Recent Posts

Pages: [1] 2 3 ... 10
1

       ถึงตอนนี้น่าจะเรียกว่าใกล้อำลาทีมเต็มทีแล้วล่ะสำหรับทางด้านของ มาร์ติน สเคอเทล ปราการหลังเลือดสโลวักของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวร่วมกับทีมมานานหลายปี เพราะล่าสุดมีสื่อตีข่าวออกมาแล้วว่า เบซิคตัส ยักษ์ใหญ่จากแดนไก่งวง กำลังจะบรรลุข้อตกลงคว้ากัปตันทีมชาติสโลวะเกียรายนี้ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์

       หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่จอมบู๊ของหงส์แดงแสดงออกมาชัดเจนแล้วว่า นักเตะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมซีซั่นใหม่ของตนเอง โดยในส่วนของผู้เล่นตำแหน่งเกมรับหรือปราการหลังตัวกลางนั้น นายใหญ่ชาวเยอรมันเลือกให้ความไว้วางใจกับสองแข้งอย่าง เดยัน ลอฟเรน และ มามาดู ซาโก้ มากกว่า

       ทั้ง โจเอล มาติป ที่หมดสัญญากับชาลเก้ 04 ในเยอรมัน ก็เซ็นสัญญาซบหงส์แดงล่วงหน้าไปตั้งนานแล้วด้วยเท่ากับว่าอย่างน้อยๆ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็มีตัวเลือกกองหลังคุณภาพให้ใช้งานในซีซั่นหน้าอย่างน้อยสามรายแล้ว

       อย่างไรก็ตามสื่อรายงานว่า มาร์ติน สเคอเทล คือเป้าหมายการเสริมทัพที่สำคัญลำดับต้นๆของเบซิคตัสในซัมเมอร์นี้แต่ก็ไม่ถือว่าง่ายซะทีเดียวที่จะลงเอยดีลได้ที่ราคา 7 ล้านปอนด์ เพราะนักเตะเองก็ยังพอมีทางเลือกที่จะเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษต่อไปเนื่องจากได้รับความสนใจจากทีมร่วมลีกอยู่เหมือนกัน งานนี้จึงต้องวัดใจนักเตะเอาด้วยว่าจะหาญกล้าเลือกย้ายไปสวมเสื้อทีมอื่นในลีก เพื่อให้ได้เล่นที่พรีเมียร์ลีกต่อไปหรือไม่

       สำหรับ มาร์ติน สเคอเทล นั้นเป็นนักเตะกองหลังที่มีจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่งของร่างกาย โดยเป็นนักเตะที่มีปัญหาบาดเจ็บแบบนับครั้งได้เลย และลงเล่นให้กับหงส์แดงสม่ำเสมอมากที่สุดคนนึง เคยสร้างสถิติลงเล่นให้ทีมครบทุกเกมตลอดระยะเวลาหนึ่งซีซั่นมาแล้วด้วย โดยนักเตะย้ายจาก เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังในรัสเซียมาร่วมทีมหงส์แดงเมื่อปี 2008 ด้วยค่าตัว 6 ล้านยูโรนับถึงตอนนี้ก็เป็นระยะเวลาสิบปีแล้วที่เจ้าตัวอยู่ค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์
2

       เป็นอันว่าค่อนข้างชัดเจนมากถึงมากที่สุดแล้วสำหรับอนาคตของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าวัยเก๋าชาวสวีดิชที่กำลังจะหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ว่าน่าจะได้ย้ายมาฝากอนาคตไว้กับยอดทีมแห่ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง ปีศาจแดง เพราะหลังจากที่สื่อหลายสำนักได้มีการกระพือข่าวเชื่อมโยงทั้งสองฝ่ายออกมาอย่างหนัก ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดก็เป็นทางด้านของเดอะ ซัน สื่อดังของอังกฤษที่ออกมาตอกย้ำความชัดเจนของเรื่องนี้ด้วยการตีข่าวเชิงเผยข้อมูลว่า

       ทางสโมสรปีศาจแดงนั้นกำลังเตรียมต้อนรับการมาของดาวยิงมหัศจรรย์วัยเก๋ารายนี้แล้ว ด้วยการสับเปลี่ยนเบอร์เสื้อนักเตะในแนวรุกของทีมปัจจุบันเพื่อเคลียร์เบอร์ 9 ไว้ให้อดีตกองหน้า เอซี มิลาน สวมใส่ โดยเดิมทีในซีซั่นนี้เสื้อเบอร์ 9 เป็น อองโตนี่ มาร์กซิอัล หอกดาวรุ่งพุ่งแรงที่ย้ายมาจาก อาแอส โมนาโก เมื่อซัมเมอร์ปีก่อนเป็นผู้สวมใส่

