สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
สถิติตลอดกาล
เจอกันทั้งหมด 148 นัด เชลซี ชนะ 62 เสมอ 38 แพ้ 48
เจอกันในลีก 131 นัด เชลซี ชนะ 52 เสมอ 35 แพ้ 44
ผลงานเจอกันในลีก ฤดูกาล 2010-2011 : นิวคาสเซิล เสมอ เชลซี 1-1
สถิติเจอกันในลีกที่ เชลซี รอบ 5 ฤดูกาลล่าสุด : เจอกัน 4 นัด เสมอ 0-0 (ฤดูกาล 2008-2009), เชลซี ชนะ 2-1 (ฤดูกาล 2007-2008), เชลซี ชนะ 1-0 (ฤดูกาล 2006-2007), เชลซี ชนะ 3-0 (ฤดูกาล 2005-2006)
ผลการพบกันที่ผ่านมา
28/11/10 นิวคาสเซิ่ล เสมอ เชลซี 1-1
23/09/10 เชลซี แพ้ นิวคาสเซิ่ล 3-4
04/04/09 นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี 0-2
22/11/08 เชลซี เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0
05/05/08 นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี 0-2
29/12/07 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1
22/04/07 นิวคาสเซิ่ล เสมอ เชลซี 0-0
20/12/06 นิวคาสเซิ่ล แพ้ เชลซี 0-1
14/12/06 เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 1-0
07/05/06 นิวคาสเซิ่ล ชนะ เชลซี 1-0
เชลซี
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
08/05/11 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 /เยือน / พรีเมียร์ลีก
30/04/11 ชนะ สเปอร์ส 2-1 / เหย้า / พรีเมียร์ลีก
23/04/11 ชนะ เวสต์แฮม 3-0 / เหย้า / พรีเมียร์ลีก
21/04/11 ชนะ เบอร์มิงแฮม 3-1 / เหย้า / พรีเมียร์ลีก
16/04/11 ชนะ เวสต์บรอมฯ 3-1 เยือน / พรีเมียร์ลีก
ผลงาน 6 นัดหลังสุดในลีก
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 1 มี 9 แต้ม
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 3 มี 7 แต้ม
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก - แข่ง 18 ชนะ 15 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 39 เสีย 12 มี 47 แต้ม
นิวคาสเซิ่ล
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
07/05/11 ชนะ เบอร์มิงแฮม 2-1 /เหย้า / พรีเมียร์ลีก
01/05/11 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 /เยือน / พรีเมียร์ลีก
23/04/11 เสมอ แบล็กพูล 1-1 /เยือน / พรีเมียร์ลีก
20/04/11 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 /เหย้า / พรีเมียร์ลีก
10/04/11 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 /เยือน / พรีเมียร์ลีก
ผลงาน 6 นัดหลังสุดในลีก
เหย้า - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 3 มี 4 แต้
เยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 0 แพ้ 2 ได้ 2 เสีย 5 มี 3 แต้ม
ฟอร์มเกมเยือนในลีก - แข่ง 17 ชนะ 5 เสมอ 4 แพ้ 9 ได้ 13 เสีย 28 มี 20 แต้ม
ความพร้อมก่อนลงสนาม
เชลซี
เจ้าถิ่นย ยังต้องระมัดระวังให้ดีกับการคว้ารองแชมป์ให้ได้ในอีก 2 นัดที่เหลือ เพราะยังมี อาร์เซน่อล ที่ตามหลังมาอยู่แค่ 3 คะแนน สภาพทีมนั้น คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน พร้อมใช้งานนักเตะค่อนข้างฟูลทีมทีเดียว และจะสั่งลูกทีมเดินหน้าเต็มสูบแน่นอน เพราะจะเป็นเกมสุดท้ายที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฤดูกาลนี้แล้ว โดยจะขาดก็เพียง โชเซ่ โบซิงวา แบ็กขวาโปรตุกีส ที่เจ็บเข่า พลาดสองนัดที่เหลือของซีซั่นนี้แล้ว เช่นเดียวกับ ไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า สองแข้งบราซิลที่เป็นสำรองนัดก่อนทั้ง อเล็กซ์ กับ รามิเรส มีโอกาสเบียดแย่งเป็นตัวจริงแทน ดาวิด ลุยซ์ กับ จอห์น โอบี มิเกล เหมือนกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับ คาร์เล็ตโต้ ว่าจะให้โอกาสใครมากกว่ากัน
นิวคาสเซิล
ด้าน อลัน พาร์ดิว กุนซือ สาลิกาดง ไม่มีลุ้นอะไรแล้วในฤดูกาลนี้ สภาพทีมในช่วง 2 นัดสุดท้ายมีปัญหาเยอะทีเดียว เควิน โนแลน กองกลางกัปตันทีม ผ่าตัดข้อเท้า, สตีฟ ฮาร์เปอร์ ผ่าตัดเข่า, ไมค์ วิลเลียมสัน แขนหัก, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ กับ ลีออน เบสต์ เจ็บข้อเท้าทั้งคู่, แดนนี่ กัทธรี่ เจ็บหน้าแข้ง และ แดน กอสลิง เจ็บเข่า ทำให้จำเป็นต้องเรียกดาวรุ่งอย่าง คาเซนก้า ลัวลัว, เกร็ก แม็คเดอร์ม็อตต์ และ แซมมี่ อเมโอบี้ น้องชายของ โชล่า อเมโอบี้ ขึ้นมาเสริมทีมชุดใหญ่ ขณะที่ ชีค ติโอเต้ ก็น่าจะถูกพักทั้งสองนัดที่เหลือด้ว เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดโทษแบน 3 นัดหากได้รับใบเหลืองใบที่ 15 ใบในเกมนี้
เกมนี้จะยึดระบบ 4-4-2 กองหน้าคู่ใช้ ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส กับ โชล่า อเมโอบี้<
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส
นิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : ทิม ครุล - แดนนี่ ซิมพ์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โกลอชชินี่, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - ไรอัน เทย์เลอร์, โจอี้ บาร์ตัน, โฮนาส กูเตียร์เรซ, เชน เฟอร์กูสัน - ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส, โชล่า อเมโอบี้
