จากที่เป็นทีมที่ได้เปรียบมากที่สุดในการลุ้นแชมป์ช่วงไม่กี่นัดหลังของฤดูกาล โดยเป็นผู้กุมชะตาตัวเอง เรียกว่าหากชนะรวดก็แชมป์ทันทีไม่ต้องสนใจผลการแข่งขันของทีมอื่นเลย แต่ทว่ามาที่ตอนนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้นซะแล้วครับ สำหรับทางด้านของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เมื่อในเกมล่าสุดพวกเขาเปิดรังพ่ายให้กับทีมจอมแท็คติกอย่างสิงห์บลู เชลซีไปแบบหมดรูป 0-2 ส่งผลให้จำนวนแต้มที่มีเหนือเชลซี หรือช่องว่างลดเหลือลง 2 แต้ม ขณะเดียวกันเมื่อทีมอย่างแมนฯซิตี้ (อันดับสาม) สามารถเก็บชัยชนะได้เป้าของพวกเขาก็ทำให้ช่องว่างจาก 6 แต้ม ลดเหลือเพียงแค่ 3 แต้มเท่านั้น
แต่ที่สำคัญก็คือแมนฯซิตี้เป็นทีมที่แข่งน้อยกว่าลิเวอร์พูลอยู่ 1 นัด เท่ากับว่าในหนึ่งนัดตกค้างของซิตี้ที่เหลืออยู่หากซิตี้สามารถคว้าชัยได้แต้มก็เท่ากับลิเวอร์พูลทันที แล้วเมื่อเรามองไปที่ผลต่างประตูได้เสียก็จะพบว่าซิตี้ดีกว่าลิเวอร์พูลพอสมควร นั่นจึงแปลความหมายได้กลายๆว่าเป็นซิตี้แล้วที่อยู่ในสถานะของการกุมชะตาการลุ้นแชมป์เองแทนลิเวอร์พูล กล่าวคือถ้าซิตี้ชนะรวดสำหรับสามเกมที่เหลือของพวกเขาก็น่าจะได้เป็นแชมป์ ตรงกันข้ามลิเวอร์พูลที่เหลือสองเกม การชนะสองเกมรวดไม่เพียงพอ แต่ยังจะต้องมาลุ้นให้ซิตี้สะดุดแพ้ หรือเสมอสักหนึ่งนัดด้วย ส่วนสถานการณ์ของเชลซีที่แม้จะบุกไปเอาชนะลิเวอร์พูลมาได้ก็ยังคงเป็นรองทั้งซิตี้ และลิเวอร์พูลอยู่ดี ด้วยว่าแต้มตาม 2 อย่างที่กล่าว แต่ว่าแข่งเท่ากันกับลิเวอร์พูล
สำหรับสองสกอร์ที่เกิดขึ้นของสิงห์บลูในเกมบุกอัดหงส์แดง 0-2 เกิดขึ้นในครึ่งแรก 1 สกอร์ จากเดมบา บา และครึ่งหลังอีกหนึ่งสกอร์จาก วิลเลี่ยน โดยส่วนนึงของสองสกอร์ดังกล่าวต้องบอกกันด้วยว่ามาจากการเล่นผิดพลาดกันเองของทีมเจ้าบ้านหงส์แดง โดยเฉพาะสกอร์แรกที่สตีวีจี กัปตันทีมไปลื่นล้มกระทั่งโดนผู้เล่นเชลซีฉกบอลไป ซึ่งหากว่าไม่เกิดความผิดพลาดดังกล่าวก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าบทสรุปของเกมนี้จะออกมาเป็นความพ่ายแพ้ของหงส์แดงแบบนี้หรือเปล่า