       แต่ปีศาจแดงเลือกที่จะขอคืนเสื้อเบอร์นี้ และให้ทางมาร์กซิอัลโยกไปใส่เบอร์ 7 ซึ่งก็นับเป็นอีกหนึ่งเบอร์สำคัญของทีมแทน เนื่องจากผู้ที่เป็นเจ้าของเบอร์ 7 ในปัจจุบันก็คือ เมมฟิส เดอปาย ปีกดัตซ์แมนที่อนาคตเจียนอยู่เจียนไปจากถิ่นโอลแทรฟฟอร์ดเต็มทีแล้ว

       ส่วนประเด็นอื่นๆที่ออกมาในช่วงนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับ อิบราฮิโมวิช และ ปีศาจแดง นอกเหนือจากเรื่องของเบอร์เสื้อตามที่เดอะ ซันตีออกมานี้แล้วก็ยังมีในส่วนของ คาร์โล อันเชล็อตติ ว่าที่นายใหญ่คนใหม่ของทีมเสือใต้ที่ได้ออกมากล่าวแสดงความยินดีกับการเสริมทัพครั้งนี้ของปีศาจแดง

       โดย อันเช่ เผยว่าการเสริมทัพด้วยการดึงเอา ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไปร่วมทีมเพราะด้วยฝีเท้าที่ยอดเยี่ยม และประสบการณ์ที่มากล้นของนักเตะนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการประคองบรรดาแข้งเจเนอเรชั่นใหม่ของปีศาจแดง

       สำหรับ อันเชล็อตติ กับ อิบราฮิโมวิช นั้นมีโอกาสได้ร่วมงานกันเมื่อตอนที่อันเชล็อตติกุมบังเหียน ปาริเซียง อยู่ก่อนที่จะโยกมารับงานคุมทีม เรอัล มาดริด ในลาลีกา สเปน

Image From: http://forums.888scoreonline.com/index.php/topic,2136.0.html
3

       จากที่เป็นข่าวว่าจะย้ายออกจากทีมอยู่ร่อมร่อ ดูท่าว่าจะได้อยู่เล่นด้วยกันต่อไปยาวๆซะแล้วสำหรับ อเล็กซิส ซานเชซ ดาวเตะชิลีของทีมปืนโต อาร์เซน่อล เพราะล่าสุดได้มีการออกมาทวิตยืนยันจากสโมสรอาร์เซน่อลเองว่านักเตะได้ตกลงเปลี่ยนหมายเลขเสื้อจากเดิมที่ใส่หมายเลข 17 ไปเป็นหมายเลข 7 สำหรับการลงบู๊ในซีซั่นหน้า

       ทั้งนี้อย่างที่ทราบกันก่อนหน้าในช่วงท้ายๆซีซั่น อเล็กซิส ตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าต้องการย้ายออกจากทีม เนื่องจากไม่ค่อยแฮปปี้กับนโยบายการพัฒนาสโมสร ที่ไร้ซึ่งความกระตือรื้อร้นในการคว้าความสำเร็จ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมที่มีการเล่นอันไร้ชีวิตชีวาในสายตาของตนเอง

       กระนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่เฟร้นแมนของทีมก็ได้ออกมายืนยันฟันเฟิร์มว่า สถานการณ์ของแข้งชิลีรายนี้ไม่ได้มีอะไรน่าห่วง และมั่นใจว่าจะสามารถตกลงสัญญาฉบับใหม่กับนักเตะได้ในช่วงซัมเมอร์นี้

       แล้วก็ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น ตอนนี้ก็ได้มีการออกมายืนยันเบอร์เสื้อในซีซั่นหน้าของนักเตะเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าน่าจะเป็นการคอนเฟิร์มอนาคตของนักเตะไปด้วยเลย เพราะหากนักเตะไม่ต้องการอยู่ค้าแข้งในถิ่นเอมิเรตสเตเดี้ยมต่อไปก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงเบอร์เสื้อไปใช้เบอร์ 7 ที่ตนเองชื่นชอบ

       สำหรับเบอร์เสื้อ 7 เดิมนั้นเป็นของ โธมัส โรซิคกี้ ปีกสาธารณรัฐเช็กวัยเก๋า ซึ่งสวมใส่ลงเล่นให้ปืนโตมาหลายซีซั่นแล้ว แต่กำลังจะอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ทำให้เบอร์เสื้อดังกล่าวว่างทันทีที่ซีซั่น 2015-2016 จบลง

