จากทีมที่ทำผลงานได้เหนือกว่าคู่แข่งมาโดยตลอด จู่ๆต้องมามีผลงานดร็อปลงไปแบบน่าใจหาย แถมคู่แข่งยังมีผลงานดีวันดีคืนขึ้นมา ก็ย่อมเป็นธรรมดาแหละครับที่นักเตะในทีมจะต้องรู้สึกช้ำใจ ทางด้านของ “เวย์น รูนี่ย์” หัวหอกทีมชาติอังกฤษของทีมปีศาจแดง แมนฯยูไนเต็ดจึงได้ออกมากล่าวยอมรับถึงความรู้สึกของตนเองเวลานี้ที่ต้องทนเห็นทีมต้นสังกัดมีผลงานที่ย่ำแย่ ขณะที่ทีมคู่แข่งอย่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล กับเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้กลับมีผลงานที่น่าชื่นชม ว่ามันเป็นอะไรที่ยากจำทำใจได้จริงๆที่ต้องทนเห็นลิเวอร์พูล กับแมนฯซิตี้มีผลงานดี และต่อสู้เพื่อแย่งแชมป์กันในฤดูกาลนี้
ทั้งๆที่ทีมปีศาจแดงของตนเองก็มีตุณภาพพอที่จะแย่งคว้าแชมป์ได้เหมือนกัน แต่กลับทำอย่างนั้นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทีมลิเวอร์พูลที่ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาเป็นรองทีมปีศาจแดงมาโดยตลอด ทั้งนี้ลิเวอร์พูลกับแมนฯยูไนเต็ดจัดได้ว่าเป็นทีมคู่อริตลอดกาลแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยถึงตอนนี้ทั้งสองทีมเป็นที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของประเทศ (แมนฯยูไนเต็ดอันดับหนึ่ง 20 สมัย ลิเวอร์พูลได้ 18 สมัย) ส่วนแมนฯซิตี้ด้วยความที่เป็นทีมในเมืองแมนเชสเตอร์เหมือนกันจึงเป็นเสมือนทีมคู่รักคู่แค้นของแมนฯยูไนเต็ดไปโดยปริยาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่ารูนี่ย์จะเผยความรู้สึกออกมาทำนองนั้น
ทว่าเจ้าตัวกลับไม่รู้สึกโทษที่การเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีมจากเซอร์ อเล็กซ์ มาเป็นเดวิด มอยส์แต่อย่างใด โดยเจ้าตัวมองว่าการเปลี่ยนตัวผู้จัดการทีมจากเซอร์ อเล็กซ์ ซึ่งคุมทีมมายาวนานถึง 26 ปี มาเป็นเดวิด มอยส์นั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะยังไงๆการที่มีกุนซือคนนึงคุมทีมยาวนานขนาดนั้นก็ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่แล้ว หากแต่พอเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วนักเตะในทีม (ตัวเขา และเพื่อนร่วมทีม) ดันทำผลงานออกมาได้ไม่ดีพอ สรุปคือรูนี่ย์มองว่าเป็นที่นักเตะเองนั่นแหละที่รับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ ผลงานเลยออกมาแย่