งานงอกซะแล้วครับ สำหรับสองสโมสรมหาเศรษฐีแห่งยุโรปอย่างเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ แห่งอังกฤษ และเปแอสเช หรือ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แห่งฝรั่งเศส หลังยูฟ่า (สหพันธ์ฟตบอลยุโรป) ออกมายืนยันว่าทั้งสองทีมได้ทำผิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ อันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องรายจ่ายของสโมสรทั้งในแง่ของค่าเหนื่อยนักเตะ และจำนวนเงินที่ใช้ช้อปปิ้งในตลาดนักเตะ ฉะนั้นแน่นอนว่าทั้งสองทีมน่าจะต้องได้รับบทลงโทษจากยูฟ่า เพียงแต่ในส่วนของลักษณะการลงโทษทีมที่ผิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ หรือไม่อาจปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎนี้ได้นั้น
ยูฟ่าไม่ได้มีการกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่าจะเป็นลักษณะไหน แต่ขณะเดียวกันก็มีการคาดเดากันว่าน่าจะหนีไม่พ้นการลงโทษปรับ หรือไม่ก็เข้าไปจำกัดการใช้จ่ายาเงินในซีซั่นหน้า อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากสองสโมสรนี้แล้วก็ยังน่าจะมีอีกหลายสโมสรเช่นกันที่ปฏิบัติตามกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์ไม่ได้ แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยรายชื่อสโมสรออกมาทั้งหมด ด้วยว่าอาจจะกำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบอย่างละเอียดอีกทีนึง ส่วนสิ่งที่หลายคนเป็นกังเวลเกี่ยวกับบทลงโทษก็คือเรื่องของโทษแบน หรือโทษห้ามลงแข่งในรายการฟุตบอลถ้วยยุโรป (ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก) ประมาณว่าทีมที่ผิดกฎไฟแนนเชี่ยลแฟร์เพลย์นี้จะถูกสั่งห้ามเข้าแข่งขันในรายการถ้วยยุโรปใบโตฤดูกาลหน้าหรือเปล่านั้น ถึงตอนนี้ต้องบอกว่าค่อนข้างสบายใจได้มากทีเดียว เนื่องจากประธานยูฟ่า “มิเชล พลาตินี่” ได้ออกมายืนยันด้วยตนเองว่าจะไม่มีการแบนสโมสรใดที่ทำผิดกฎนี้ทั้งนั้น
เพราะรู้สึกว่ามันเป็นการลงโทษที่รุนแรงเกินไป หรือเราอาจจะมองกันอีกนัยนึงได้ว่าทางยูฟ่าก็คงไม่อยากให้การลงโทษไปกระทบต่อนักเตะหลายๆรายที่ไม่ได้รู้เรื่องการใช้จ่ายเงินของสโมสรต้นสังกัดด้วย ด้วยว่านักเตะอาชีพหลายรายที่ค้าแข้งอยู่กับสโมสรในยุโรปต่างก็ต้องการลงเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปทั้งนั้น ว่ากันง่ายๆคือมันคงแฟร์นักหากนักเตะบางรายต้องมาชวดลงเล่นรายการนี้ทั้งๆที่การใช้จ่ายเงินที่มากเกินไปของสโมสรนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการซื้อตนเองเข้ามาร่วมทีม หรือการจ่ายค่าเหนื่อยให้ตนเอง