       ส่วนสาเหตุที่ทำให้ อเล็กซิส เลือกที่จะอยู่กับปืนโตต่อไปก็น่าจะเป็นการที่นักเตะเห็นได้ถึงความจริงใจของสโมสรที่ต้องการเก็บตนเองไว้ ประกอบกับความกระตือรื้อร้นในการแสดงออกในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้ ซึ่งปืนโตได้ทุ่มเงินก้อนโตคว้ามิดฟิลด์ตัวเก่งอย่าง ชาก้า มาเสริมทัพแล้ว
4

       ต้องบอกว่าผลงานเป็นที่ประจักษ์ชนิดที่เรียกว่าไม่ใช่เฉพาะแค่ในลีกเท่านั้น แต่ทั่วทั้งยุโรปและทั้งโลกขนาดนี้ ก็คงไม่มีใครน่าไหนกล้าที่จะสบประมาทหรือประเมินผลงานของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ นายใหญ่ชาวอิตาเลียนไว้ต่ำกว่ามาตรฐานกุนซือชื่อดังทั่วไปอีกแล้วล่ะ

       โดยล่าสุดนายใหญ่รายนี้ได้ออกมากล่าวเปิดประเด็นถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเองว่า จากผลงานระดับที่ทำเซอร์ไพร์สวงการลูกหนังโลกด้วยการพาจิ้กจอกสยามซิวแชมป์ลีกในซีซั่นนี้ได้ จะทำให้ทุกคนไม่กล้าประมาทผลงานของตนเองเหมือนอย่างที่เคยเจอมาอีกต่อไปแล้ว

       ทั้งนี้ดังที่ทราบกันอดีตนายใหญ่ทีมชาติกรีซเข้ามากุมบังเหียน เลสเตอร์ ซิตี้ ซีซั่นนี้เป็นซีซั่นแรกท่ามกลางความคาดหวังที่ไม่ได้มากมายอะไรนักว่ากันตรงๆหลายคนมองว่า การจะทำทีมให้อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุดของอังกฤษยังเป็นเรื่องยากสำหรับเขาด้วยซ้ำ

       ทว่าผลงานที่ออกมากลับทำเอาสื่อและบรรดาเกจิลูกหนังถึงกับเงิบ เมื่อนายใหญ่อิตาเลียนรายนี้สามารถพา จิ้กจอกสยาม ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมเกาะกลุ่มหัวแถวของตารางคะแนนตั้งแต่เริ่มต้น และรักษาผลงานไว้ได้อย่างคงเส้นคงวาขณะทีมบิ๊กทีมอื่นๆในพรีเมียร์ลีกนั้น ผลัดกันสะดุดเป็นพักๆกระทั่งท้ายที่สุดแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกไปอยู่ในถิ่นคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยม

       รานิเอรี่ กล่าวถึงเรื่องนี้กับสื่อว่า "ผมคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้และก็คิดว่าหลังจากนี้หลายคนคงมองผมในด้านบวกมากขึ้น แน่นอนว่าความสำเร็จมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจิตใจผมแต่ผมคิดว่ามันคงพอจะเปลี่ยนจิตใจคนอื่นได้ ผมมีความสุขมาสักพักแล้ว เพราะผมทราบดีว่าผมตั้งใจทำงานของผมอย่างดีแล้วที่สุด ผมก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกว่าใครจะได้เครดิตในครั้งนี้จะเป็นผม นักเตะ ทีมงานหรือสโมสรก็ตามที่สำคัญคือผมรักในงานที่ผมทำ การได้รับงานทำทีมนี้คือโอกาสที่เหมาะสมสำหรับผมมากๆผมมุ่งมั่นทุ่มเทกับงาน"
5

       ทำไปทำมาอาจจะเบียดแย่งอันดับที่สี่จากทีมเรือใบสีฟ้าได้สำเร็จเหมือนกันงานนี้ สำหรับลูกทีมปีศาจแดงของกุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล เพราะในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ล่าสุด พวกเขาสามารถบุกไปเอาชนะทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อนได้ถึงถิ่น1-0 เก็บเพิ่มได้สามคะแนนขยับขึ้นมามี 63 คะแนนจี้เรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ ทีมอันดับสี่เหลือเพียงแค่หนึ่งคะแนนแล้ว

