ในชีวิตการค้าแข้งของนักเตะอาชีพสิ่งนึงที่เป็นเรื่องจริงแน่นอน และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงก็คือ “ไม่มีนักเตะคนไหนที่จะสามารถเล่นฟุตบอลในฟอร์มระดับสุดยอดของตนเองไปได้ตลอด” เนื่องจากอายุที่มากขึ้นซึ่งมาพร้อมกับสภาพร่างกายที่ค่อนๆโรยราลงจะเป็นตัวบันทอนความสามารถลงไปเรื่อยๆ ฉะนั้นแล้วนักเตะที่เมื่ออายุเริ่มมากขึ้นจึงมีสถานะในทีมที่ไม่เหมือนเดิม หรือแตกต่างไปจากเดิม ตัวอย่างเช่นในช่วงอายุราวๆ 24-25 ปีที่กำลังมีพร้อมทั้งความสามารถซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาแล้ว และประสบการณ์ก็อาจจะอยู่ในสถานะกำลังสำคัญของทีมต้นสังกัด
แต่ทว่าพอถึงอายุประมาณ 31-32 ร่างกายเริ่มไม่ฟิตเต็มร้อยเหมือนเดิม ฟอร์มการเล่นก็ลดลงไปตามสภาพร่างกายด้วย สถานะในทีมก็อาจเปลี่ยนไปเป็นเพียงตัวสำรอง หรือต้องแข่งขันกับนักเตะรายอื่นๆเพื่อแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงเป็นระยะๆ ไม่ได้เป็นกำลังสำคัญเหมือนเดิม และแน่นอนว่าความแตกต่างเหล่านี้ย่อมส่งผลให้เรื่องสัญญา ค่าเหนื่อย ค่าตอบแทนที่ตัวนักเตะจะได้รับจากสโมสรแตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน อย่างเช่นที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ “จอห์น เทอร์รี่” กองหลังทีมสิงห์บูล เชลซี จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาบนเส้นทางค้าแข้งของเขา เขาเป็นหนึ่งนักเตะที่มีความสำคัญต่อต้นสังกัดอย่างมาก เรียกว่าเป็นกองหลังที่เชลซีจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว แต่ถึงวันนี้ในวันที่เจทีอายุ 32 ความสามารถในการเล่นฟุตบอลลดลง ความเร็วลดลง
เป็นผลให้การเจรจาสัญญาฉบับใหม่ระหว่างเขากับทีมเชลซีต่างจากที่เคยเป็นมา ว่ากันตรงๆคือเชลซีไม่ต้องการที่จะต่อสัญญากับเจทีออกไปแล้ว แล้วก็ได้หยิบเอาเรื่องของค่าเหนื่อยมาเป็นเงื่อนไขว่าหากตัวนักเตะยังคงอยากค้าแข้งกับทีมเชลซีต่อไปก็จะต้องลดค่าเหนื่อยของตนเองลงมา (ตามรายงานข่าวของเดลี่ เมล) ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงต้องหาสโมสรใหม่อยู่ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจที หรือ “จอห์น เทอร์รี่” นั้นจะเลือกจัดการอนาคตช่วงปลายอาชีพค้าแข้งของเขาอย่างไรต่อไป แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ด้วยชื่อเสียงที่เทอร์รี่สั่งสมมาก็พอจะทำให้ทีมดังในยุโรปบางทีมพร้อมที่จะเซ้งเจ้าตัวไปร่วมทีมอยู่เหมือนกัน
