ก็ต้องบอกว่าชัดเจนที่สุดเลยว่ายูไนเต็ดเปลี่ยนระบบการเล่นกลับมาเป็นแบบปราการหลังสี่รายเหมือนเดิม แล้วทำให้ฟอร์มการเล่นของพวกเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ล่าสุดทางด้านของกุนซือหลุยส์ ฟาน กัล นายใหญ่ทัพปีศาจแดงจึงได้ออกมากล่าวยืนยันว่าเขาไม่ได้ยึดติดในระบบการเล่นแบบ 3-5-2 ที่เขาได้นำมาใช้ในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น แล้วส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมบู่แบบกู่ไม่กลับ ทั้งนี้ฟาน กัลกล่าวว่าที่จริงแล้วเขายืนยันมาโดยตลอดว่าไม่ได้ยึดติดกับแผนการเล่นแบบ 3-5-2 หรือว่าแผนการเล่นแบบใดแบบนึง
แต่ที่ตนเองนำเอามาใช้ในการออกสตาร์ทซีซั่นนั้นเป็นเพราะว่าทีมมีผู้เล่นที่ไม่เอื้อกับการเล่นในระบบปราการหลังสี่ราย ฉะนั้นพอทีมเสริมทัพเอาผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มแล้ว ตนเองจึงได้ปรับการเล่นกลับมาเป็นแบบนี้ (แมนฯยูไนเต็ดซื้อมาร์กอส โรโฮ ดาลี่ย์ บลินด์ และอังเคล ดิ มาเรียเข้ามาเพิ่ม) อย่างไรก็ตามนอกฟาน กัลยังได้ยกตัวอย่างการทำทีมของเขาในอดีตขึ้นมาสนับสนุนเหตุผลอีกว่า เมื่อครั้งที่ตนเองคุมทีมอาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัมส์ ซึ่งมีธรรมเนียมการเล่นในระบบ 4-3-3 ตนเองก็พาทีมชุดสองเริ่มต้นในระบบ 4-4-2 เพราะพิจารณาดูแล้วว่าขุกำลังที่มี ณ ตอนนั้นไม่เหมาะที่จะเล่นระบบแรก จนพอมีการปรับเปลี่ยนขุมกำลัง ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนระบบการเล่นกลับมาเป็นแบบเดิมเช่นกัน
สรุปคือฟาน กัลก็ต้องการที่จะสื่อให้ได้เข้าใจกันชัดๆว่า ไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่นแบบไหนตนเองก็ไม่ได้ยึดติด อยู่ที่ว่าขุมกำลังของทีม ณ เวลานั้นจะเป็นอย่างไรมากกว่า เป็นต้นว่าหากไม่มีกองหลัง หรือแบ็กชั้นดีอยู่ในทีม ก็อาจจะให้ทีมเล่นแบบปราการหลังสามราย แต่หากมีแบ็กดีๆอยู่ในทีม เหมือนที่ตอนนี้ได้มาร์กอส โรโฮ แบ็กซ้ายทีมชาติอาร์เจนติน่าเข้ามาก็จะให้ทีมเล่นในระบบกองหลังสี่ราย เพราจะสามารถใช้ประโยชน์จากการมีนักเตะแบ็กได้อย่างเต็มที่