       ทั้งนี้ก่อนเกมปีศาจแดงบุกเฉือน นอริช ปีศาจแดงรั้งอยู่อันดับห้ามีคะแนนตามหลัง แมนฯซิตี้ อันดับสี่อยู่สี่คะแนน ขณะที่ลงเล่นไปน้อยกว่าอยู่หนึ่งเกม

        สถานการณ์หลังจบเกมของทั้งสองทีมจึงถือได้ว่าเกือบจะเท่ากันเลย กล่าวคือ แมนฯซิตี้ ยังคงได้เปรียบอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่มีแต้มมากกว่าอยู่หนึ่งแต้ม แต่อีกมุมหนึ่งก็นับว่าเป็นความกดดันในตัวที่ถูกลดช่องว่างคะแนนจากสี่เหลือแค่หนึ่งแล้ว ดังนั้นสองเกมสุดท้ายของทั้งสองทีมจึงเป็นตัวตัดสินอนาคตอันดับที่สี่ที่แท้จริงเลย

       สำหรับไฮไลท์ในเกม ปีศาจแดง บุกชนะ นอริช ประตูโทนที่เกิดขึ้นในเกมนี้ของปีศาจแดงได้จาก ฮวน มาต้า นาทีที่ 72 จากการทำแอสซิสของ เวย์น รูนี่ย์

       ส่วนรูปเกมที่เกิดขึ้นตลอดทั้งเกมก็เป็นปีศาจแดงทีมเยือนที่ทำได้เหนือกว่าชัดเจน โดยครองเกมได้มากกว่าถึง 67%-33% สร้างสรรค์โอกาสจบสกอร์ได้รวม 11 ครั้ง ขณะที่เจ้าบ้านทำได้เพียง 6 ครั้งเท่านั้น

       แต่ปัญหาที่น่าห่วงของลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ในเกมนี้ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นปัญหาต่อเนื่องในอีกสองเกมที่เหลือก็คือ ทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้าย เพราะแม้ว่าเกมนี้ทัพปีศาจแดงจะสร้างโอกาสทำประตูได้รวมถึง 11 ครั้ง แต่พวกเขายิงเข้ากรอบไปเพียงแค่สามครั้งเท่านั้น ถือว่าเป็นสิ่งบ่งบอกถึงปัญหาในการเล่นเกมรุกจังหวะสุดท้ายเลย ดังนั้นกับเกมที่ต้องแบกความกดดันไว้มากๆในสองเกมสุดท้ายที่ต้องพยายามคว้าชัยให้ได้ย่อมเป็นอะไรที่น่าห่วงขึ้นไปอีกว่า ความกดดันอาจทำให้มีจังหวะขาดๆเกินๆในการเล่นพื้นที่สุดท้ายเพิ่มอีก
8

       แม้ว่าจะพัฒนาแบบก้าวกระโดดถึงขนาดผงาดขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกซีซั่นนี้แล้วแต่ทว่าทาง เคลาดิโอ รานิเอรี่ กุนซือคนเก่งของทีมจิ้กจอกก็ยังยืนยันว่า ในซัมเมอร์นี้จะไม่มีการพาทีมจิ้กจอกกระหน่ำช้อปปิ้งเสริมทัพผู้เล่นเข้าทีม เพื่อสานต่อความสำเร็จในซีซั่นหน้าแต่อย่างใด โดยจะยังคงคอนเซ็ปการทำทีมแบบเดิมที่จะไม่อาศัยเงินทองดึงผู้เล่นดังๆเข้าทีม เหมือนที่หลายทีมใหญ่นิยมทำกัน แต่จะเน้นการซื้อแบบพิจารณาถึงความคุ้มค่าและพอเพียงเท่านั้น

       ทั้งนี้หลังจากทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดแดนผู้ดีได้แบบชนิดเซอร์ไพร์สทั้งวงการลูกหนัง พวกเขาก็ถูกคาดหมายว่าน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในซัมเมอร์นี้ เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในครั้งนี้ของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลุ้นป้องกันแชมป์แย่งกับบรรดาบิ๊กทีมทั้งหลายในอังกฤษ ที่กำลังเตรียมตัวกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ในซีซั่นหน้า โดยอาจมีการดึงนักเตะดาวดังเข้าทีมเพื่อยกระดับทีม และทุ่มเงินทั้งค่าตัวและค่าเหนื่อยก้อนโตเหมือนกับทีมทีมชั้นนำของยุโรปทำกัน

