สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) แถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ทีมลูกหนังที่คว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบสุดท้าย ที่ประเทศโปแลนด์และยูเครน มีโอกาสได้รับเงินเป็นจำนวนสูงถึง 23.5 ล้านยูโร (ราว 1 พันล้านบาท) เลยทีเดียว หากชนะได้ทั้ง 6 แมตช์ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม และรอบน็อกเอาต์ โดยในการแข่งขันครั้งนี้ ยูฟ่า กำหนดเงินรางวัลสำหรับ 16 ทีมที่เข้ารอบสุดท้าย ไว้ที่ 196 ล้านยูโร (ราว 8,428 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ามากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการแข่งขันยูโร 2008 ที่มีเงินรางวัลเป็นจำนวน 184 ล้านยูโร (ราว 7,912 ล้านบาท) โดยแต่ละทีมจาก 16 ทีมจะได้รับเงินเป็นจำนวน 8 ล้านยูโร (ราว 344 ล้านบาท) สำหรับการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย และจะได้รับอีก 1 ล้านยูโร (ราว 43 ล้านบาท) สำหรับการคว้าชัยชนะแต่ละแมตช์ในรอบแบ่งกลุ่ม และหากเสมอก็จะได้รับนัดละ 500,000 ยูโร (ราว 21.5 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน หากสามารถเอาชนะในรอบก่อนรองชนะเลิศ ก็จะได้รับเงินเป็นมูลค่าสูงถึง 2 ล้านยูโร (ราว 86 ล้านบาท) และจะได้เพิ่มอีก 3 ล้านยูโร (ราว 129 ล้านบาท) หากเก็บชัยได้ในรอบรองชนะเลิศ ส่วนทีมที่เป็นแชมป์ก็จะได้รับเงินอีก 7.5 ล้านยูโร (ราว 322.5 ล้านบาท) ขณะที่รองแชมป์ก็จะได้รางวัลปลอบใจเป็นจำนวน 4.5 ล้านยูโร (ราว 193.5 ล้านบาท) นอกจากนี้ ยูฟ่า ยังได้ตัดสินใจที่จะมอบเงินเป็นจำนวน 1 ล้านยูโร (ราว 43 ล้านบาท) ให้กับทีมจบเป็นอันดับ 3 ของกลุ่มด้วย