ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าสถานการณ์การลุ้นความสำเร็จในฤดูกาลนี้ของทีมสิงห์บลู เชลซี ทีมดังแห่งกรุงลอนดอน อังกฤษเริ่มจะไม่สู้ดีซะแล้วครับ โดยหลังจากที่หล่นจากตำแหน่งจ่าฝูงในศึกพรีเมียร์ลีกไม่ทันไร ล่าสุดก็บุกไปพ่ายให้กับคู่แข่งในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกถึง 1-3 ทำเอาโอกาสในการลุ้นเข้ารอบรอบชนะเลิศต่อไปลำบากขึ้นมาในทันที สรุปคืออย่างน้อยที่สุดหากพวกเขาต้องการเข้ารอบก็จะต้องยิงในนัดที่สองที่จะเล่นกันที่สแตมฟอร์ดบริดจ์อย่างน้อย 2 ประตู แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่เสียประตูให้เปแอสเชเพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้ในเกมสิงห์บลูบุกพ่ายเปแอสเช เปแอสเชได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 4 จากเอเซเกล ลาเวซซี่ จากนั้นนาทีที่ 26 สิงห์บลูมาตามตีเสมอได้จากลูกจุดโทษของเอแด็น อาซาร์ และก็จบครึ่งเวลาแรกไปด้วยสกอร์เท่ากัน ครึ่งหลังนาทีที่ 61 ดาวิด ลุยส์ กองหลังเชลซีโหม่งสกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองส่งทีมให้ทีมเจ้าบ้านขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ส่วนประตูปิดท้าย 3-1 ของเปแอสเชมาได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากฮาเวียร์ ปาสตอเร่ สำหรับท่าทีหลังเกมของกุนซือทีมผู้แพ้อย่างโจเซ่ มูริญโญ่เป็นไปในทางตำหนิการเล่นเกมรับของลูกทีม โดยเขาชี้ว่าทีมเปแอสเชเป็นทีมที่มีขุมกำลังที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะกับบรรดาผู้เล่นเกมรุก ซึ่งทำให้หลายคนคาดหวังจะเห็นแอสเชทำประตูสวยๆใส่เชลซีได้อยู่แล้วล่ะ
แต่ว่าประตูที่เชลซีเสียไปในวันนี้มันไม่ใช่ประตูที่สวยสดงดงามอะไรมากมาย หากแต่มันมาจากความผิดพลาดในการเล่นเกมรับ การยืนตำแหน่งของกองหลังทีมเชลซีเอง ส่วนกับการกลับไปเล่นนัดสองที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ด้วยผลต่างสกอร์ที่ตามอยู่ 2 สกอร์ มูริญโญ่ยอมรับว่าเป็นงานที่ยากมากๆสำหรับทีมตนเอง แต่ขณะเดียวกันก็มองว่าในโลกของฟุตบอลอะไรๆก็ล้วนเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และทีมของตนก็จะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้สิ่งที่ดูจะมีความเป็นไปได้น้อยเกิดขึ้น