       อย่างไรก็ตาม รานิเอรี่ ได้ออกมากล่าวยืนยันหลังจากพาเลสเตอร์คว้าแชมป์แล้วว่า ทีมของเขาจะไม่หวังสูงถึงแชมป์เหมือนในซีซั่นนี้แน่นอนสำหรับการต่อสู้ในซีซั่นหน้า แต่จะตั้งเป้าเพียงแค่การติดหนึ่งในสิบอันดับแรกเท่านั้นเพราะทราบดีว่าเรื่องเซอร์ไพร์สแบบนี้เป็นสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

       และล่าสุดก็เป็นอีกครั้งที่กุนซืออิตาเลียนรายนี้ได้ออกมากล่าวย้ำถึงจุดยืนของทีมว่า จะยังคงเป็นทีมที่ไม่ใช่เงินทองไปกับการกระหน่ำช้อปปิ้งผู้เล่นเพื่อยกระดับทีม รานิเอรี่ กล่าวว่า "เราไม่ต้องการดึงผู้เล่นระดับสตาร์เข้ามา เราแค่ต้องการนักเตะของเราที่มีอยู่นี่แหละ เราอยากให้หลายๆคนอยู่กับทีมต่อไป แน่นอนผมก็ต้องการเปลี่ยนแปลงทีมบ้าง แต่นักเตะที่จะซื้อเข้ามาจะเป็นนักเตะที่เหมาะสมกับทีม และการเล่นของเรา ไม่ใช่นักเตะสตาร์ดัง"

9

       เรียกว่าชัดเจนตรงไปตรงมาไม่มีเฟคเลยงานนี้ สำหรับการออกมากล่าวเผยกับสื่อเกี่ยวกับอนาคตของตนเองจากทางด้าน แดเนียล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกจอมแดนซ์ของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล เพราะแม้ว่านักเตะจะยืนยันตามเดิมว่าต้องการประสบความสำเร็จกับทีมหงส์แดง

       โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการพาทีมหงส์แดงทำผลงานบินสูงดังเช่นที่ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยเคยพาทีมเข้าใกล้การกลับไปเป็นแชมป์ลีก ก่อนจะเลือกย้ายซบอาซูกราน่า บาร์เซโลน่า ทิ้งไว้แต่เพียงความประทับใจ และความทรงจำให้แฟนบอลเดอะค็อปได้คิดถึง

       ทั้งนี้ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือออกมาแล้วว่า แดเนียล สเตอร์ริดจ์ กำลังมีอนาคตที่ไม่แน่นอนกับทีมหงส์แดง และมีความเป็นไปได้ด้วยว่านักเตะจะมองหาต้นสังกัดใหม่ในตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ เนื่องจากรู้สึกไม่แฮปปี้ที่ทางกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มองตนเองเป็นตัวเลือกรองของ ดีว็อค โอริกี้ หัวหอกเบลเยี่ยมที่เพิ่งย้ายเข้าทีมมาในซัมเมอร์นี้

       และล่าสุดนักเตะได้ออกมากล่าวผ่านสื่อดังในอังกฤษอย่างเดอะมิร์เร่อร์ เชิงยืนยันว่ายังคงมีความกระหายความสำเร็จร่วมกับหงส์แดง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ปิดโอกาสย้ายออกจากถิ่นแอนฟิลด์ในอนาคตข้างหน้า

       สเตอร์ริดจ์ กล่าวอธิบายสถานการณ์อนาคตของตนเองในถิ่นแอนฟิลด์ในสื่อฟังว่า "แน่นอนผมอยากประสบความสำเร็จร่วมกับลิเวอร์พูล และมีหลายสิ่งอย่างที่ผมอยากจะให้มันเกิดขึ้นแต่ขณะเดียวกันผมก็ไม่กล้าพูดหรอกนะว่าผมจะอยู่กับลิเวอร์พูลตลอดไป"

       "การพูดแบบนั้นมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ หากมีนักเตะคนไหนบอกว่านี่แหละคือสโมสรที่จะเล่นให้ไปทั้งชีวิตพึงรู้ได้เลยว่าเขาคือพวกโกหกหลอกลวง วงการลูกหนังปัจจุบันแต่ละทีมมีการเสริมทัพปรับเปลี่ยนทีมตลอด จะมีนักเตะใหม่ๆเข้ามาแทนที่คนเก่า  ดังนั้นผมจึงมีสิ่งเดียวที่พอทำได้ในยามที่ยังอยู่ที่นี่ นั่นคือตั้งใจกับการฝึกซ้อมในแต่ละวัน และทุ่มเทเต็มที่เมื่อได้โอกาสลงสนามพยายามช่วยทีมยิงประตูให้เยอะที่สุด"

10
 [great] [great]  อ่าเดียวก็คงชิน
Pages: [1] 2 3 ... 10