ก็ไม่รู้ว่าปีนี้ฟุตบอลถ้วยเอฟเอคัพเป็นอะไรกับทีมใหญ่จากเมืองแมนเชสเตอร์หรือเปล่านะครับ เพราะล่าสุดในรอบสามนี่ นอกจากเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ จะต้องไปเตะรีแมทแล้ว ซึ่งอนาคตที่จะเข้ารอบหรือว่าตกรอบก็ยังไม่แน่นอน ทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดก็ยังมาตกรอบไปอีก และการตกรอบครั้งนี้ของทีมแมนฯยูไนเต็ดก็ไม่ใช่การพ่ายแพ้ให้กับทีมใหญ่โตอะไร หากแต่เป็นการพ่ายให้กับสวอนซี ซิตี้ ที่แม้ว่าจะเล่นในลีกสูงสุดเหมือนกัน แต่ทว่าตัวผู้เล่น ชื่อชั้นของทีมแมนฯยูไนเต็ดเหนือกว่าบาน ซ้ำร้ายกว่านั้นนี้เป็นการพ่ายแพ้ในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด
หาใช่การพ่ายแพ้ที่ลิเบอร์ตี้สตเดี้ยม บ้านของสวอนซีแต่อย่างใด ในขณะที่ทีมใหญ่อื่นๆจากลีกสูงสุดต่างดาหน้าเข้าสู่รอบต่อไปกันได้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเชลซี อาร์เซน่อล หรือลิเวอร์พูลเองก็ตาม จะขาดก็แต่สเปอร์ที่พ่ายให้กับอาร์เซน่อลไปนั่นแหละครับ แต่ก็อย่างว่าการพ่ายแพ้ของสเปอร์เป็นการพ่ายให้กับทีมใหญ่ด้วยกัน ฉะนั้นจะบอกว่าตกรอบแบบสุดวิสัย ตกรอบเพราะดวงที่ต้องโคจรมาเจอกับทีมใหญ่ก็คงจะไม่ผิด สำหรับเชลซีพวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยการบุกไปเอาชนะทีมแกะเขาเหล็ก ดาบี้ เคาน์ตี้ ด้วยสกอร์ 0-2 ด้านลิเวอร์พูลเปิดรังแอนฟิลด์เอาชนะโอลด์แฮม ทีมจากลีกวันไปด้วยสกอร์เดียวกัน ทั้งนี้ในส่วนของความพ่ายแพ้ของแมนฯยูไนเต็ดต่อทีมสวอนซี ซิตี้
เป็นการพ่ายไปแบบเฉียดฉิว (สกอร์1-2) โดยสวอนซี ซิตี้ได้ประตูนำ 0-1 ตั้งแต่นาทีที่ 12 จากการยิงของเวนย์ เราท์เล็ตจ์ และแมนฯยูไนเต็ดก็มาตีเสมอได้อย่างรวดเร็วในนาทีที่ 16 จากทางด้านฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้ กระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกมนาทีสุดท้ายเป็นโบนี่ที่โขกประตูดับซ่าแมนฯยูไนเต็ดเข้าไป จากการเปิดบอลของเวนย์ เราท์เล็ตจ์ผู้ทำประตูแรก อย่างไรก็ตามก่อนที่สวอนซีจะมาได้ประตูที่สอง และเป็นประตูชัยช่วงท้ายเกม ผู้เล่นแมนฯยูไนเต็ดมาโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปคนนึง ซึ่งก็คือในรายของฟาบิโอ ดาซิลวา (นาทีที่ 77) ทั้งๆที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนลงสนามมาแทนริโอ เฟอร์ดินานด์ได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น
