สนาม : อีวูด พาร์ค
สถิติตลอดกาล
เจอกันทั้งหมด 116 นัด แบล็กเบิร์น ชนะ 48 เสมอ 28 แพ้ 40
เจอกันในลีก 109 นัด แบล็กเบิร์น ชนะ 45 เสมอ 27 แพ้ 37
ผลงานเจอกันในลีก ฤดูกาล 2010-2011 : แมนฯ ซิตี้ เสมอ แบล็กเบิร์น 1-1
สถิติเจอกันในลีกที่ แบล็กเบิร์น รอบ 5 ฤดูกาลล่าสุด : แบล็กเบิร์น แพ้ 0-2 (ฤดูกาล 2009-2010), เสมอ 2-2 (ฤดูกาล 2008-2009), แบล็กเบิร์น ชนะ 1-0 (ฤดูกาล 2007-2008), แบล็กเบิร์น ชนะ 4-2 (ฤดูกาล 2006-2007), แบล็กเบิร์น ชนะ 2-0 (ฤดูกาล 2005-2006)
ผลการพบกันที่ผ่านมา
11/09/10 แมนฯ ซิตี้ เสมอ แบล็กเบิร์น 1-1
12/01/10 แมนฯ ซิตี้ ชนะ แบล็กเบิร์น 4-1
15/08/09 แบล็กเบิร์น แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-2
02/05/09 แมนฯ ซิตี้ ชนะ แบล็กเบิร์น 3-1
28/12/08 แบล็กเบิร์น เสมอ แมนฯ ซิตี้ 2-2
27/12/07 แมนฯ ซิตี้ เสมอ แบล็กเบิร์น 2-2
02/09/07 แบล็กเบิร์น ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0
11/03/07 แบล็กเบิร์น ชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-0
21/01/07 แมนฯ ซิตี้ แพ้ แบล็กเบิร์น 0-3
17/09/06 แบล็กเบิร์น ชนะ แมนฯ ซิตี้ 4-2
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม
แบล็กเบิร์น ชนะ เสมอ แมนฯ ซิตี้ ชนะ
ลีก 45 27 37
เอฟเอคัพ 2 1 3
ลีกคัพ 1 0 0
อื่นๆ - - -
รวม 48 28 40
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
แบล็กเบิร์น
16/04/11 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
09/04/11 เสมอ เบอร์มิงแฮม 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
02/04/11 เสมอ อาร์เซน่อล 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19/03/11 เสมอ แบล็กพูล 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
05/03/11 แพ้ ฟูแล่ม 2-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลงานในลีก 6 นัดหลังสุด
เกมเหย้า - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 3 แพ้ 0 ได้ 3เสีย 3 มี 3 แต้ม
เกมเยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 1 แพ้ 2 ได้ 2 เสีย 5 มี 1 แต้ม
แมนฯ ซิตี้
16/04/11 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 (กลาง) เอฟเอ คัพ
12/04/11 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
03/04/11 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 5-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20/03/11 แพ้ เชลซี 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
18/03/11 ชนะ ดินาโมเคียฟ 1-0 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก
ผลงานในลีก 6 นัดหลังสุด
เกมเหย้า - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 1 มี 7 แต้ม
เกมเยือน - แข่ง 3 ชนะ 0 เสมอ 0 แพ้ 3 ได้ 1 เสีย 7 มี 1 แต้ม
แบล็กเบิร์น
กุหลาบไฟ ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ต่อเนื่อง ไม่ชนะใครติดต่อกัน 10 นัดรวดแล้ว เป็นเกมพรีเมียร์ลีก 9 นัด และอีก 1 ในเอฟเอ คัพ รอบ 4 โดย 9 นัดที่ผ่านมาในลีก เก็บได้เพียง 4 คะแนนเท่านั้น จากผลเสมอ 4 นัด ซึ่งชัยชนะครั้งสุดท้ายต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่เปิดบ้านเอาชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0 ในพรีเมียร์ลีก สภาพทีมยังไม่มี สตีเว่น เอ็นซอนซี่ กองกลางชาวฝรั่งเศส ที่ติดโทษแบนขณะที่ โรเก้ ซานตา ครูซ กองหน้าปารากวัย ไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ เพราะติดสัญญายืมตัวจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไรอัน เนลเซ่น เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาตินิวซีแลนด์ ต้องเข้ารับการผ่าตัดเข่า ปิดฉากฤดูกาลนี้แล้ว ทำให้ ฟิล โจนส์ แข้งดาวรุ่งสารพัดประโยชน์ จะถอยตัวเองจากกองกลางตัวรับ กลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟเหมือนเดิม โดยมี กาแอล ชิเวต์ เป็นแบ็กซ้าย ขณะที่ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ ศูนย์หน้าฟอร์มแรง น่าจะกลับคืนทีมเกมนี้ หลังจากเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าจนพลาดลงเล่นเกมที่แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ส่วน คีธ แอนดรูว์ส หายเจ็บโคนขาหนีบแล้ว แต่ยังไม่ฟิตพอ ส่วน วินซ์ เกรลล่า ผ่าตัดเอ็นร้อยหวาย พักทั้งฤดูกาลนี้
แมนฯ ซิตี้
สภาพทีม คาร์ลอส เตเวซ กัปตันทีม ที่เอ็นหลังหัวเข่าฉีก ยังต้องลุ้นว่าจะคืนทีมทันเกมรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ หรือไม่ แต่สำหรับเกมลีกต่อจากนี้จนถึงเกมที่ เวมบลีย์ จะไม่มีชื่อดาวยิงอาร์เจนไตน์อย่างแน่นอน ทำให้โอกาสตกถึง มาริโอ บาโลเตลลี่ ก่อน เอดิน เชโก้ ด้าน ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ยังพลาดช่วยทีมต่อ จากอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าที่ทำให้ต้องหายหน้าไปถึง 4 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม ปาโบล ซาบาเลต้า กลับมายึดตัวจริงตำแหน่งแบ็กขวา ในช่วงเวลาที่ เยโรม บัวเต็ง กองหลังทีมชาติเยอรมัน ผ่าตัดเข่า ปิดเทอมก่อนเพื่อน
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แบล็กเบิร์น (4-4-2) : พอล โรบินสัน - มิเชล ซัลกาโด้, คริแบล็กเฟอร์ แซมบ้า, ฟิล โจนส์, กาแอล ชิเวต์ - เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, เจอร์เมน โจนส์, เดวิด ดันน์, มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น - จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, เจสัน โรเบิร์ตส์
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่ - อดัม จอห์นสัน, ดาบิด ซิลบา, มาริโอ บาโลเตลลี่
