู้จัดการทีมเป็นเพราะว่าตัวผู้เล่นของทีมแมนฯยูไนเต็ดนั้นเป็นรอง หรือมีศักยภาพไม่สู้ทีมเอฟเวอร์ตัน แน่นอนว่าไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้อง คือทั่วโลกประจักษ์แก่สายตาได้ว่าทีมแมนฯยูไนเต็ดมีขุมกำลังเหนือกว่าเอฟเวอร์ตันในทุกด้าน ซ้ำร้ายยังได้ดึงเอานักเตะตัวหลักของเอฟเวอร์ตันอย่าง มารูยาน เฟลไลนี่ที่ว่ากันว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของเอฟเวอร์ตันแล้วไปอยู่กับทีมด้วย
ทั้งนี้ 6 ของฤดูกาลพรีเมียร์ลีกผ่านไป เอฟเวอร์ตันมี 12 คะแนน ด้วยสถิติไร้พ่ายทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ แบ่งเป็นชัยชนะ 3 นัด และเสมอ 3 นัด ประตูได้เสีย +3 ประตู รั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน ซึ่งเป็นโซนของทีมที่จะได้ตีตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนแมนฯยูไนเต็ด 6 นัดผ่านเช่นกันมีเพียง 7 แต้ม เฉลี่ยความสามารถในการเก็บแต้มคือแมทละ 1 แต้มกว่าๆเท่านั้น รั้งอยู่อันดับ 12 ของตารางคะแนนนู้นเลย โดยผลงานแบ่งเป็นชัยชนะ 1 นัด เสมอ 2 และแพ้ไปถึง 3 อย่างไรก็ตามหากว่าเราจะมาด่วนสรุปผลงานของเอฟเวอร์ตันและแมนฯยูไนเต็ดเวลานี้ เชื่อบรรดาแฟนผีทั้งหลายคงจะบอกว่ามันเร็วเกินไป
