ปัญหาทุจริตใน สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติฟีฟ่า ยังพ่นพิษไม่หยุด ล่าสุดส่งผลกระทบต่อฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายปี 2012 อาจถึงขั้นต้องเลือกเจ้าภาพใหม่ หลังสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ประกาศไม่ขอลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ให้กับผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้ง 2 ราย ไม่ว่าจะ เซปป์ แบลตเตอร์ ประธาน 3 สมัย ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของเก้าอี้ปัจจุบัน หรือ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ผู้ท้าชิงชาวกาตาร์ ซึ่งเป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ทั้งนี้ ฟีฟ่า ในฐานะองค์กรลูกหนังอันดับ 1 ของโลก ถูกจับตามองอย่างหนักภายหลัง ลอร์ด เดวิด ทรีสแมน อดีตประธานเอฟเอ เปิดประเด็นว่ามีคณะกรรมการบริหาร 4 ราย ประกอบด้วย แจ็ค วอร์เนอร์ (ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก), นิโคลัส เลออซ (ปารากวัย), ริคาร์โด เตเซยรา (บราซิล) และ วรวีร์ มะกูดี (ไทย) พัวพันกับการขอรับผลประโยชน์จากอังกฤษเพื่อแลกกับคะแนนเสียงในการโหวตเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย นอกจากนี้ยังมี อิสซา ฮายาตู (แคเมอรูน), ฌักส์ อนูมา (ไอวอรีโคสต์) ที่มีชื่อเงินสินบนแลกการลงคะแนนให้กาตาร์ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ล่าสุด แบลตเตอร์ ในฐานะประธานฟีฟ่า ยืนยันว่า ใครก็ตามหากทำผิดจริงย่อมต้องได้รับโทษ และอาจส่งผลให้ต้องมีการลงคะแนนเลือกเจ้าภาพฟุตบอลโลกกันใหม่ โดยกล่าวว่า “ทั่วโลกจุดประเด็นเรื่องหาเจ้าภาพใหม่ แต่อย่าเพิ่งถามผมว่าจะปฏิบัติตามนั้นหรือไม่ ทุกอย่างต้องดำเนินไปทีละขั้น หากผ่านการพิสูจน์แล้วว่าหลักฐานมีจริงหรือไม่มีจึงจะเข้าสู่กระบวนการต่อไป โดยเราได้ประสานงานไปยังหนังสือพิมพ์แล้ว ซึ่งเขาตกลงที่จะนำหลักฐานมาแสดง”
