ต้องบอกว่ายังคงหวังลึกๆว่า จะกลับมาสู่เส้นทางของการลุ้นท็อปโฟร์ได้เหมือนกัน สำหรับทางด้านของทีมสิงห์บลู
เชลซี แชมป์เก่าแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาฟอร์มจะบู่แบบชนิดที่เรียกว่ามองอนาคตแทบไม่เห็นกันก็ตาม โดยล่าสุดเป็น
โจเซ่ มูริญโญ่ นายใหญ่ของทีมที่ได้ออกมากล่าวหลังเกมที่สิงห์บลูเปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อนไปได้ 1-0 ว่าทีมของเขายังมีสิทธิ์ลุ้นจบอันดันท็อปโฟร์เพื่อตีตั๋วไป
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าเฉกเช่นบรรดาทีมบิ๊กในลีก
ทั้งนี้หลังจบเกมดังกล่าวสิงห์บลูขยับรั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนนโดยมี 14 แต้มจาก 13 เกม แต่กระนั้นจำนวนแต้มก็ยังตามหลังทีมในโซนท็อปโฟร์มากอยู่ถึง 12 แต้ม
อย่างไรก็ตาม
มูริญโญ่ กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์ของทีมตนเองในตอนนี้ว่า ยังคงเป็นหนึ่งในทีมที่จะลุ้นจบหนึ่งในสี่อันดับแรกแน่นอน แต่ส่วนเรื่องของการลุ้นแชมป์นั้นยอมรับว่าเป็นสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว พร้อมกันนี้ก็ยังได้กล่าวชื่นชมฟอร์มการเล่นของลูกทีมว่าทำได้ดีทีเดียวในเกมเฉือนเอาชนะ
นอริช ซิตี้ 1-0 (สิงห์บลูได้ประตูโทนจากดีเอโก้ คอสต้า นาทีที่ 64)
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้แม้ว่าในทัศนะของ
โจเซ่ มูริญโญ่ จะยังเชื่อมั่นว่าทีมของตนเองสามารถที่จะจบอันดับท็อปโฟร์ได้ และทางทฤษฎีก็ยังเป็นไปได้ตามนั้น ทว่าในทางปฏิบัติ หรือในทางการแข่งขันจริงแล้วต้องยอมรับตามตรงว่าไม่ใช่งานง่ายสำหรับเชลซี และมูริญโญ่เลย
กล่าวคือ 12 แต้มที่ตามหลังทีมในโซนดังกล่าวนั้นไม่น้อยเลย มันหมายถึงพวกเขาต้องชนะให้ได้ต่อเนื่องติดต่อกัน 5-6 เกมเลยทีเดียวถึงจะพอมีลุ้นพาตนเองขึ้นไปเบียดๆอยู่ในกลุ่มนั้น หน่ำซ้ำยังต้องลุ้นให้ทีมในโซนนั้น และทีมที่อันดับเหนือกว่าพวกเขาสะดุดทำแต้มหล่นเรื่อยๆอีก
อาทิเช่น ทีมลิเวอร์พูลที่ตอนนี้แม้จะรั้งอยู่อันดับ 9 แต่ก็ยังมีแต้มมากกว่าพวกเขาถึง 6 แต้ม ไหนจะยังมีเรื่องของฟอร์มการเล่นโดยเฉพาะความยากลำบากในการยิงประตูคู่แข่งที่กว่ายิงได้สักประตูช่างยากเย็นเหลือเกิน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีผลต่อความยากในการเก็บชัยชนะเกมต่อๆไปของพวกเขาอย่างมากเลย