สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
สถิติตลอดกาล
เจอกันทั้งหมด 158 นัด แมนฯ ยูฯ ชนะ 67 เสมอ 47 แพ้ 44
เจอกันในลีก 137 นัด แมนฯ ยูฯ ชนะ 56 เสมอ 41 แพ้ 40
ผลงานเจอกันในลีก ฤดูกาล 2010-2011 : เชลซี ชนะ แมนฯ ยูฯ 2-1
สถิติเจอกันในลีกที่ แมนฯ ยูฯ รอบ 5 ฤดูกาลล่าสุด : แมนฯ ยูฯ แพ้ 1-2 (ฤดูกาล 2009-2010), แมนฯ ยูฯ ชนะ 3-0 (ฤดูกาล 2008-2009), แมนฯ ยูฯ ชนะ
2-0 (ฤดูกาล 2007-2008), เสมอ 1-1 (ฤดูกาล 2006-2007), แมนฯ ยูฯ ชนะ 1-0 (ฤดูกาล 2005-2006)
ผลการพบกันที่ผ่านมา
13/04/11 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 2-1
07/04/11 เชลซี แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1
02/03/11 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1
08/08/10 เชลซี แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-3
03/04/10 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 1-2
08-11-09 เชลซี ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0
09-02-09 เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2
11-01-09 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เชลซี 3-0
21-09-08 เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
22-05-08 เชลซี เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (แมนฯยูชนะจุดโทษ)
แมนฯ ยูไนเต็ด
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
05/05/11 ชนะ ชาลเก้ 4-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ ลีก
01/05/11 แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
27/04/11 ชนะ ชาลเก้ 2-0 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
23/04/11 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20/04/11 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก / แข่ง 17 ชนะ 11 เสมอ 4 แพ้ 2 ได้ 30 เสีย 12
ผลงานในลีก 6 นัดหลังสุด
เกมเหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 4 เสีย 0 มี 9 แต้ม
เกมเยือน - แข่ง 3 ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ได้ 5 เสีย 5 มี 4 แต้ม
เชลซี
ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด
30/04/11 ชนะ สเปอร์ส 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23/04/11 ชนะ เวสต์แฮม 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
21/04/11 ชนะ เบอร์มิงแฮม 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
16/04/11 ชนะ เวสต์บรอมฯ 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
13/04/11 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเยือนในลีก / แข่ง 17 ชนะ 7 เสมอ 5 แพ้ 5 ได้ 29 เสีย 17
ผลงาน 6 นัดหลังสุดในลีก
เกมเหย้า - แข่ง 3 ชนะ 3 เสมอ 0 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 1 มี 9 แต้ม
เกมเยือน - แข่ง 3 ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 7 เสีย 3 มี 7 แต้ม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ถูก เชลซี รองจ่าฝูงไล่มาเหลือ 3 คะแนนแล้ว แถมประตูได้เสียเวลานี้ยังเท่ากันพอดี นั่นก็หมายความว่า หาก สิงห์บลูส์ ชนะ จะขึ้นนำจ่าฝูงทันที พร้อมกับเหลือเกมเตะอีกสองนัดสุดท้าย สภาพทีมเกมนี้ เนมานย่า วิดิช กัปตันทีม, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, พาร์ค ชี-ซอง และ ไรอัน กิ๊กส์ จะกลับคืนตัวจริงทั้งหมด มีเพียง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่เพิ่งหายป่วยกลับมาเป็นตัวสำรองนัดที่แล้ว แต่คาดว่าไม่พร้อมลงตัวจริง และ ปาทริซ เอวร่า ที่เจ็บต้นขาหลังลงสำรองในเกมวันพุธ ก็พร้อมลงสนาม แดนกลางจะได้ พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋า พ้นโทษแบนรายการในประเทศ 3 นัด กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง แต่เชื่อว่ามิดฟิลด์ผมทองได้ลงตัวจริงในเกมยุโรปไปแล้ว น่าจะถูกพักเป็นแค่ตัวสำรองมากกว่า เท่ากับว่าเกมนี้จะขาดแค่ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่พักยาวคนเดียว คู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
เชลซี
ทางฝั่ง คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม กลับมามีลุ้นแชมป์อย่างเหลือเชื่อ หลังจากก่อนหน้านี้เคยตามห่างสุดถึง 12 แต้มด้วยซ้ำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนเฉือนชนะ สเปอร์ส 2-1 และ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแพ้ อาร์เซน่อล 0-1 ทำให้เกมวันอาทิตย์นี้มีความหมายขึ้นมาทันที สภาพทีม คาร์เล็ตโต้ พร้อมใช้งานลูกทีมแบบสมบูรณ์สุดๆ เพราะไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มหรือติดโทษแบนในเกมนี้เลย มีเพียง โชเซ่ โบซิงวา ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว และ ยูริ ชีร์คอฟ ที่ต้องรอทดสอบความฟิต แต่ก็จะไม่ส่งผลต่อการจัด 11 คนแรกทั้งคู่ ปัญหาที่ต้องคิดหนักยังอยู่ที่แดนหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จะเป็นตัวยืนอย่างแน่นอน ส่วนอีกคนโอกาสของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ยังคง 50-50 มีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าอดีตศูนย์หน้าลิเวอร์พูลจะได้เล่น บ้างก็ว่าโอกาสจะเป็นของ ซาโลมง กาลู
ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - พาร์ค ชี-ซอง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส (ซาโลมง กาลู)