ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังเผชิญอยู่กับฟอร์มการเล่นที่ไม่แน่นอนของลูกทีมหรือเปล่านะครับ เดวิด มอยส์ ผู้จจัดการทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดจึงได้ออกมาคุยโวว่าทีมของตนเองนั้นสมควรเป็นเต็งแชมป์ถ้วยบิ๊กเอียร์ของยุโรป (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก) โดยเจ้าตัวอ้างว่าด้วยผลงานการจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มนั้นถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของทีมตน อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าเราพิจารณาจากผลงานโดยรวม ทั้งในรายการลีก (พรีเมียร์ลีก) ด้วยแล้วจะเห็นได้ว่าผลงานของทีมแมนฯยูไนเต็ดนั้นยังไม่ใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์รายการใดเลย
ในลีกเรียกได้ว่าสถานการณ์ยากลำบากเต็มที สุ่มเสี่ยงต่อการโดนเด้งจากเก้าอี้กุนซืออย่างมาก ในแชมเปี้ยนส์ลีกถึงจะทะลุเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ดูแล้วการจะผ่านรอบต่อๆไปจนไปถึงรอบชิงนั้นเป็นอะไรที่ยากเหลือเกิน เพราะส่วนนึงต้องบอกว่าศักยภาพทีมที่อยู่ในสายเดียวกันกับแมนฯยูในรอบแบ่งกลุ่ม กับบรรดาทีมที่ทะลุเข้ารอบมานี้แตกต่างกันเหลือเกิน หรือว่ากันง่ายๆก็คือมอยส์ กับแมนฯยูไนเต็ดยังไม่ได้เจอของจริงในรายการนี้ อาทิเช่น บาร์เซโลน่า รีล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค เป็นต้น อีกทั้งในช่วงก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่นัก ถ้าใครยังพอจำกันได้ ก็จะเห็นว่าเป็นเดวิด มอยส์ เองนั่นแหละที่ออกมากล่าวเชิงว่าทีมปีศาจแดงชุดนี้ของตนเองไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก
โดยให้เหตุผลว่าทีมปีศาจแดงชุดนี้ไม่ได้มีนักเตะระดับโลกมากมายอย่างทีมบาเยิร์น มิวนิค บาร์เซโลน่า ฉะนั้นการที่เดวิด มอยส์ออกมาคุยโวว่าเวลานี้ทีมตนสมควรเป็นเต็งแชมป์รายการนี้จึงเป็นอะไรที่ขัดแย้ง และแสดงถึงความสับสนในการทำทีมของเดวิด มอยส์อย่างชนิดที่ต้องแฟนบอลผีแดงงงกันถ้วนหน้า แต่ทั้งนั้นทั้งนี้บางทีการออกมาพูดครั้งนี้ของเดวิด มอยส์ก็อาจจะเป็นเสมือนการชี้โพรงให้บรรดาบอร์ดบริหารทีมปีศาจแดงตัดสินใจอนาคตของเขาได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้ครับ เพราะถ้าในรายการพรีเมียร์ลีกไม่มีสิทธิ์ลุ้นป้องกันแชมป์ หรือกระทั่งลุ้นติดท็อปโฟร์ก็ยังยาก แล้วเกิดรอบต่อไปในแชมเปี้ยนส์ลีกมอยส์ทำทีมพ่ายตกรอบ หมดลุ้นแชมป์ไปอีก ทั้งๆที่ตนบอกเองว่าทีมปีศาจแดงเวลานี้สมควรเป็นเต็งแชมป์ ก็คงจะหาข้ออ้างอะไรให้ดำรงตำแหน่งกุนซือต่อไปไม่ได้แล้วล่ะครับ